ถึงแม้ไม่ได้ออกเรือไปด้วยกัน แต่โซโลก็ยังเป็น ‘เพื่อน’ ที่ดีที่สุดสำหรับเรา
ย้อนกลับตอนเป็นเด็ก ม.ต้น หัวเกรียน ที่เริ่มอ่านการ์ตูนเรื่อง One Piece มาจนถึงวันที่โตขึ้นมา (แต่หัวยังเกรียนเหมือนเดิม) เดินเข้าห้องอัดรายการ โลกคือการ์ตูน EP.4 ความรู้สึกนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยน
“บาดแผลกลางหลังคือความอับอายของนักดาบ”
ตั้งแต่โซโลพูดประโยคนี้ให้เราฟังเป็นครั้งแรกตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อน และเมื่อ ‘ดาบดำ’ ของ จูลาคีล มิฮอว์ก ผ่ากลางหน้าอก พร้อมเลือดที่กระเด็นออกมาเป็นสาย ‘ความฝัน’ แหลกสลายลงในพริบตา เราก็สถาปนาตัวเป็นแฟนคลับอันดับหนึ่งของนักดาบหัวเขียวคนนี้ทันที
เมื่อความฝันถูกเหยียบย่ำ หลายคนอาจเลือกที่จะทิ้งความปรารถนา ใช้ชีวิตเพียงเพื่อให้อยู่รอดอย่างเจ็บปวดน้อยที่สุด แต่ไม่ใช่กับ โซโล ที่ชูดาบขึ้นฟ้า เลือดท่วมกาย น้ำตาลูกชายนองหน้า ประกอบเศษหัวใจที่แหลกสลายขึ้นมาใหม่ พร้อมเอ่ยสัญญากับลูฟี่ ‘เพื่อนรัก’ ที่พบกันได้ไม่นานว่า
“จนกว่าจะถึงวันที่เอาชนะหมอนั่น และได้กลายเป็นนักดาบผู้ยิ่งใหญ่ ฉันจะไม่แพ้ใครอย่างเด็ดขาด มีปัญหาอะไรไหม เจ้าแห่งโจรสลัด”
และออกเดินทางพร้อมพวกพ้องในฐานะหน่วยต่อสู้ สมาชิกคนที่ 2 ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เสี่ยงชีวิตนับครั้งไม่ถ้วน ฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก เพื่อกลับไปพิชิตเป้าหมายนักดาบอันดับหนึ่ง
หากความพ่ายแพ้คือสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ โซโลคือคนอ่อนแอที่มีหัวใจเข้มแข็งมากที่สุด
โซโลปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูนเล่มตอนที่ 3 ด้วยสภาพถูกมัดติดกับเสา เพียงเพราะฟันสุนัขจิ้งจอกของลูกชายผู้พันแห่งกองทัพเรือ เพื่อช่วยชีวิตเด็กสาวและชาวเมืองที่กำลังเดือดร้อนเอาไว้
ถึงแม้ไม่มีอาหารตกถึงท้องเป็นเวลา 9 วัน ร่างกายเหนื่อยล้า สะบักสะบอม แต่จิตวิญญาณของเขายังคงแข็งกร้าว แววตาน่ากลัวเหมือนปีศาจ และฝืนกลืน ‘ข้าวปั้น’ ที่ถูกเหยียบเละคาพื้นของเด็กสาวที่เขาช่วยชีวิตเอาไว้
“ช่วยไปบอกเด็กคนนั้นด้วย บอกว่า อร่อยมาก ขอบใจนะ”
หากวันนั้นคนมองว่าเขาเป็นปีศาจ โซโลคือ ‘ปีศาจ’ ที่มีหัวใจอ่อนโยนยิ่งกว่าใคร
นิสัยหลงทิศกลายเป็นสัญลักษณ์ที่คนอ่านและผู้เขียนอย่าง เออิจิโระ โอดะ เอามาสร้างมุกตลกล้อเลียนโซโลอยู่เสมอ ชนิดที่ว่าวิ่งตามกันอยู่ดีๆ กะพริบตาครั้งเดียว โซโลก็พร้อมที่จะนอกเส้นทางได้ตลอดเวลา
แต่เมื่อถึงเวลาสำคัญ เขาคือคนที่หนักแน่น ยึดมั่นในเหตุผลและความถูกต้องมากที่สุด โดยเฉพาะตอนที่ลูฟี่และอุซปทะเลาะกันบนเกาะวอเตอร์เซเว่น แล้วลูฟี่ที่ตัดสินทุกอย่างตามความรู้สึกและสัญชาตญาณเกิดความลังเล โซโลก็เป็นคนเดียวที่กล้าขวางกัปตัน แล้วยืนหยัดพูดขึ้นมาว่า
“นั่นคือกัปตันไม่ใช่หรือ จงอย่าสับสน ถ้านายโลเลเปลี่ยนไปมา พวกเราจะไปเชื่อมั่นใครได้”
โซโลคือคนจอมหลงทาง ที่แน่วแน่ใน ‘เส้นทาง’ มากที่สุด
ก่อนหน้านี้โซโลเคยคิดว่าความฝันเป็นนักดาบอันดับหนึ่งคือเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขารู้ว่า ‘มิตรภาพ’ นั้นสำคัญเหนือทุกอย่าง ถึงขนาดเคยบอกให้ 7 เทพโจรสลัด บาโซโลมิว คุมะ เอา ‘หัว’ ของเขาไปแทนลูฟี่ หลังจบศึกที่ทริลเลอร์ พาร์ก
แม้วันนั้นเขาจะรอดชีวิต แต่ก็ต้องแลกมากับการยอมรับความเสียหายชนิดที่ว่า ตายไปยังสบายเสียกว่า สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะปิดปาก และบอกให้ทุกคนเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะถ้าคนรักเพื่อนอย่างลูฟี่รู้เรื่องนี้เข้า จะไม่มีวันยอมรับเรื่องนี้ได้เด็ดขาด
รวมทั้งช่วงที่โซโลต้องไปอยู่บนเกาะเดียวกับมิฮอว์กตาเหยี่ยว เขาก็ยอมทิ้ง ‘ศักดิ์ศรี’ ที่แบกไว้มาตลอด คุกเข่าขอร้องให้ศัตรูอันดับหนึ่งถ่ายทอดวิชาดาบให้ เพื่อพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องเพื่อนๆ และช่วยให้ลูฟี่ได้เป็นเจ้าแห่งโจรสลัด
หากการยอมรับ ‘ความอ่อนแอ’ คือจุดเริ่มต้นของความแข็งแกร่ง โซโลคือคนที่เข้าใจแก่นแท้ของความแข็งแกร่งได้มากกว่าใคร
หากการคุกเข่าคือสัญลักษณ์ของคนไร้ศักดิ์ศรี โซโลคือคนยอมทิ้งศักดิ์ศรีที่น่านับถือมากที่สุด
โซโลคือตัวละครที่ยังมีอดีตเป็นปริศนา เรารู้เพียงแค่ว่าเขาเติบโตมากับสำนักดาบชิโมสุกิ อยากเป็นนักดาบอันดับหนึ่งที่ชื่อเสียงโด่งดังจนเพื่อนรักที่อยู่บนสวรรค์ได้ยิน จนล่าสุดเนื้อเรื่องมาถึงภาควาโนะคุนิ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับซามูไร อ.โอดะก็ยังไม่ยอมเปิดเผย
แต่สำหรับเรา ไม่ว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหนก็ไม่สำคัญ เท่ากับการที่ลึกๆ แล้วเขาก็ยังเป็น โรโรโนอา โซโล คนเดิม คนที่เป็นนักดาบหัวเขียว เป็นปีศาจสุรา เป็นจอมหลงทิศ เป็นคนที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง เป็นคนที่เราเฝ้ารอวันที่เขาก้าวข้ามตาเหยี่ยวได้สำเร็จ เป็นคนรักพวกพ้องเหนือสิ่งอื่นใด
เป็นหนึ่งในตัวละครที่เรา ‘รัก’ และเป็น ‘เพื่อน’ ที่ฝึกฝนวิชาดาบรอเราอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ และพร้อมพาเรา ‘หลงทาง’ ไปในโลกแห่งจินตนาการทุกครั้งที่เปิดหนังสือขึ้นมาอ่านเหมือนเดิม
รับชมรายการ โลกคือการ์ตูน EP.4 ตอน โซโล พวกพ้อง วิถีดาบ จิตวิญญาณ และความเป็นที่หนึ่ง Feat. สะอาด ได้ที่