×

25 ปี Princess Mononoke งานแอนิเมชันชั้นเลิศจาก สตูดิโอจิบลิ เมื่อธรรมชาติลุกขึ้นต่อกรกับมนุษย์ผู้แสนละโมบ

12.07.2022
  • LOADING...
Princess Mononoke

“มนุษย์เป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ท่ามกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่ไพศาล” 

 

หากถามว่าภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องไหนของสตูดิโอจิบลิที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลายมาตั้งแต่วันแรกที่เรื่องราวเหล่านั้นถูกนำเสนอสู่สายตาของผู้ชมเป็นครั้งแรก หนึ่งในนั้นก็คงหนีไม่พ้น เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร (Princess Mononoke) ที่ใครๆ ต่างก็กล่าวขานถึงเรื่องราวความน่ามหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ถูกบอกเล่าผ่านการเดินทางของเจ้าชายผู้ตามหาวิธีลบล้างคำสาปและเจ้าหญิงผู้เติบโตมาท่ามกลางขุนเขาที่เต็มไปด้วยเหล่าสรรพสัตว์

 

และในวันนี้เอง (12 กรกฎาคม) เรื่องราวเหล่านั้นก็ได้เดินทางผ่านกาลเวลาและยุคสมัยต่างๆ มานานถึง 25 ปีแล้ว ในปีนี้ THE STANDARD POP จึงอยากพาผู้อ่านทุกท่านไปดูเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของ Princess Mononoke และจุดเริ่มต้นของความมหัศจรรย์ที่จะอยู่ในใจของผู้ชมไปตราบนานเท่านาน

 

Princess Mononoke

 

เนื้อหาของ Princess Mononoke นั้นบอกเล่าถึงความเกรี้ยวกราดของธรรมชาติที่กลายเป็นคำสาปเนื่องจากการบุกรุกทำลายป่าของมนุษย์ที่ต้องการจะนำสิ่งเหล่านั้นมาใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน ผ่านเรื่องราวของเจ้าชายอะชิตะกะและเจ้าหญิงโมะโนะโนะเกะที่เป็นเสมือนตัวแทนของแต่ละฝั่งที่จะต้องคอยทำความเข้าใจ พึ่งพา และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทำให้เรื่องราวการเดินทางของพวกเขานั้นเป็นเหมือนกระจกสะท้อนของทั้งสองฝ่ายที่ควรจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้อย่างมีความสุข ไม่ใช่หันหน้ามาทำลายล้างซึ่งกันและกัน

 

นอกจากเนื้อหาที่สะท้อนเรื่องราวของธรรมชาติกับมนุษย์แล้ว สิ่งหนึ่งที่ Princess Mononoke ยังคงถูกยกย่องมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือ ‘แอนิเมชัน’ ที่เชื่อได้ว่าหากใครก็ตามที่ได้รับชมแล้วก็คงจะได้เห็นถึงความอลังการของเหล่าสรรพสัตว์ ทิวทัศน์ การเคลื่อนไหวของตัวละคร รวมไปถึงเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ภายในเรื่องกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ซึ่งทั้งหมดที่เราเห็นกันอยู่นั้นใช้เวลาในการสร้างรวมกันทั้งสิ้นถึง 3 ปีเต็ม โดยศิลปินและผู้กำกับศิลป์แถวหน้าของสตูดิโออย่าง คาซูโอะ โอกะ ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นคนที่สร้างสรรค์งานศิลปะพื้นหลังที่ชวนให้น่าหลงใหล รวมถึงทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพวาดสีน้ำชวนฝัน ซึ่งเทคนิคที่โอกะเลือกใช้ในการทำงานครั้งนี้ก็คือ การสร้างเซลล์ที่วาดด้วยมือมากกว่า 80,000 ชิ้นและนำมาประกอบรวมกันหลังจากที่วาดเสร็จ จนสุดท้ายก็ออกมาเป็นเรื่องราวอันน่ามหัศจรรย์และมีเสน่ห์ที่เราทุกคนต่างก็ชื่นชมมาจนถึงทุกวันนี้

 

Princess Mononoke

 

นอกจากนี้ ฮายาโอะ มิยาซากิ ยังเคยให้สัมภาษณ์ถึงจุดเริ่มต้นของ Princess Mononoke ว่า ตัวเขานั้นได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ในอดีตอย่างสงครามยูโกสลาเวียที่ตัวเองเคยประสบพบเจอมา ซึ่งประสบการณ์เหล่านั้นเองคือสิ่งที่มิยาซากิได้นำมาขยายแนวคิดและต่อยอดจนออกมาเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้ 

 

แม้ว่าเดิมทีเขามีความตั้งใจที่จะสร้าง Princess Mononoke ให้ออกมาอยู่ในโทนที่สว่าง แต่สุดท้ายมิยาซากิก็เลือกที่จะแบ่งปันความรู้สึกที่มีต่อสงครามผสมเข้ากับงานศิลปะในแบบฉบับของตัวเอง จนออกมาเป็นเรื่องราวที่ผู้ชมหลายคนได้เห็นและยากที่จะลืมลงในทุกวันนี้

 

“ผมได้เรียนรู้ว่ามนุษย์ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย นั่นทำให้หลังจากนั้น ผมก็ไม่สามารถกลับไปสร้างภาพยนตร์อย่าง Kiki’s Delivery Service ได้อีกเลย มันรู้สึกเหมือนเด็กๆ เหล่านั้นเกิดมาบนโลกใบนี้โดยปราศจากความสุข แล้วเราจะแสร้งทำเป็นว่าพวกเขามีความสุขได้อย่างไร?”

 

Princess Mononoke

 

ถึงแม้ภาพยนตร์แอนิเมชันของสตูดิโอจิบลิหลายเรื่องจะมีการบรรยายถึงสภาพแวดล้อมที่เป็นสถานที่ในชีวิตจริง แต่ในบางครั้งตัวละครของพวกเขาก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมอื่นๆ จากทั่วทุกมุมโลกด้วยเช่นกัน

 

หนึ่งในนั้นก็คือ ซาน เจ้าหญิงแห่งสัตว์ร้าย หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันในนามเจ้าหญิงโมะโนะโนะเกะ ที่ทีมงานได้รับแรงบันดาลใจมากจากการ์ตูนเรื่อง Mudmen ของศิลปินมังงะ ไดจิโร โมโรโฮชิ ซึ่งชื่อของมังงะนั้นหมายถึง Asaro Mudmen หนึ่งในชนเผ่าอาซาโรของประเทศปาปัวนิวกินีที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นก็คือ หน้ากากที่ทำมาจากโคลน

ซึ่ง ฮายาโอะ มิยาซากิ ก็เคยแสดงให้เห็นว่า Mudmen มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่องานของเขามากแค่ไหน ด้วยการแชร์ภาพคู่หนึ่งที่บ่งบอกถึงความเชื่อมโยงระหว่างตัวละครจาก Mudmen และ ซาน หนึ่งในตัวละครหลักจาก Princess Mononoke ที่ทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี

 

Princess Mononoke

 

แม้เอกลักษณ์ของ ซาน จะถูกหยิบยืมมาจากวัฒนธรรมอื่น แต่ป่าที่เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ใน Princess Mononoke นั้นกลับมีพื้นฐานมาจากสถานที่ในชีวิตจริง ซึ่งแรงบันดาลใจและต้นแบบของป่าที่เราเห็นกันในภาพยนตร์แอนิเมชันนั้นก็คือ ป่าที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของญี่ปุ่นบนหมู่เกาะยาคุชิมะ (Yakushima) 

 

โดย คาซูโอะ โอกะ ได้ใช้เวลาในการสำรวจและเก็บข้อมูลต่างๆ ภายในป่าชิระทานิ อันซุยเคียว (Shiratani Unsuikyo) เพื่อนำมาทำเป็นงานศิลปะและภาพร่างที่จะใช้เป็นแรงบันดาลใจหลักในการทำงานกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ ซึ่งป่านี้ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 800 เมตร และเป็นที่ที่แฟนๆ หลายคนมักจะเรียกกันติดปากว่า ‘ป่าเจ้าหญิงโมโนโนเกะ’ 

 

Princess Mononoke

 

และองค์ประกอบเหล่านี้เองที่ทำให้ Princess Mononoke กลายเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่ชนะรางวัล Japan Academy Prize สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเวทีประกาศผลรางวัล Japan Academy Awards ครั้งที่ 21 (เปรียบเหมือนเวทีประกาศรางวัลออสการ์ของประเทศญี่ปุ่น) อีกทั้งยังคว้ารางวัลบนเวที Mainichi Film Awards ไปถึง 3 สาขา ได้แก่ รางวัลภาพยนตร์ญี่ปุ่นยอดเยี่ยม, รางวัลแอนิเมชันยอดเยี่ยม และรางวัลภาพยนตร์ญี่ปุ่นขวัญใจผู้ชม

 

นอกจากนี้ Princess Mononoke ยังเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมอีกด้วย 

 

Princess Mononoke

 

ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านมานานถึง 25 ปีแล้วนับตั้งแต่ที่ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ออกฉายสู่สายตาของผู้ชมเป็นครั้งแรกในปี 1997 แต่กระนั้น Princess Mononoke ก็ยังคงเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แอนิเมชั่นจากสตูดิโอจิบลิที่หลายคนมักจะหยิบยกขึ้นมาพูดถึงความยอดเยี่ยมของเนื้อหาและแอนิเมชั่นสุดแสนตระการตาในยุคสมัยนั้นอยู่เสมอ 

 

สามารถรับชม เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร (Princess Mononoke) ได้ทาง Netflix

 

อ้างอิง

FYI
  • Princess Mononoke เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงที่สุดบนหมู่เกาะญี่ปุ่นในปี 1997 โดยทำเงินไปได้มากถึง 11.30 พันล้านเยน ส่งผลทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงที่สุดในญี่ปุ่นแซงหน้าสถิติที่ E.T. เคยทำเอาไว้ในปี 1982 แต่หลายเดือนต่อมาก็ถูกยักษ์ใหญ่อย่าง Titanic โค่นล้มด้วยการกวาดรายได้รวมในประเทศไปอย่างมหาศาลถึง 20.18 พันล้านเยน
  • Roger Ebert นักวิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกได้เคยจัดให้ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในอันดับที่หกในรายชื่อภาพยนตร์ที่ดีที่สุดสิบเรื่องแห่งปี 1999
  • ปัจจุบัน Princess Mononoke เป็นหนึ่งในภาพยนตร์แอนิเมชั่นของสตูดิโอจิบลิที่ทำรายได้สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นรองเพียงแค่ Spirited Away (2001) ที่อยู่ในอันดับ 2 และ Howl’s Moving Castle (2004) ที่อยู่ในอันดับ 7 เพียงเท่านั้น

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising