×

โรม ยกคณะ กมธ.มั่นคงฯ ถก ผบ.ทร. ยืนยันมาเพื่อช่วย ไม่ได้มาจ้องจับผิด

โดย THE STANDARD TEAM
15.03.2024
  • LOADING...
รังสิมันต์ โรม เดินทางไปพูดคุยกับ ผบ.ทร.

วันนี้ (15 มีนาคม) ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (วังนันทอุทยาน) รังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ เดินทางมาหารือกับ พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ 

 

รังสิมันต์กล่าวว่า วันนี้กองทัพเรืออยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ง่ายเท่าไร ต้องพูดตรงไปตรงมา คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะมาพูดคุยกัน จะได้สร้างความร่วมมือ ร่วมกันพัฒนา และยกระดับการทำงาน แก้ปัญหาร่วมกัน คิดว่าการทำหน้าที่ของกรรมาธิการฯ ในฐานะกลไกของสภา เรามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจทางกองทัพ และกองทัพก็ต้องเข้าใจการทำงานของสภา คิดว่าจะนำไปสู่การสร้างบรรยากาศที่ดี จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมามีข้อถกเถียงหลายเรื่อง เช่น เรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ เราก็ต้องพูดคุยกัน 

 

ส่วนเรื่องการของบประมาณจัดหาเรือฟริเกต ที่ไม่ผ่านคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 นั้น ก็ต้องคุยรายละเอียด เช่นเดียวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานของเรือหลวงคีรีรัฐ เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น กองทัพเรือเองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เราต้องพูดคุยกันว่าจะมีส่วนไหนที่จะสนับสนุนกันและกัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีลักษณะเหตุแบบนี้อีก วันนี้ตั้งใจที่จะสร้างบรรยากาศของการพูดคุยและแก้ปัญหา แน่นอนว่าเราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ เราเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วไม่ได้ แต่เราสามารถมาร่วมมือกันทำหน้าที่เพื่อกองทัพเรือให้มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพต่อไป โดยการหารือวันนี้เป็นกำหนดเวลาที่มีอยู่เดิมแล้ว ไม่ใช่มาเพราะเหตุการณ์เมื่อวาน แต่ก็ต้องมีการพูดคุย อยากให้มองว่าการมาครั้งนี้มาคุยเพื่อทำงานร่วมกัน ซึ่งคิดว่ากองทัพเรือก็เป็นเหล่าสุดท้ายแล้ว 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าโครงการจัดหาเรือฟริเกตที่ถูกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตีตกไปแล้ว ในส่วนของ กมธ.ความมั่นคงฯ จะสามารถพูดให้ทางกองทัพเรือได้หรือไม่ เพราะพรรคก้าวไกลเองก็ดูเหมือนจะสนับสนุน ต่างจากพรรคเพื่อไทย รังสิมันต์กล่าวว่าตนไม่สามารถแสดงจุดยืนงบได้ เพราะเรามาในฐานะกรรมาธิการที่มีหลายพรรคการเมือง แต่เราต้องฟังทุกฝ่าย ถ้าพูดถึงการพัฒนากองทัพอย่างไร ก็ต้องพูดถึงขีดความสามารถในการรบ และในสถานการณ์ปัจจุบันมีความท้าทาย แต่เราจะสร้างขีดความสามารถในการรบอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย สิ่งนี้ต้องมาพูดคุยกัน อย่างที่มีการพูดถึงบ่อยๆ เช่น การถ่ายทอดเทคโนโลยีประกอบ หรือสร้างภายในประเทศ เป็นออปชันที่น่าสนใจ คิดว่าแนวทางเหล่านี้จะได้คุยกับกองทัพเรือว่าเห็นอย่างไร ซึ่งการกำหนดผลลัพธ์ของการสู้รบเป็นแนวทางที่ต้องพูดคุยกัน 

 

รังสิมันต์กล่าวยืนยันว่า วันนี้เรามองหาการทำงานร่วมกัน ขอเรียกว่าเป็นการมาช่วยกองทัพมากกว่า หลายคนบอกว่าตนมาจ้องจับผิด แต่แน่นอนว่าเราต้องถาม และสังคมอยากจะรู้ เชื่อว่าวิธีแบบนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งกับกรรมาธิการและกองทัพเอง เป็นการให้คำตอบกับสังคมว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร ไปทางไหน ตนเข้าใจกองทัพว่าที่ผ่านมายากลำบากจริงๆ มีความท้าทายหลายอย่าง เราก็ให้กำลังใจและพูดคุยต่อไป

 

ส่วนขณะนี้โซเชียลตั้งข้อวิจารณ์ว่า ในรอบ 1 ปีกว่ากองทัพเรือขาดมาตรฐานการปฏิบัติงาน ซึ่งมีหลายเหตุการณ์ร้ายแรง ทั้งเรือหลวงล่ม เรือชนท่าเทียบ และเรือยิงใส่กันเอง รังสิมันต์ระบุว่า ขอไม่คอมเมนต์ ซึ่งต้องรอฟังเหตุผลจากกองทัพเรือ และคำถามต่างๆ ที่โลกโซเชียลถามคิดว่าจะพูดคุยกันอย่างแน่นอน และเราจะฟังทางกองทัพว่าเขาพูดอย่างไร และสิ่งที่จะทำต่อไปจะทำอย่างไร ไม่ให้สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นอีก ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ตนคิดว่าจะมีเวลาในการตอบสื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่ง 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising