รัสเซียไม่เชื่อ กลุ่ม IS อยู่เบื้องหลัง เหตุกราดยิงคอนเสิร์ต ล่าสุดยังสูญหายเกือบ 100 คน

มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เผยว่า ทางการรัสเซียไม่เชื่อว่ากลุ่มรัฐอิสลาม (IS) มีศักยภาพมากพอที่จะก่อเหตุกราดยิงคอนเสิร์ตใหญ่ใกล้กรุงมอสโกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 143 คน ซึ่งนับเป็นเหตุก่อการร้ายครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปีของรัสเซีย

ซาคาโรวาระบุว่า ชาติตะวันตกพยายามที่จะรวบรัดและสรุปว่า กลุ่ม IS เป็นผู้ลงมือก่อเหตุกราดยิงในรัสเซีย เพื่อเบี่ยงเบนความผิดให้กับยูเครนและชาติพันธมิตรที่สนับสนุนยูเครน

วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเชื่อว่า เหตุกราดยิงครั้งนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับยูเครน มีการเตรียมช่องทางหลบหนีให้ผู้ก่อเหตุเข้าไปยังยูเครน แต่ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่ายูเครนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหรือเกี่ยวข้องกับเหตุกราดยิงคอนเสิร์ตนี้แต่อย่างใด

อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส หนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดของปูตินแย้งว่า ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะหาช่องทางหลบหนีไปยังยูเครนนั้น พวกเขาคิดที่จะข้ามพรมแดนมายังเบลารุสก่อน แต่เนื่องจากการตรึงกำลังที่เข้มงวดมากขึ้น ทำให้พวกเขาต้องปรับเปลี่ยนแผนรับมือและมุ่งหน้าไปยังชายแดนรัสเซีย-ยูเครน

ด้านผู้อำนวยการหน่วยงานความมั่นคง FSB ของรัสเซีย คาดการณ์ว่า นอกจากยูเครนแล้ว สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้น ก่อนที่ เดวิด คาเมอรอน รัฐมนตรีต่างประเทศและอดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร จะโต้กลับว่า “เป็นความเห็นที่ไร้สาระ”

ขณะที่ คีรีโล บูดานอฟ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองหลักยูเครนเชื่อว่า รัสเซียทราบถึงการเตรียมตัวก่อเหตุโจมตีครั้งใหญ่นี้มาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ แต่เลือกที่จะไม่พูดอะไร เพราะพวกเขาประเมินความรุนแรงของการโจมตีต่ำเกินไป อีกทั้งยังมีรายงานว่า เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ก็ได้เตือนรัสเซียแล้วถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดเหตุโจมตีขึ้นใกล้กรุงมอสโก

ล่าสุด สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่ายังมีผู้สูญหายอีกเกือบ 100 คน หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทีมกู้ภัยเชื่อว่าผู้สูญหายส่วนหนึ่งน่าจะเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากมีร่างผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งที่ยังไม่สามารถระบุอัตลักษณ์และยืนยันตัวตนได้

โดยทางการรัสเซียควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 4 ราย พร้อมเผยว่าอาวุธที่ใช้ก่อเหตุน่าจะเป็นปืนคาลาชนิคอฟ และตรวจพบปลอกกระสุนปืนกระจายอยู่ในที่เกิดเหตุกว่า 500 นัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและหาข้อเท็จจริง

ภาพ: Sputnik / Sergei Guneev / Pool via Reuters

อ้างอิง: