×

ทุ่มสกัดค่าเงินอ่อน! ธนาคารกลางอินเดีย พร้อมขายทุนสำรองฯ อีก 1 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อปกป้องค่าเงินรูปี

20.07.2022
  • LOADING...
ค่าเงินรูปี

ธนาคารกลางอินเดีย เตรียมที่จะขายทุนสำรองสกุลตราต่างประเทศเพื่อปกป้องค่าเงินรูปีที่กำลังอ่อนค่าอย่างรุนแรง โดยตลอดทั้งปี 2022 ค่าเงินรูปีอ่อนค่าลงมาแล้วกว่า 7% โดยอ่อนค่าไปมากกว่าระดับ 80 รูปีต่อดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า หากธนาคารกลางอินเดียไม่เข้าแทรกแซง ค่าเงินรูปีมีแนวโน้มจะอ่อนค่าไปมากกว่านี้ 

 

ล่าสุดทุนสำรองของอินเดียลดลงไปกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ จากจุดสูงสุดที่ 6.42 แสนล้านดอลลาร์เมื่อเดือนกันยายน ปี 2021 ส่วนหนึ่งจากการที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า แต่เหตุผลหลักเป็นผลจากการขายเงินทุนสำรองในสกุลดอลลาร์ออกไป 

 

อย่างไรก็ตาม ทุนสำรองของอินเดียที่ระดับ 5.8 แสนล้านดอลลาร์ ยังถือเป็นประเทศที่มีทุนสำรองมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก ทำให้ธนาคารกลางยังมั่นใจว่าจะสามารถหยุดยั้งการอ่อนค่าไว้ได้ 

 

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ธนาคารกลางอินเดียแสดงให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมจะใช้ทุนสำรองเพื่อป้องกันความผันผวนของค่าเงินรูปี โดยธนาคารกลางอินเดียสามารถที่จะใช้เงินได้มากถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ หากจำเป็นจะต้องทำ 

 

ด้าน Charu Chanana นักกลยุทธ์ของ Saxo Capital Markets เปิดเผยว่า พื้นฐานเศรษฐกิจของอินเดียยังคงแข็งแกร่ง ทำให้ค่าเงินรูปีน่าจะกลับมาแข็งค่าได้เมื่อค่าเงินดอลลาร์เริ่มพีค 

 

ขณะที่นักลงทุนต่างชาติได้ขายหุ้นอินเดียออกมาเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยนักกลยุทธ์ส่วนใหญ่เชื่อว่าจุดแย่สุดของค่าเงินรูปียังไม่ได้เกิดขึ้น แม้ว่าธนาคารกลางอินเดียพยายามที่จะปกป้องค่าเงินอย่างเต็มที่ 

 

เทรดเดอร์ชาวสิงคโปร์กล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติดูเหมือนจะยังไม่รีบกลับเข้าลงทุนในอินเดียเท่าใดนัก จากสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลก และการถอนสถาพคล่องออกจากตลาด เรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการดูดเงินดอลลาร์กลับเท่านั้น 

 

ขณะที่เทรดเดอร์อีกรายประเมินว่า การทำ QT เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นในสหรัฐฯ หมายความว่าเงินดอลลาร์จะยังแข็งค่ากว่ารูปีต่อไป โดยค่าเงินรูปีมีโอกาสจะอ่อนค่าไปถึง 84-85 รูปีต่อดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มกลับทิศ

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising