ในขณะที่อุตสาหกรรมโฆษณาในภาพรวมถูกประเมินอย่างชัดเจนแล้วว่าจะติดลบกว่า 20% เหลือเพียง 72,000 ล้านบาทเท่านั้นในปี 2020 นี้
มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ถูกมองว่าจะเติบโตนั่นคือ ‘ดิจิทัล’ แต่ก็ไม่เหมือนเช่นทุกปีที่เคยเติบโต 20-30% เพราะปี 2020 ถูกประเมินโดยสมาคมโฆษณาดิจิทัลและมีเดีย อินเทลลิเจนซ์แล้วว่า อุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลอาจเติบโตเพียงแค่ 0.5% ด้วยมูลค่าราว 19,653 ล้านบาทเท่านั้น
กลุ่มที่กินเม็ดเงินก้อนใหญ่ในโฆษณาดิจิทัลต่างมีแนวโน้มลดลงกันถ้วนหน้า ทั้ง Facebook และ Instagram ซึ่งกินงบก้อนใหญ่ที่สุดกว่า 6,000 ล้านบาท ปีนี้อาจลดลง 1-2% แต่มีอยู่กลุ่มหนึ่งที่เติบโตสวนกระแสคือ KOL (Key Opinion Leader) หรือ ‘อินฟลูเอนเซอร์’ ที่เรารู้จักกันดี
มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ ประเมินว่า เม็ดเงินโฆษณาในกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์จะเติบโตกว่า 30% ในปีนี้ โดยสาเหตุที่เติบโตอย่างร้อนแรงเป็นเพราะแบรนด์และนักการตลาดมองแล้วว่า ‘อินฟลูเอนเซอร์’ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นยอดขายที่เกิดขึ้นได้ทันทีหลังจากผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดเหล่านี้ได้พูดออกไป
โดยกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่ต้องจับตามองมากที่สุดในเวลานี้คือ ‘คู่จิ้นสายวาย’ ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งไบร์ท-วิน หรือมิว-กลัฟ ที่มีราคาเฉลี่ย 800,000-900,000 บาทต่อ 1 คอนเทนต์ เช่น ถ่ายคลิปสั้นๆ หรือโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งถือว่าสูงกว่าอินฟลูเอนเซอร์ในกลุ่มเดียวกันที่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 400,000-500,000 บาทต่อ 1 คอนเทนต์
แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือ คู่ของไบร์ท-วิน ที่โด่งดังจากซีรีส์ เพราะเราคู่กัน 2gether The Series ที่ทางค่ายเป็นผู้รับงานให้และยื่นข้อเสนอว่า บางงานอาจจะต้องรับงานเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มเข้าไปเป็น 3-5 ล้านบาทเลยทีเดียว
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย