×

ธนสิทธิ์เปิดชื่ออดีต ผบ.ตร. พา ดร.สายประสิทธิ์ มาพบ เสนอรายงานเปลี่ยนความเร็วรถในคดีบอส อยู่วิทยา

โดย THE STANDARD TEAM
14.08.2020
  • LOADING...

เมื่อวานนี้ (13 สิงหาคม) ในห้องประชุมกรรมาธิการกฎหมาย พ.ต.อ. ธนสิทธิ์ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานคดีบอส อยู่วิทยา คนที่เปลี่ยนความเห็นเรื่องความเร็วจาก 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหลือ 79.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้อัยการสั่งไม่ฟ้องในคดีบอส อยู่วิทยา 

 

พ.ต.อ. ธนสิทธิ์ได้กล่าวในห้องประชุมกรรมาธิการฯ ว่า มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงนำตัวอาจารย์สายประสิทธิ์ เกิดนิยม มาพบในห้องทำงานของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของหน่วย และนำสมมติฐานของคดีว่าเป็นวิธีใหม่ที่คำนวณได้ และนำส่งเอกสาร 10 หน้าที่ระบุความเร็วที่ 79.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะนั้นเจ้าตัวมีเวลาจำกัด และเกิดแรงกดดันจนทำให้มีการเปลี่ยนความเห็นเรื่องความเร็วต่อพนักงานสอบสวน

 

ทั้งนี้เอกสารดังกล่าวได้เปิดเผยบันทึกคำให้การของ พ.ต.อ. ธนสิทธิ์ ซึ่งสรุปลำดับเหตุการณ์พอสังเขปดังนี้

 

  1. พ.ต.ท. ธนสิทธิ์ แตงจั่น (ยศในขณะนั้น) เป็นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ 3 กันยายน 2555 และเป็นผู้ออกรายงานการตรวจพิสูจน์ยืนยันความเร็วที่ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลงวันที่ 26 กันยายน 2555

 

  1. หลังจากนั้นอีก 4 ปี คือเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 พ.ต.อ. วิรดล ทับทิมดี ผกก. สอบสวน สน.ทองหล่อ ได้เดินทางมาพร้อมกับ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. และ อาจารย์สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ขอเข้าพบ พล.ต.ท. มนู เมฆหมอก ผบ. สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ที่สำนักงาน ผบช.สพฐ.ตร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

  1. ในวันเดียวกันนั้น พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ได้แนะนำอาจารย์สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ให้ผู้แทนกองพิสูจน์หลักฐานกลางทำความรู้จัก และแจ้งว่า อาจารย์สายประสิทธิ์มีสมมติฐานอีกวิธีมานำเสนอการหาอัตราความเร็วของรถยนต์ที่วรยุทธเป็นผู้ขับขี่ โดยนำเสนอรายงานการวิเคราะห์จำนวน 10 หน้า ระบุความเร็ว 79.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และได้มอบเอกสารดังกล่าวให้กับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง 

 

  1. ในวันเดียวกันนั้นได้มีการสั่งการให้ พ.ต.ท. ธนสิทธิ์ แตงจั่น เข้าร่วมพิจารณากับพ.ต.อ. วิรดล ในสำนักงานกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ซึ่ง พ.ต.อ. วิรดล ได้ส่งเอกสารสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 14 มกราคม 2559 โดยข้อความท้ายหนังสือดังกล่าวระบุว่า พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้สอบสวนเพิ่มเติม พ.ต.ท. ธนสิทธิ์ และส่งผลการสอบสวนให้พนักงานอัยการภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 พ.ต.ท. ธนสิทธิ์ได้มีการคำนวณความเร็วตามสมมติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์ในกระดาษอีกแผ่น ซึ่งได้ค่าใกล้เคียงกัน พ.ต.ท. ธนสิทธิ์ ลงนามไว้ว่าเป็นการคำนวณของตนเอง

 

  1. พร้อมกันนั้น พ.ต.อ. วิรดล ให้ พ.ต.ท. ธนสิทธิ์ ให้ปากคำเรื่องการคำนวณตามสมมติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์ โดยถามถึงความคลาดเคลื่อนที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการคำนวณตามรายงานการตรวจพิสูจน์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2555 ที่ได้ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่ง พ.ต.ท. ธนสิทธิ์ ได้ให้ปากคำว่า อาจเกิดขึ้นได้ตามหลักทางวิทยาศาสตร์ ส่วนในเรื่องความคลาดเคลื่อนตามสมมติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์ในเวลานั้น ซึ่งเพิ่งได้เห็นสมมติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์เป็นครั้งแรก จึงไม่สามารถบอกได้ว่ามีความคลาดเคลื่อนหรือความบกพร่องอย่างไร

 

  1. พ.ต.ท. ธนสิทธิ์ได้ให้ปากคำในวันนั้นจนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. สุดท้ายจึงลงนามในเอกสารสองฉบับ ฉบับแรกลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 อีกฉบับลงวันที่ 2 มีนาคม 2559 โดยมีการให้เหตุผลว่า ถูกเร่งรัดให้รีบดำเนินการ เนื่องจากผู้บังคับบัญชาที่อยู่ด้วยไม่ได้ทักท้วง พ.ต.ท. ธนสิทธิ์จึงลงนามในเอกสาร

 

  1. ต่อมา 29 มีนาคม 2559 พ.ต.ท. ธนสิทธิ์ ได้ร่วมกับทีมพิสูจน์หลักฐานเดิม ทำรายงานพิสูจน์สมมติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์ พบว่าการกำหนดให้ค่าตัวแปรต่างๆ ผิดไปจากความเป็นจริงมาก โดยวิธีการดังกล่าวมีความผิดพลาดถึง 46% จึงทำให้ความเร็วที่ได้เท่ากับ 79.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นค่าคำนวณที่ไม่ถูกต้อง จึงได้นำรายงานดังกล่าวเสนอต่อผู้บังคับบัญชา ขอให้ประสานไปยัง พ.ต.อ. วิรดล ผกก. สอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อขอให้ปากคำเพิ่มเติม ยืนยันผลการตรวจพิสูจน์ที่ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งในวันนั้นผู้บังคับบัญชาได้โทรประสาน พ.ต.อ. วิรดล ทันที แต่ พ.ต.อ. วิรดล ปฏิเสธว่าไม่สามารถสอบปากคำเพิ่มเติมได้ และได้ส่งเอกสารการให้ปากคำให้กับพนักงานอัยการแล้ว พร้อมทั้งยังได้อ้างเหตุว่า คดีเรื่องขับรถเร็วขาดอายุความไปแล้ว ทำให้ผู้บังคับบัญชาและ พ.ต.ท. ธนสิทธิ์ สำคัญผิดว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกใช้ในสำนวนแล้ว แต่ พ.ต.ท. ธนสิทธิ์ ยืนยันกับผู้บังคับบัญชาว่าจะให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อความถูกต้องในสำนวน

 

  1. ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2559 พ.ต.อ. ธนสิทธิ์ได้เดินทางไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ แต่เมื่อไปถึงห้องประชุม ได้มีเจ้าหน้าที่สภามาแจ้งว่าขอเลื่อนการประชุมออกไปก่อน และไม่เคยมีใครติดต่อไปจนปัจจุบัน

 

  1. ต่อมา พ.ต.อ. ธนสิทธิ์ เดินทางไปให้ถ้อยคำกับคณะอนุกรรมการไต่สวนที่สำนักงาน ป.ป.ช. และได้แจ้งให้คณะอนุกรรมการไต่สวนบันทึกไว้ในเอกสารว่า ขอเพิ่มเติมความเห็นในกรณีความเร็วของรถว่าสามารถพบความบกพร่องของสมมติฐานในการคำนวณความเร็วของอาจารย์สายประสิทธิ์ ดังนั้นความเร็ว 79.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจึงไม่ถูกต้อง ซึ่งทั้งมีบันทึกคำให้การถูกคัดถ่ายเป็นสำเนาไว้

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising