ศึกฟอร์มูลาวัน ฤดูกาล 2023 เริ่มต้นไปเพียง 2 สนาม แต่ดูเหมือนกับว่าจะมีหนึ่งทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์ฤดูกาลนี้สูงมากกว่าทีมอื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แน่นอนว่าผลการแข่งขัน 2 จาก 23 สนามเป็นสิ่งที่บ่งบอกอะไรไม่ได้มาก หากจะนับจากช่วงเวลาของการแข่งขันที่เหลือ
แต่จากผลงานของทีมเรดบูลล์ เรซซิง ที่คว้าแชมป์บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ โดยมี แม็กซ์ แวร์สเตปเพน เข้าที่ 1 ตามด้วยเพื่อนร่วมทีม เซร์คิโอ เปเรซ ที่ 2 ก่อนจะสลับตำแหน่งกันจบในซาอุดีอาระเบียน กรังด์ปรีซ์ สัปดาห์ต่อมา
ภาพ: Red Bull Content Pool
บวกกับความเร็วของรถเรดบูลล์ที่ทำให้ ลูอิส แฮมิลตัน เจ้าของแชมป์โลก 7 สมัยจากเมอร์ซีดีส ออกมายอมรับว่า “ตอนที่เราเคยเร็ว เราก็ไม่เร็วขนาดนี้”
ซึ่ง ลูอิส แฮมิลตัน กล่าวถึงการขับของ แม็กซ์ แวร์สเตปเพน ที่แซงขึ้นจากอันดับที่ 15 ไปจบอันดับที่ 2 โดยช่วงหนึ่งได้ขับผ่านรถของลูอิสในรอบที่ 12 ไปแบบที่ผู้บรรยายภาษาอังกฤษถึงกับกล่าวว่า “เขาจะป้องกันคู่ปรับเก่าไม่ให้แซงได้หรือไม่ คำตอบคือไม่เลย แม็กซ์แซงได้เลย”
ก่อนลูอิสจะกล่าวเสริมถึงจังหวะนี้ว่า “แม็กซ์แซงผมด้วยความเร็วที่สูงมาก”
ทำให้มุมมองของหลายคนตอนนี้เชื่อว่าการลุ้นแชมป์ฟอร์มูลาวันฤดูกาลนี้จะมีเพียงรถของแม็กซ์ และรถของเพื่อนร่วมทีมเรดบูลล์ของเขาเพียงเท่านั้นในฤดูกาลนี้
ฟอร์มูลาวันในแต่ละยุคสมัย
ภาพ: Red Bull Content Pool
ประวัติศาสตร์ของฟอร์มูลาวันที่ผ่านมา เรามักจะเห็นทีมที่ขึ้นมาแสดงความเร็ว และ ความแข็งแกร่งเหนือทีมอื่นอยู่เป็นช่วงๆ
ก่อนหน้านี้เป็นแม็คลาเรน ในรุ่น MP4/4 หนึ่งในรถฟอร์มูลาวันที่ออกแบบได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ภายใต้การขับของ ไอร์ตัน เซนนา ยอดนักแข่งชาวบราซิล และ อาแล็ง พร็อสต์ เพื่อนร่วมทีม ที่ร่วมกันคว้าตำแหน่งโพล 15 ครั้ง แชมป์ 15 ครั้ง จาก 16 เรซ ในปี 1988
หรือจะเป็นในช่วงปี 1992 ที่วิลเลียมส์กับรถรุ่น FW14B ที่ ไนเจล แมนเซลล์ คว้าแชมป์โลกฤดูกาลนั้นโดยที่ยังเหลือสนามให้แข่งอีก 5 เรซ
เฟอร์รารี กับ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ในปี 2004 ที่คว้าแชมป์ไป 12 จาก 13 สนามแรกของฤดูกาล
มาจนถึง เมอร์ซีดีส ในยุคเริ่มต้นของเครื่องไฮบริด กับรถ W05 ที่คว้าตำแหน่งโพล 18 จาก 19 เรซ คว้าแชมป์ 16 เรซ และจบอันดับที่ 1 และ 2 อีก 11 ครั้ง
ซึ่งเรดบูลล์เองก็กำลังมีช่วงเวลาแบบนั้นในยุคเริ่มต้นของกฎกติกาใหม่เช่นเดียวกัน
สถานการณ์ในปัจจุบันของแต่ละทีม
ภาพ: Red Bull Content Pool
เมอร์ซีดีสคู่ปรับของเรดบูลล์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าพวกเขาออกแบบผิดพลาดและต้องกลับไปแก้ไขใหม่ โดย โตโต วูล์ฟ ทีมบอส ยอมรับที่สนามซาอุดีอาระเบียว่า หากมองตามความเป็นจริง ทีมพวกเขาไม่สามารถตั้งเป้าถึงชัยชนะได้เลยในฤดูกาลนี้
ส่วนเฟอร์รารีเอง แม้ว่าจะก้าวขึ้นมาท้าทายเรดบูลล์ได้บ้าง แต่ด้วยความไม่แน่นอนของทั้งความเร็ว และแผนการแข่งขัน ทำให้ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ นักแข่งของทีม ต้องออกมายอมรับว่า พวกเขาไม่มีทางแก้ไขอะไรได้เลย หลังจากที่เฟอร์รารีจบอันดับ 6 และ 7 ที่ซาอุดีอาระเบีย
มีเพียง แอสตัน มาร์ติน ที่ฤดูกาลนี้ก้าวขึ้นมาเป็นทีมแถวหน้า ด้วยการร่วมมือกับ เฟร์นานโด อลอนโซ อดีตแชมป์โลกที่ล่าสุดจบโพลเดียมเป็นครั้งที่ 100 ในอาชีพได้สำเร็จ แต่ก็ยังห่างจากความเร็วของเรดบูลล์เป็นอย่างมาก
ขณะที่เรดบูลล์เรียกได้ว่าแข่งขันกันเองอย่างแท้จริง เมื่อนักแข่งของทีมทิ้งห่างคนอื่นในฐานะผู้นำตลอด 2 เรซที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้
การแข่งขันที่ผูกขาดเกินไป อาจส่งผลต่อยอดคนดู
ภาพ: Red Bull Content Pool
กีฬาทุกชนิดจะสนุกและตื่นเต้นก็ต่อเมื่อมีคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นตำนานอย่าง มูฮัมหมัด อาลี หรือ โจ ฟราเซียร์ ในมวยสากล เทนนิสในยุคบิ๊กทรี อย่าง ราฟาเอล นาดาล, โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ โนวัค ยอโควิช หรือฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่อาร์เซนอลขับเคี่ยวกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า
ในฟอร์มูลาวันเองตลอด 3 ปีที่ผ่านมาสร้างความตื่นตัวเป็นอย่างมากในตลาดสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันนี้มีสนามแข่งขันอยู่ถึง 3 เรซ
โดยมีทั้งแฟนหน้าใหม่และแฟนกีฬาเดิม ที่คาดว่าจะไม่ตื่นเต้นกับการแข่งขัน 23 สนามที่รู้ผู้ชนะกันตั้งแต่ต้นฤดูกาลแล้ว
ขณะที่มูลค่าทางการตลาดเองก็อาจได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่ดูจะคาดเดาได้มากเกินไป จนเจ้าของทีมฟอร์มูลาวันบางทีมอาจจะเริ่มต้นผลักดันให้สหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ หรือ FIA ออกกฎกติกาใหม่ให้การแข่งขันมีความสูสีมากขึ้น
ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมกับเรดบูลล์มากเท่าไรนัก จากผลงานที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาในฤดูกาลนี้
โตโต วูล์ฟ ทีมบอสของเมอร์ซีดีสก็มองเช่นเดียวกันว่า เรดบูลล์ควรที่จะได้รับคำยกย่อง และไม่ควรถูกลงโทษเพราะความสำเร็จของพวกเขา
“แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับการรับชม ที่เราจะได้เห็นคนหน้าเดิมๆ คว้าแชมป์ตลอดเวลา
“แต่นั่นก็เพราะพวกเขาทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี และเราทำไม่ได้” โตโตกล่าว
“เราไม่ควรที่จะพูดจาด้อยค่าสิ่งนี้ เพราะผมจำได้ว่าเคยได้ยินคำถามแบบนี้ตอนช่วงระหว่างปี 2014-2020
“สิ่งที่ทำให้กีฬานี้มีความพิเศษคือคุณต้องทำงานหนักเพื่อชัยชนะ และคุณคู่ควรกับมัน ความบันเทิงควรมาหลังกีฬา นี่อาจเป็นสิ่งที่ไม่ดีในแง่ของการโฆษณา แต่นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ศึกฟอร์มูลาวันมีความพิเศษ”
ภาพ: Red Bull Content Pool
แน่นอนว่าการแข่งขันฟอร์มูลาวัน ฤดูกาล 2023 เรดบูลล์จะดูเป็นทีมเต็งอย่างปฏิเสธไม่ได้ และแม้ว่าความสำเร็จของเรดบูลล์จะดูเป็นสิ่งที่ทำให้การแข่งขันน่าเบื่อในปีนี้
แต่ก็เหมือนกับที่ โตโต วูล์ฟ บอกว่า ความสำเร็จและชัยชนะที่เกิดขึ้นของเรดบูลล์เป็นสิ่งที่พวกเขาคู่ควรแล้ว และเป็นหน้าที่ของทีมอื่นที่จะต้องแก้ไขสถานการณ์ และกลับมาแข่งขันในสนามสัปดาห์ต่อสัปดาห์หลังจากนี้อีก 21 สนาม
สำหรับศึกฟอร์มูลาวันสนามต่อไปจะแข่งขันกันที่ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ในวันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน โดยอันดับของผู้นำนักแข่งอยู่ที่ แม็กซ์ แวร์สเตปเพน ที่มี 44 คะแนน ตามด้วย เซร์คิโอ เปเรซ ที่ตามหลังอยู่เพียง 1 คะแนน และ เฟร์นานโด อลอนโซ ในอันดับที่ 3 มี 30 คะแนน
อ้างอิง: