มาทำความรู้จักอาหารอินเดียให้ดีขึ้นผ่านซันเดย์บรันช์ที่ ปัญจาบ กริลล์ แบงค็อก (Punjab Grill Bangkok) เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบอาหารอินเดียเป็นทุนเดิม แต่ลำพังถ้าสั่งตามร้านคงได้ไม่กี่จาน แต่มาที่นี่มีให้เลือกละลานตา รวมถึงคนที่ไม่เคยลิ้มลองอาหารอินเดียมาก่อน แต่อยากมาลองสักครั้งในชีวิต แนะนำให้มากินซันเดย์บรันช์ที่นี่ เพราะเก็บจานเด่นของครัวอินเดียมาได้เกือบหมด ไม่ว่าจะเป็นข้าวหมกอินเดีย, แกงไก่เนย (Butter Chicken), แกงคั่วแห้งสไตล์อินเดีย (Keema), แกงไก่มาซาลา (Chicken Masala) เรื่อยไปจนถึงกุ้งทันดูรี เลือกเอาว่าจะกินคู่กับข้าวหรือแป้งนาน และเหล่านี้คือเมนูที่เราคิดว่ากินง่าย น่าจะถูกปากชาวไทยได้ไม่ยาก
ข้าวหมกอินเดีย (Biryani)
คนอินเดียนิยมกินข้าวหรือแป้งเหมือนคนไทย แต่ข้าวที่ใช้เรียกว่า บาสมาตี (Basmati) ซึ่งมีลักษณะยาว เรียว แข็ง และร่วนกว่าข้าวหอมมะลิ เมนูที่เห็นกันบ่อย ได้แก่ ข้าวหมกอินเดีย (Biryani) นิยมหมกไก่หรือหมกแพะ หอมเครื่องเทศชัดเจน บางแห่งเสิร์ฟเป็นจานมังสวิรัติ กินคู่กับแกงอย่างในภาพที่เป็นแกงถั่วเลนทิลดำ (Dal Makhani) ต้มในซอสมะเขือเทศใส่ครีมและเนย รสชาติจึงออกไปทางนัวๆ กลมกล่อม
แป้งนาน (Naan)
นอกจากข้าวก็มีแป้งแผ่นแบนๆ อย่างนานที่ต้องอยู่คู่อาหารอินเดีย นานเป็นแป้งผสมเกลือ ยีสต์ โยเกิร์ตหรือนม อบในเตาที่มีลักษณะเหมือนโอ่ง ใช้ความร้อนจากถ่านจนขึ้นฟู (ในขณะที่โรตีใช้ทอดในกระทะ) ทำให้แป้งนานมีความเหนียวนุ่มหนึบ หอมติดกลิ่นไหม้นิดๆ ปัจจุบันมีคนดัดแปลงสูตรเป็นนานกระเทียม หรือนานโฮลวีต แต่สำหรับเรา นานรสออริจินัลยังคงยืนหนึ่งเสมอ เพราะกินคู่กับแกงต่างๆ แล้วลงตัวในแง่รสชาติที่จัดสมดุลกันพอดี
ขาแกะตุ๋น (Raan)
จานนี้ไม่ค่อยเห็นที่ไหนเสิร์ฟ เพราะเป็นการนำขาลูกแกะมาหมักเครื่องเทศอย่างอบเชยและกระวาน ก่อนนำไปตุ๋นเป็นเวลานานเพื่อให้ได้ความนุ่ม ไม่เหนียวสู้ฟัน จากนั้นย่างด้วยไฟอ่อนๆ เพื่อเพิ่มรสชาติที่แทบไม่มีกลิ่นสาบแกะให้รู้สึก เลือกได้ว่าจะกินเดี่ยวๆ หรือกินคู่ซอสต่างๆ ที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ เพียงฉีกแป้งนานเล็กน้อยก่อนวิดเนื้อและน้ำที่เริ่มงวดเข้าปากพร้อมกัน
กุ้งทันดูรี (Tandoori Jheenga)
เดิมทีการทำเมนูทันดูรีแบบดั้งเดิมต้องใช้เตาอบทันดูร์ในการให้ความร้อนจนสุก แต่ปัจจุบันหลายแห่งเปลี่ยนมาใช้เตาอบแบบเปิด เช่นจานนี้ Tandoori Jheenga หรือกุ้งทันดูรี ที่เปลี่ยนจากไก่มาเป็นกุ้งลายเสือหมักเครื่องเทศ ก่อนกินให้โรยผักชีและบีบมะนาวเล็กน้อย เนื้อกุ้งเด้งกรอบเข้ากันได้ดีกับความเข้มข้นของเครื่องเทศ เหมาะทั้งกินกับข้าวและแป้งนาน
อาหารว่างสตรีทฟู้ด (Pani Puri) และแป้งทอดราดซอส (Papadi Chaat)
อาหารว่างเรียกน้ำย่อยสไตล์สตรีทฟู้ดของชาวอินเดียสองจานนี้อาจดูแปลกตาไปบ้าง เพราะเมื่อสั่ง เชฟก็จะหยิบแป้งสาลีทอดกรอบไส้มันฝรั่งมากะเทาะตรงกลางให้เป็นรู จากนั้นตักซอสใส่ลงไป ก่อนยื่นให้เราเอาเข้าปากทั้งคำ รสชาติที่ได้ออกแนวเปรี้ยวๆ เค็มๆ กรุบกรอบด้วยเนื้อแป้งที่ทอดจนกรอบ กินแล้วสดชื่นเอามากๆ ในขณะที่อีกจานเป็น Papadi Chaat หรือแป้งทอดและผักชุบแป้งทอดมาขยำให้ละเอียด ก่อนราดซอสต่างๆ ลงไป เช่น ซอสมินต์ โยเกิร์ต คลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนตักกิน
ชา (Masala Tea)
เครื่องดื่มปิดท้ายมื้ออาหาร ได้แก่ ชาชัก ที่พนักงานจะมาทำให้คุณถึงโต๊ะ เพียงบอกจำนวนแก้วที่ต้องการ จากนั้นก็รอรับชาร้อนๆ มาจิบเพื่อปลอบประโลมกระเพาะอาหารของคุณได้เลย และไม่ต้องกลัวว่าชาจะหวานจัดเหมือนที่เคยกินมา เพราะชาที่นี่มีความหวานอ่อนๆ ไม่หนักนม ทำให้เรายังรู้สึกถึงรสชาติของใบชา แต่สูตรของทางร้านได้เติมเครื่องเทศลงไปเพื่อให้ได้รสชาติชาอันเป็นเอกลักษณ์ของ Punjab Grill Bangkok อย่างแท้จริง
Punjab Grill Bangkok
Open: ซันเดย์บรันช์ (บุฟเฟต์มื้อสายวันอาทิตย์) เริ่ม 12.00-15.00 น.
Address: โรงแรมเรดิสัน สวีท กรุงเทพ สุขุมวิท สุขุมวิท 13
Budget: คนละ 1,000 บาท (สุทธิ)
Contact: 0 2645 4952
Website: www.punjabgrillbangkok.com
Map:
ภาพ: ภัทรศยา เชาว์รัศมีกุล
ภาพประกอบ: Karin Foxx.
