×

ส่องกำไร 1Q66 ของ ‘7 หุ้นเครือ ปตท.’ ใครรุ่ง-ใครร่วง

12.05.2023
  • LOADING...
หุ้นเครือ ปตท 1Q66

หุ้นเครือ ปตท. ที่มีการจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ถือว่าเป็นหุ้นขนาดใหญ่ ที่น้ำหนักต่อการเคลื่อนของ SET Index ปัจจุบันจำนวน 7 บริษัท รายงานผลประกอบไตรมาส 1/66 ออกมาครบแล้ว ข้อมูลตัวเลขกำไรสุทธิที่ออกมามีคละกันทั้งบริษัทที่กำไรสุทธิเติบโตขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 3 บริษัท ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจและผลิตก๊าซธรรมชาติและโรงไฟฟ้า ส่วนบริษัทที่กำไรลดลงจำนวน 4 บริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมันที่กำไรทรุดลงค่อนข้างหนัก

 

เมื่อไล่เรียงข้อมูลรายตัวของทั้ง 7 บริษัทของผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 มีรายละเอียดดังนี้

 

  • บมจ.ปตท. หรือ PTT รายงานกำไรสุทธิ 27,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้อยู่ที่ 756,690 ลดลง 0.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากเหตุผลหลักที่ผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันลดลงมากกว่าหมื่นล้านบาท อีกทั้งกำไรจากขายปลีกน้ำมันและไฟฟ้าเพิ่มขึ้น   

 

  • บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP รายงานกำไรสุทธิ 19,281 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้อยู่ที่ 78,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.86% โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น รวมถึงไตรมาส 1/65 มีบันทึกผลขาดทุนจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันจำนวนมาก

 

  • บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ PTTGC รายงานกำไรสุทธิ 82 ล้านบาท ลดลง 97% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้อยู่ที่ 147,248 ล้านบาท ลดลง 13.86% โดยกำไรที่ลดลงมีสาเหตุจากการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติ ได้แก่ ผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและรายการกำไรจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (Stock Loss Net NRV) รวม 1,359 ล้านบาท และผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงินรวมเป็นกำไร 696 ล้านบาท

 

  • บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR รายงานกำไรสุทธิ 2,975 ล้านบาท ลดลง 22.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้อยู่ที่ 197,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.4% โดยสาเหตุหลักที่กำไรของบริษัทลดลงมาจากราคาน้ำมันในไตรมาส 1/66 ที่ปรับตัวลดลงสู่ภาวะปกติเปรียบกับช่วงไตรมาส 1/66 ที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ในไตรมาสนี้บริษัทกำไรจากสต๊อกน้ำมันที่ลดลง

 

  • บมจ.ไออาร์พีซี หรือ IRPC รายงานกำไรสุทธิ 301 ล้านบาท ลดลง 80% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้อยู่ที่ 197,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.4% สาเหตุหลักที่กำไรลดลงมาจากไตรมาส 1/66 มี Net Inventory Loss จำนวน 1,742 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 1/65 ที่มี Net Inventory Gain จำนวน 5,786 ล้านบาท ส่งผลให้ Accounting GIM ลดลง 4,549 ล้านบาท หรือ 46% ส่งผลให้มี EBITDA จำนวน 2,020 ล้านบาท ลดลง 4,580 ล้านบาท หรือ 69% ขณะที่มีกำไรจากการลงทุนลดลง 119 ล้านบาท หรือ 92% 

 

  • บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ GPSC รายงานกำไรสุทธิ 1,118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 257% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้อยู่ที่ 27,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% สาเหตุหลักที่กำไรเพิ่มขึ้นมาจากการปรับตัวสูงขึ้นของค่า Ft ในจาก 0.0139 บาทต่อหน่วย เป็น 1.5492 บาทต่อหน่วย ทำให้ Margin จากการขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นจากที่ถูกควบคุมให้ต่ำกว่าปกติในช่วงก่อนหน้านี้ 

 

  • บมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP รายงานกำไรสุทธิ 4,554 ล้านบาท ลดลง 36.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้อยู่ที่ 115,943 ล้านบาท ลดลง 1.25% สาเหตุหลักที่กำไรลดลงมาจากราคาน้ำมันดิบไตรมาส 1/66 รวมถึง Crude Premium ที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน 3,339 ล้านบาทในไตรมาส 1/66 เทียบกับไตรมาส 1/65 ที่มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันจำนวน 14,472 ล้านบาท อีกทั้งมีผลกระทบจากรายการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปลดลง 2,402 ล้านบาท จากไตรมาส 1/65 เมื่อรวมกับผลกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่เกิดขึ้นจริงสุทธิ ส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์มี EBITDA ลดลง 4,852 ล้านบาทจากไตรมาส 1/65

 

ด้าน เบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ยังคงแนะนำ ‘ซื้อ’ PTT ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 39 บาท ปรับลดลงจากเดิม 42.4 บาท โดยราคาเป้าหมายที่ปรับลดลงจากเดิม ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลง Target Price ของบริษัทในกลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม คือ PTTEP และธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นคือ TOP และ PTTGC ลง 

 

อย่างไรก็ดียังมองว่าราคาหุ้น PTT ยังน่าสนใจ จาก Valuation และ Dividend โดยราคาหุ้น PTT ในปี 2566 ปรับลดลง 8.7% เปรียบเทียบกับ SET Index ที่ปรับ

 

ลดลง 6.2% ขณะที่ PTT ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยในช่วง 3 ปีข้างหน้าสูงถึง 6.8% โดยในปี 2566 คาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 2 บาท อ้างอิง Dividend Pay-out Ratio ที่ 60%

 

หุ้นกลุ่ม ปตท 1Q66


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ภาพประกอบ: พรวลี จ้วงพุฒซา

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising