การแข่งขัน F1 ฤดูกาล 2024 สนามที่ 22 รายการลาสเวกัสกรังด์ปรีซ์ ที่ลาสเวกัส สตรีท เซอร์กิต ประเทศสหรัฐอเมริกา ในรอบเมนเรซแข่งขันกัน 50 รอบสนาม
ช่วงออกสตาร์ท ชาร์ลส์ เลอแคลร์ นักขับโมนาโก จากเฟอร์รารี สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการแซงขึ้นมา และไล่จี้ จอร์จ รัสเซลล์ นักขับสหราชอาณาจักร จากทีมเมอร์เซเดสจนเกือบแซงได้ แต่สุดท้ายแซงไม่สำเร็จ ก่อนที่จะถูก คาร์ลอส ไซน์ซ นักขับเพื่อนร่วมทีมจากสเปน แซงไปในรอบที่ 7
โดยหลังจากนั้นรถหลายคันเริ่มทยอยเข้าไปเปลี่ยนยางในรอบที่ 10 จนผ่านไปถึงรอบที่ 17 อันดับหัวแถวจึงกลับมานิ่งอีกครั้ง โดยมีรัสเซลล์นำ และตามมาด้วย แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน นักขับชาวดัตช์ จากเรดบูล เรซซิง และที่ 3 เป็นไซน์ซเหมือนเดิมก่อนช่วงเข้าพิต
ในรอบที่ 16 เครื่องยนต์ของ ปิแอร์ แกสลีย์ มีปัญหา ทำให้ต้องเข้าไปเช็กอาการที่พิต ก่อนตัดสินใจถอนตัวไปในรอบที่ 17
ในรอบที่ 25 อเล็กซ์ อัลบอน นักขับหนึ่งเดียวจากไทย จากวิลเลียมส์ เรซซิง ที่สามารถปีนขึ้นมารั้งอันดับที่ 10 ในขณะนั้น ต้องรีไทร์ออกจากการแข่งขันไป หลังเครื่องยนต์มีปัญหา กลายเป็นรถคันที่ 2 ที่ต้องออกจากการแข่งขันเรซนี้ไป
จนรอบที่ 42 คาร์ลอส ไซน์ซ แซงหน้าเวอร์สแตพเพน ขึ้นไปรั้งที่ 3 ได้สำเร็จ พร้อมผลักนักขับชาวดัตช์ลงมาแข่งขันกับเพื่อนร่วมทีมของเขาอย่างเลอแคลร์ ในการแย่งอันดับ 4
และในรอบที่ 47 เลอแคลร์ก็แซงเวอร์สแตพเพน ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ได้สำเร็จ แต่นั่นอาจจะไม่สำคัญต่อนักขับชาวดัตช์แล้วก็ได้
และเมื่อครบ 50 รอบ ผู้ชนะเรซนี้ได้แก่ จอร์จ รัสเซลล์ จากเมอร์เซเดส ตามด้วยเพื่อนร่วมทีมอย่าง เซอร์ลูอิส แฮมิลตัน ตามหลังมา 7.313 วินาที และที่ 3 เป็น คาร์ลอส ไซน์ซ ตามหลังผู้ชนะ 11.906 วินาที
เวอร์สแตพเพนจบที่ 5 แต่ก็เพียงพอที่ทำให้เขาเป็นแชมป์ หลังเก็บเพิ่มเป็น 403 คะแนน มีช่องว่างห่างจาก แลนโด นอร์ริส เพิ่มเป็น 64 คะแนน แต่เหลือการแข่งขันอีกแค่ 2 เรซเท่านั้น
ทำให้แชมป์โลกในประเภทบุคคล กลายเป็นเวอร์สแตพเพนที่คว้าแชมป์ 4 สมัยติดต่อกันได้สำเร็จ ส่วนแชมป์โลกประเภททีมผู้ผลิตต้องรอตัดสินกันในสนามที่เหลือต่อไป
โดยเรซต่อไปเป็นศึกกาตาร์กรังด์ปรีซ์ แข่งขันในสัปดาห์หน้า วันที่ 1 ธันวาคมนี้
ภาพ: Chris Graythen / Getty Images