ทีมกู้ภัยตุรกีเดินหน้าให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่บริเวณพื้นที่ทางตอนใต้ของตุรกีอย่างเต็มกำลัง แม้ผู้ประสบเหตุบางรายจะติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังของตัวอาคารที่พังถล่มลงมานานกว่า 7 วันแล้วก็ตาม
โดย ไมราย์ เด็กหญิงชาวตุรกีที่ติดอยู่ภายใต้ซากอาคารแห่งหนึ่งในเมืองอาดิยามันมานานกว่า 178 ชั่วโมง หรือราว 7 วันครึ่ง เป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตที่ได้รับการช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยเมื่อวานนี้ (13 กุมภาพันธ์) ขณะที่ คาน หนุ่มน้อยวัย 13 ปีที่ติดอยู่ภายใต้ซากที่พักอาศัยในเมืองฮาทายมานานถึง 182 ชั่วโมง ก็ได้รับความช่วยเหลือเช่นเดียวกัน โดยเด็กทั้งสองรายอยู่ในสภาพที่อ่อนแรง
ทางด้าน ศ.โทนี เรดมอนด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน เผยว่า อัตราการเสียชีวิตของผู้ที่ติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังนั้น อาจขึ้นอยู่กับข้อจำกัดว่าร่างกายของมนุษย์เราสามารถอยู่ได้โดยปราศจากน้ำได้นานแค่ไหน รวมถึงปัจจัยอื่นๆ อย่างเช่น พื้นที่ที่ผู้ประสบภัยติดอยู่นั้นสามารถหายใจได้สะดวกมากน้อยแค่ไหน อาการบาดเจ็บของพวกเขาสาหัสหรือไม่ อย่างไร
เรดมอนด์ยังระบุอีกว่า อุณหภูมิที่หนาวเย็นของตุรกีและซีเรียในช่วงเวลานี้เหมือนเป็นดาบสองคม เพราะถ้าคุณรู้สึกหนาว หลอดเลือดของคุณจะหดตัว คุณมีโอกาสที่จะอยู่รอดได้นานขึ้นเล็กน้อยหากคุณมีอาการบาดเจ็บ แต่ในขณะเดียวกันอากาศที่หนาวเย็นมากจนเกินไปก็อาจจะเป็นอันตรายต่อตัวเราได้เช่นเดียวกัน
ทางด้านองค์การสหประชาชาติระบุ จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่นี้สูงกว่า 36,000 รายแล้ว และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนอาจเพิ่มสูงขึ้นอีกเท่าตัวในอนาคตอันใกล้นี้ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขตุรกีเผย มีผู้ประสบภัยอย่างน้อย 19,300 ราย กำลังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลใกล้เคียงที่ไม่ได้รับความเสียหายมากนักจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว
ภาพ: Murat Sengul / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: