ผู้บัญชาการทหารบกระดมกำลังทหารกว่า 6 พันนายรับมือสถานการณ์พายุปาบึกบริเวณอ่าวไทยตอนล่างที่เคลื่อนกำลังขึ้นฝั่งของไทยแล้ววันนี้ พร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือ ทั้งรถบรรทุก เรือแบล็กฮอว์ก MI-17 ช่วย 14 จังหวัดรับมือพายุปาบึก
ในวันนี้ (4 ม.ค.) พันเอก วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจากกรณีสถานการณ์พายุปาบึกบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งจังหวัดนครศรีธรรมราชในเย็นวันนี้ ทำให้มีฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง และลมแรง
ทำให้ พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก สั่งหน่วยทหารในส่วนกลางเข้าสนับสนุน โดยร่วมบูรณาการการทำงานกับหน่วยทหารของกองทัพภาคที่ 4 ในการเข้าช่วยเหลือประชาชนจากเหตุพายุโซนร้อนปาบึก โดยเน้นกำชับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมสั่งการให้มีการตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ขึ้นที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์ร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 และมณฑลทหารบกใน 14 จังหวัดภาคใต้อย่างใกล้ชิด
โดยในปัจจุบันพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ได้มีการจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยขึ้นจำนวน 22 ศูนย์ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อติดตามสถานการณ์และพร้อมเข้าให้การช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัยได้ในทันที
ทางด้านพันเอก วินธัย กล่าวว่าล่าสุดมีการตั้งกองอำนวยการช่วยเหลือประชาชนส่วนหน้าประจำพื้นที่เสี่ยงเรียบร้อยแล้ว การจัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ประกอบด้วย กองร้อยบรรเทาสาธารณภัยจำนวน 45 กองร้อย มีกำลังพลรวม 6,048 นาย, รถบรรทุก 240 คัน, เรือ 115 ลำ, ชุดแพทย์เคลื่อนที่ 14 ชุด, รถครัวสนาม 22 คัน, ชุดเปิดเส้นทาง 4 ชุด และได้มีการจัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์จากส่วนกลางไปเสริม โดยกองพลทหารราบที่ 9 ประกอบด้วย รถยนต์บรรทุกขนาด 2 1/2 ตัน จำนวน 6 คัน และรถครัวสนาม จำนวน 3 คัน เข้าไปเสริม ซึ่งได้เคลื่อนย้ายเดินทางไปสมทบกับกองทัพภาคที่ 4 ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้วในวันนี้
พันเอก วินธัย กล่าวต่อว่าสำหรับการสนับสนุนยุทโธปกรณ์ในส่วนกลางลงไปเพิ่มเติมมี 2 ส่วน ส่วนแรกประกอบด้วยเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก 1 ลำ, เฮลิคอปเตอร์ MI-17 1 ลำ พร้อมชุดค้นหาและกู้ภัยจำนวน 15 นาย จากศูนย์การบินทหารบกและหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ, รถสะพานเครื่องหนุนมั่น (MFB) จำนวน 2 คัน, รถสายพานอเนกประสงค์ (Bronco) จำนวน 1 คัน, รถยนต์บรรทุกขนาด 5 ตัน ประกอบเครื่องยก 1 คัน, รถยนต์บรรทุกขนาด 5 ตันสำหรับลากจูง 1 คัน จากกรมการทหารช่าง รวมถึงรถสื่อสารดาวเทียมทางยุทธวิธี 1 คัน จากกองพันทหารสื่อสารที่ 101 กรมทหารสื่อสารที่ 1 โดยพร้อมเข้าเชื่อมต่อระบบการสื่อสารทันทีหากการสื่อสารของภาคพลเรือนติดขัดในบริเวณพื้นที่ประสบภัย ซึ่งทั้งหมดได้มีการเคลื่อนย้ายเพื่อเดินทางไปคอยให้การสนับสนุนอยู่ ณ บริเวณกองบิน 5 (อ่าวมะนาว) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรียบร้อยแล้ว
สำหรับส่วนที่สองมีรถยนต์บรรทุกขนาด 2 1/2 ตัน (FTS) จำนวน 16 คัน, รถครัวสนามจำนวน 6 คัน, รถผลิตน้ำประปาจำนวน 1 คัน จากกองพลทหารราบที่ 9 และรถยนต์บรรทุกขนาด 2 1/2 ตัน (FTS) จำนวน 4 คัน จากกรมการทหารช่าง และรถครัวสนาม จำนวน 1 คัน, รถยนต์บรรทุกขนาด 2 1/2 ตัน (FTS) จำนวน 1 คัน จากกรมทหารสื่อสารที่ 1 ได้มีการเคลื่อนย้ายจากที่ตั้งหน่วยปัจจุบันเพื่อเดินทางไปคอยให้การสนับสนุนอยู่ ณ บริเวณศูนย์การทหารราบ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งคาดว่าจะถึงในช่วงเย็นวันนี้
ภาพ: Army PR Center
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: