ผลสำรวจของ Dragon Trail International บริษัทด้านการท่องเที่ยวในประเทศจีน พบ 40% ของนักท่องเที่ยวชาวจีนไม่มีแผนจะเดินทางออกนอกประเทศในปีนี้แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศเปิดประเทศแล้วก็ตาม
Dragon Trail International ได้ทำการสำรวจความเห็นจากนักท่องเที่ยวจำนวน 1,058 คนใน 49 เมืองทั่วประเทศจีนระหว่างวันที่ 4-7 มกราคมที่ผ่านมา โดยพบว่าความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ, ความยุ่งยากในการยื่นขอเอกสารเดินทาง, ไม่ว่างจากงาน, ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและความไม่เป็นมิตรต่อชาวจีนในบางประเทศ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ชาวจีนลังเลที่จะเดินทางออกนอกประเทศ
อย่างไรก็ดี ปัจจัยหลักที่ทำให้ชาวจีนตัดสินใจท่องเที่ยวในประเทศก่อนคือปัญหาเรื่องสภาวะทางเศรษฐกิจและการเติบโตทางรายได้ที่ชะลอตัว สะท้อนได้จากตัวเลข GDP จีนในปีที่ผ่านมาที่ขยายตัวได้เพียง 3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับจากทศวรรษ 70
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่าค่าตั๋วเครื่องบินที่แพงขึ้นและจำนวนไฟลต์บินที่ยังมีไม่เพียงพอก็มีส่วนทำให้ชาวจีนเลือกที่จะยังไม่เดินทางออกนอกประเทศในขณะนี้
Dragon Trail International ยังระบุด้วยว่า ชาวจีนที่ต้องการออกไปท่องเที่ยวในต่างประเทศส่วนใหญ่มีแผนจะเดินทางในช่วงหลังเทศกาลตรุษจีนและในช่วงครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าการเดินทางออกนอกประเทศของชาวจีนจะเริ่มเร่งตัวขึ้นในกรกฎาคม
สำหรับจุดหมายปลายทางที่คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุดคือ ฮ่องกง มาเก๊า และประเทศไทย ส่วนประเทศนอกทวีปเอเชียที่คาดว่าจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจีนคือ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และรัสเซีย
ผลสำรวจของ Dragon Trail International ยังพบด้วยว่า 71% ของชาวจีนที่ต้องการออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศมีแผนจะใช้เวลาท่องเที่ยว 5-10 วัน โดย 45% ระบุว่าจะใช้งบสำหรับการท่องเที่ยวไม่เกิน 20,000 หยวน หรือราว 100,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘จีนเปิดประเทศ’ เร็วกว่าคาด ประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ เริ่ม 8 มกราคมปีหน้า
- ประกาศแล้ว! อิตาลีเตรียมบังคับผู้เดินทางจากจีนทุกรายตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศ หลังพบผู้เดินทางจากจีนสู่มิลานครึ่งหนึ่ง ‘ติดโควิด’
- หอการค้าฯ มองตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปีหน้าอาจสูงถึง 25 ล้านคน หลังจีนส่งสัญญาณเปิดประเทศ แนะภาคบริการเร่งเตรียมพร้อมรองรับ
อ้างอิง: