×

อนุทินเตรียมหารือ ศบค. ปรับการตรวจนักท่องเที่ยว จาก RT-PCR เป็น ATK เพื่ออำนวยความสะดวก แต่ไม่ทิ้งความปลอดภัย

โดย THE STANDARD TEAM
12.11.2021
  • LOADING...
อนุทิน ชาญวีรกูล

วันนี้ (12 พฤศจิกายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีความเป็นไปได้ที่จะปรับการตรวจ RT-PCR เป็น ATK ในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศว่า จะมีการหารือในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) อีกครั้ง แต่ต้องดูตามเหตุและผล เพราะทางต้นทางจะมีระบบ RT-PCR ที่ต้องมีการตรวจก่อนขึ้นเครื่อง หากสามารถตรวจสอบและยืนยันได้ รวมไปถึงเอกสารฉีดวัคซีนของผู้เดินทางไม่มีการปลอมแปลง ก็น่าจะหาวิธีอำนวยความสะดวก แต่จะต้องไม่ละทิ้งความปลอดภัย

 

ส่วนการเปิดประเทศมาแล้ว 10 วัน จะต้องมีการอุดช่องโหว่อะไรหรือไม่นั้น อนุทินระบุว่า มาตรการด้านสาธารณสุข อะไรทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และหากใช้มาตรการ Universal Prevention คอยระมัดระวังตัวเองอย่างสูงสุดตลอดเวลาก็จะไม่มีปัญหาอะไร หากฉีดวัคซีนกันครบแล้วตรวจ ATK ซ้ำอีก ก็น่าจะลดความเสี่ยงลงไปได้ เพราะการฉีดวัคซีนไม่ใช่เพื่อป้องกันอย่างเดียว แต่ทำให้ไม่ป่วยหนักหรือเสียชีวิต หากอยากกลับมาใช้ชีวิตตามปกติก็ต้องระมัดระวังตัวเองในระดับหนึ่ง ทุกคนก็มีความปลอดภัยแล้ว

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสถิติผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระดับทรงตัว อนุทินย้อนถามกลับว่า ไม่ดีหรือ เดี๋ยวก็จะค่อยๆ ลดลง ขอแค่อย่าปรับอัตราสูงขึ้นก็พอแล้ว หากสังเกตอัตราการเสียชีวิตจะอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ยิ่งไปกว่านั้น มากกว่าร้อยละ 80 ยังไม่ได้รับวัคซีน ดังนั้น วัคซีนจึงเป็นตัวช่วยจริงๆ โดยยกตัวอย่างบ้านพักคนชราที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่พี่เลี้ยงนำเชื้อโควิดไปติด แต่คนชราที่ฉีดวัคซีน AstraZeneca 2 เข็มทั้งหมดไม่เป็นอะไรเลย แสดงให้เห็นว่าเป็นประสิทธิผลของวัคซีนที่พยายามทุ่มมาให้ และเชื่อมั่นว่าในสิ้นเดือนนี้การฉีดวัคซีน 100 ล้านโดสเป็นไปตามเป้า แต่ขออย่านั่งนับ วัคซีนมีเพียงพอที่จะทำความปลอดภัยให้กับคนในประเทศทุกคนทุกสัญชาติ ทั้งวัคซีนที่ได้รับบริจาคน่าจะค่อนข้างมากและวัคซีนที่บริหารจัดการเองก็มาก ก็น่าจะสบายใจขึ้น ทั้งแรงงานต่างด้าวกับคนที่เดินทางเข้ามาตามแนวชายแดน อธิบดีกรมควบคุมโรคการรายงานตนว่าได้รับการฉีดวัคซีนทั้งหมด 

 

อนุทินระบุอีกว่า ในวันนี้วัคซีนจากจีนเข้ามา 1.5 ล้านโดส และทูตจีนคนใหม่ก็จะเข้ามามอบให้กับนายกรัฐมนตรีในช่วงบ่ายวันนี้ โดยภายในสัปดาห์หน้าวัคซีนจะขึ้นเครื่องมายังประเทศไทย ซึ่งหลังจากนี้จะมีข่าวที่เป็นบวกเข้ามา และยังมีรัฐบาลอีกหลายประเทศที่แสดงความจำนงมอบวัคซีนให้กับประเทศไทย และหากเรามีความเพียงพอก็ต้องคำนึงถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วยเช่นกัน เนื่องจากหลายประเทศที่เข้าร่วมโครงการ COVAX ก็ยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งเราก็อาจจะเข้าไปช่วย แต่นี่เป็นเรื่องในอนาคต เราต้องดูแลคนของเราให้ดีก่อน สิ่งนี้สำคัญที่สุด หากดูแลคนของเราแล้วเหลือสำรองมากเพียงพอ มีวัคซีนจำนวนที่เหลืออยู่และถือว่าอายุสั้นไม่เกิน 6 เดือน ก็จะต้องรีบดำเนินการพิจารณาช่วยเหลือประเทศที่มีความต้องการยากลำบากอยู่ในขณะนี้

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising