หลังจากที่ทางทีมงานรักดอกประกาศยุตินิทรรศการ RakDok Floral Weeks เนื่องจากกระแสตอบรับอันล้นหลาม จนเกิดความกังวลจากหลายฝ่ายว่า นิทรรศการนี้จะกลายเป็นแหล่งสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรคโควิด-19
ล่าสุด (อัปเดตวันที่ 21 กรกฎาคม) ทางทีมงานออกมาแจ้งข่าวดีว่า นิทรรศการ RakDok Floral Weeks จะดำเนินการต่อไปจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2020 ตามกำหนดการเดิม เนื่องจากมีหน่วยงานราชการเข้ามาช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เยี่ยมชม ให้สามารถชมนิทรรศการได้ราบลื่นและถูกหลักอนามัย
นอกจากนี้ยังเปิดระบบ Fast Track สำหรับผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ที่ประสงค์อยากชมนิทรรศการในโรงระหัด โดยแบ่งออกเป็น
1. รอบลงเรือ ซึ่งเป็นหนึ่งจุดไฮไลต์ของนิทรรศการนี้ด้วย คือช่วงเวลา 10.00-10.30 น. จำนวน 12 คิว และรอบ 11.00-11.30 น. เป็นต้นไป 2 คิวแรกจะเป็นคิวของผู้สูงอายุและผู้ติดตาม 1 ท่าน โดยสามารถถ่ายรูปได้คิวละ 2 นาที
2. สำหรับผู้สูงอายุที่มีความประสงค์จะเข้าชมนิทรรศการในโรงระหัดเท่านั้น ไม่ลงถ่ายรูปบนเรือ) สามารถเข้าชมงานได้รอบละ 5 ท่าน พร้อมผู้ติดตาม 1 ท่าน
ติดต่อสอบถามรับบัตรคิวได้ที่หน้าโรงระหัด
How you remind me?
จุดแรกที่เราแนะนำให้เดินคือ โรงระหัดเอเฟรม (Rongrahat-aframe) จากประตูทางเข้าหลัก เลี้ยวซ้ายประมาณ 20 เมตร จะเจอโรงระหัดอยู่ทางขวามือ จุดนี้มีงานดอกไม้แสดงอยู่หลายชิ้นให้คุณรวมฉาก เก็บภาพประทับใจกันรัวๆ ไม่ว่าจะเป็น How you remind me? เรือแจวไม้ที่วางลอยอยู่ท่ามกลางดอกสแตติส (Statice) สีน้ำเงินอมม่วง, Fifty Shades of Plant โต๊ะตัวยาวตกแต่งด้วยดอกไม้หลากเฉดที่วางอยู่บนบรรจุภัณฑ์รูปทรงเฉพาะตัว ซึ่งนำมาพ่นสีเสียใหม่ หรือ RakDok Market และ Flower Bubble กับดอกไม้ตระกูลยิปโซฟิลล่าสีขาวน่ารักกับตะกร้าสานใบโต ฯลฯ หากคุณอยากได้พร็อพดอกไม้ส่วนตัว ก็สามารถหาซื้อได้ ณ ร้าน RakDok Market ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเข้าโรงระหัดเอเฟรม
บริเวณชั้นสองของโรงระหัดมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะไปหมด
ซ้าย: Fifty Shades of Plant
ขวา: ดอกรัก-รักดอก
ซ้าย: ทางลงบันไดก็สวยนะ ถ่ายรูปได้ทุกจุด
ขวา: ด้านบนยังมีนิทรรศการศิลปะอื่นๆ ให้ชมด้วยนะ อย่ามัวแต่ถ่ายรูปกับดอกไม้ล่ะ
ออกจากโรงระหัด ที่ At press ร้านกาแฟซึ่งตั้งอยู่ติดกัน มีงานชื่อ Miscellaneous of Surface โดยได้ไอเดียมาจากประตูบานเฟี้ยม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนเก่าหัวตะเข้นำมาตกแต่งดอกไม้หลากสี ทำเป็นฉากกั้นให้ร้านดูเป็นสัดส่วนและน่าสนใจมากขึ้น
หากเดินต่อไป ระหว่างทางจะมีงานให้ชมเรื่อยๆ อย่างชิ้นนี้ชื่อ Colors ซึ่งอยู่บริเวณร้านต้นไม้ แต่น้อยคนนักที่จะหยุดมอง คอนเซปต์ของงานชิ้นนี้คือ Color! What a deep and mysterious language, the language of dreams เพราะสีเป็นภาษาแห่งความฝันและเป็นภาษาที่ลึกซึ้ง งานชิ้นนี้จึงนำการเล่นสีมาใช้กับต้นไม้ดอกไม้ เกิดเป็นต้นไม้สีใหม่ที่ไม่ได้มีในชีวิตจริง
ผลงาน Be a Marigold ได้รับแรงบันดาลใจจากไซดักปลา เครื่องมือในการจับปลาของชาวบ้าน หรือในแง่ด้านความเชื่อเปรียบเสมือนของดักทรัพย์ ชิ้นนี้ตั้งอยู่บริเวณ ร้านขายอุปกรณ์ตกปลา
อีกหนึ่งจุดยอดนิยมอยู่ที่ร้าน Cafe de fleur คาเฟ่สองชั้นขนาดเล็กที่ใช้ดอกไม้ประดับตกแต่งทั่วร้าน สามารถหามุมถ่ายรูปสวยๆ ได้หลากหลาย ซึ่งทั้งหมดรวมกันเป็นผลงานภายใต้ชื่อ Cafe aux Flourish – Fleur
มุมตรงบันไดของ Cafe de fleur ก็ถ่ายได้นะ
บนชั้นสองก็ถ่ายได้หลากหลายมุม
หากเดินไปจนสุดทางของตลาด เป็นสถานที่ตั้งของ สี่แยกหัวตะเข้ คาเฟ่ แอนด์ เกสท์เฮาส์ ร้านริมน้ำบรรยากาศดี เหมาะแก่การพักผ่อน ที่นี่มีงานซุกซ่อนอยู่ในร้าน 2 จุด ชื่อ How to Hug เป็นเรือหางยาวลำโตจอดเทียบท่าอยู่ริมน้ำ และเรือกระแชงที่ผ่านการใช้ง่ายทนแดดทนฝนมาพอประมาณ นำมาตกแต่งใหม่ด้วยดอกไม้เต็มลำ จนคนที่มาเยี่ยมชมต้องรู้สึกสดชื่น
เรือกระแชงที่นำมาตกแต่งใหม่ด้วยดอกไม้เต็มลำ
สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวเดินชมงานนี้ สามารถชมได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ชุมชนตลาดเก่าหัวตะเข้ ถนนลาดกระบัง ซอย 17 ระหว่างวันที่ 4 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00-18.00 น.
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
Location: ชุมชนตลาดเก่าหัวตะเข้ ลาดกระบัง ซอย 17 แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
วัน-เวลา: วันที่ 4 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00-18.00 น.
ค่าเข้าชม: ชมฟรีไม่เสียใช้จ่าย
พิกัด: https://bit.ly/2VJMJza