สโมสรฟุตบอลโรมา เตรียมชักชวนสโมสรฟุตบอลระดับชั้นนำของยุโรปให้เข้าร่วมโครงการช่วยตามหาเด็กผู้สูญหายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของสโมสร หลังจากที่ได้ริเริ่มโครงการนี้และสามารถช่วยเหลือเด็กได้ถึง 6 คน
ทีม ‘หมาป่าเหลืองแดง’ แห่งกัลโช เซเรีย อา อิตาลี ได้ร่วมมือกับองค์กรการกุศล 12 แห่งทั่วโลกในโครงการช่วยตามหาเด็กที่สูญหาย ด้วยความเชื่อในพลังของเกมกีฬาและโซเชียลมีเดีย โดยใช้การประกาศข่าวสำคัญของสโมสรผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของสโมสรเอง เช่น การประกาศข่าวเซ็นสัญญานักฟุตบอล พร้อมลงประกาศตามหาเด็กที่ได้รับแจ้งว่าหายตัวไปคู่กันด้วย โดยจะมีการลงรายละเอียดทั้งภาพ ชื่อนามสกุลของเด็ก วันที่หายตัวไป และหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ
โดยนับตั้งแต่ริเริ่มโครงการนี้ โรมาได้ประกาศตามหาเด็กที่สูญหายไปแล้ว 125 ครั้ง และสามารถช่วยเหลือเด็กได้มากถึง 6 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเด็กน้อยชาวเคนยาที่ถูกพบหลังจากประกาศพร้อมข่าวการคว้าตัว คริส สมอลลิง กองหลังที่ยืมตัวมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สมอลลิงกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “นี่คือช่วงเวลาที่มีความหมายอย่างมากสำหรับผม และเป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับครอบครัวของพวกเขา สำหรับผมที่เป็นพ่อคนแล้วในตอนนี้ การที่ไม่รู้ว่าลูกของเราอยู่ที่ไหนคือสิ่งที่ยากที่สุดในชีวิต และผมไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้กับใครเลย
“ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นสิ่งที่สโมสรอื่นให้ความสนใจ ผมคิดว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่ดี และเรียนตามตรงว่าเมื่อดูจากความนิยมและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ ผมรู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ทำไมไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่ก็ต้องให้เครดิตกับโรมาที่เป็นคนริเริ่มเรื่องนี้”
ด้าน พอล โรเจอร์ส หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของโรมา เผยถึงแรงบันดาลใจของเรื่องนี้ว่ามาจากมิวสิกวิดีโอ Runaway Train ของวง Soul Asylum จากยุค 90 ที่มีการแทรกภาพของคนที่หายตัวไปในระหว่างมิวสิกวิดีโอ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากแฟนฟุตบอลทั่วโลกที่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว และเชื่อว่าหากมีการร่วมมือกันระหว่างสโมสรฟุตบอลระดับชั้นนำของยุโรปก็จะสามารถช่วยเหลือเด็กที่สูญหายได้มากกว่านี้ และทำให้มีแนวคิดที่จะมีการหารือกับสโมสรอื่นเพื่อสร้างสิ่งดีๆ ร่วมกันในวันเด็กผู้สูญหายโลก (International Missing Children’s Day) ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้
“สิ่งที่โรมาทำนั้นจะไม่มีทางเทียบได้เลยถ้าทุกสโมสรร่วมมือกัน เรากำลังคิดถึงการทำแคมเปญสำหรับวันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันเด็กผู้สูญหายโลก เราพยายามที่จะรวมทุกคนในโลกฟุตบอลให้ร่วมแคมเปญเดียวกัน ไม่ใช่เฉพาะแค่ในการประกาศผ่านข่าวการย้ายทีม
“ผมไม่คาดหวังว่าเราจะประสบปัญหาในการที่เราจะคุยกับสโมสรอื่นเพื่อถามว่าเขาอยากจะเข้าร่วมไหม มันไม่ใช่แค่ข่าวการย้ายทีมหรือเรื่องของโรมา มันคือเรื่องของเด็กๆ ทั่วโลกที่หายตัวไป และสโมสรฟุตบอลรวมถึงพลังของโซเชียลมีเดียสามารถทำอะไรสักอย่างเพื่อที่จะนำพวกเขากลับบ้านได้”
ตามสถิติตัวเลขในสหราชอาณาจักร มีเด็กจำนวนกว่า 86,000 คนที่สูญหายไปทุกปี ซึ่ง โจ ยูล ผู้อำนวยการมูลนิธิ Missing People เชื่อว่าสโมสรฟุตบอลสามารถใช้ฐานแฟนๆ หลายล้านคนที่ติดตามอยู่เพื่อกระจายข่าวได้
“สำหรับครอบครัวเหล่านั้น มันคือการที่พวกเขาได้รู้ว่ามีคนที่ห่วงใยและคิดที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยหาเด็กๆ”
หนึ่งในคนที่ชื่นชมโครงการนี้คือ ปีเตอร์ บ็อกเซลล์ ซึ่งโรมาได้ช่วยประกาศในการตามหาลูกชายที่หายตัวไปมากว่า 32 ปี แม้จะยอมรับว่าโอกาสที่ลูกชายจะมีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้เป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็รู้สึกเข้มแข็งอีกครั้งเมื่อได้เห็นว่ามีคนช่วยเหลือในการตามหาเด็กที่สูญหาย และเชื่อว่าสโมสรฟุตบอลจะสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้อย่างมาก
“ผมยินดีอย่างยิ่งเมื่อทราบข่าวว่ามีการพบเด็กถึง 6 คน ต่อให้พบแค่คนเดียว เรื่องนี้ก็คุ้มค่าที่จะทำ ผมหวังว่าสโมสรอื่นๆ จะช่วยทำในสิ่งเดียวกัน”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: