×

รถบ้าน อาหารถิ่น และจุดชมวิว (ไม่) ลับ ปราณบุรีในมุมมองใหม่ที่จะทำให้ใครต่อใครหลงรัก

31.01.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

8 mins. read
  • The Weekend Camp Pranburi ที่พักแนวรถบ้านสไตล์ยุโรป เป็น Homestay Caravan ที่มีอยู่เพียงไม่กี่คันเท่านั้น แบ็กกราวด์ของที่นี่คือ เจ้าของคู่สามีภรรยาคนรุ่นใหม่ ที่ฝ่ายหญิงเคยทำงานในธุรกิจโรงแรมเชนนานาชาติในกรุงเทพฯ ผู้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิต ย้ายมาทำกิจการเล็กๆ ของตัวเอง ซึ่งนั่นก็คือโฮมสเตย์รถบ้านอันแสนจะอบอุ่นแห่งนี้นั่นเอง 
  • เวลคัมดริงก์ของที่นี่คือ คราฟต์โซดาแสนดีงาม มีกลิ่นรสของสับปะรด มะพร้าว เสาวรส ซึ่งดึงคาแรกเตอร์ของวัตถุดิบเด่นในบริเวณที่ตั้งคือปราณบุรี มาเป็นกิมมิก บาร์บีคิวปาร์ตี้คือกิจกรรมที่ห้ามพลาดยามมาพักแนวกึ่งๆ จะ Glamping แบบนี้ 
  • ปั่นจักรยานเลียบหาด เดินเขาขึ้นไปสูดลมชมวิวเขากะโหลก และตระเวนชิมอาหารทะเลพื้นถิ่นเจ้าเด็ด และชิมอาหาร From Farm To Table จากอดีตเชฟมิชลินที่มาเปิดฟาร์มออร์แกนิกที่ปากน้ำปราณฯ คือเหตุผลที่เราหลงรักปราณบุรี 

แม้จะเคยมาเยือนเมืองตากอากาศอย่างปราณบุรีมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ค่อยมีครั้งไหนที่เราจะรู้สึกประทับใจเท่าไรนัก อาจจะด้วยเพราะว่าทะเลและหาดทรายนั้นไม่ได้สวยใสเท่าเมื่อเทียบกับจุดหมายปลายทางสุดฮอตอย่างภูเก็ตหรือเกาะสมุย ยิ่งจากกรุงเทพฯ มีหัวหินที่ทั้งฮิปและคึกคักกว่ามาตั้งดักไว้ ทำให้ปราณบุรีดูจะเป็นเมืองนอกสายตาสำหรับใครต่อใคร ทว่า จากการได้มีโอกาสมาเยือนปราณฯ ครั้งล่าสุดในมุมมองใหม่ ตามคำชวนของคนรู้จักที่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่ ย้ายถิ่นไปปักหลักอยู่ที่ปราณฯ ทำให้เราได้สัมผัสปราณฯ ในมุมมองใหม่อย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน กลายเป็นความประทับใจที่ทำให้หลงรักเมืองตากอากาศเล็กๆ ชายทะเลแห่งนี้ในที่สุด 

 

รถบ้าน…ได้ฟีลแคมปิ้ง แต่นอนสบาย 

 

Photo: The Weekend Camp Pranburi

 

ดูเหมือนว่าที่พักแนว Glamping จะเป็นธุรกิจที่กำลังแรงดีไม่มีตก เพราะมีผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดให้เห็นในช่วงไม่กี่ปีนี้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะนอกจากจะราคาไม่แพงแล้ว ยังได้ฟีลของความใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ก็ยังคงไว้ด้วยความสะดวกสบาย ทำให้มีบูติกแคมป์เกิดขึ้นมากมายตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึง Campervan Site ซึ่งเป็นที่พักสไตล์รถบ้านก็เช่นเดียวกัน สำหรับปราณบุรีเท่าที่ทราบก็มีที่พักแนวรถบ้านเปิดให้บริการก็อย่างน้อย 2 แห่งด้วยกัน ที่หนึ่งก็คือ Airstream Campsite Pranburi ซึ่งเป็นรถบ้านสไตล์อเมริกัน ซึ่งจะมีรูปลักษณ์ทันสมัยด้วยวัสดุโลหะ กับอีกแห่งซึ่งเป็นที่พักของเราในครั้งนี้คือ The Weekend Camp Pranburi ที่พักแนวรถบ้านสไตล์ยุโรปซึ่งดูอบอุ่น เป็น Homestay Caravan ที่มีอยู่เพียงไม่กี่คันเท่านั้น แบ็กกราวด์ของที่นี่คือเจ้าของคู่สามีภรรยาคนรุ่นใหม่ ที่ฝ่ายหญิงเคยทำงานในธุรกิจโรงแรมเชนนานาชาติในกรุงเทพฯ ผู้ตัดสินใจเปลี่ยนชีวิต ย้ายมาประกอบกิจการเล็กๆ ของตัวเอง ซึ่งนั่นก็คือโฮมสเตย์รถบ้านอันแสนจะอบอุ่นแห่งนี้นั่นเอง

 

Heritage รถบ้านคันใหญ่ที่สุดของ 

The Weekend Camp Pranburi 

 

ภายในรถบ้าน Heritage กว้างขวางอยู่สบาย 

 

Clarion และ Ranger ขนาดย่อมเยาลงมา 

แต่ทุกคันก็มาพร้อมห้องน้ำในตัว

 

The Weekend Camp มีรถบ้านให้บริการทั้งหมดเพียงแค่ 3 คัน แบ่งเป็น 2 ขนาด ขนาดเล็ก 2 คัน ชื่อว่า Clarion และ Ranger กับขนาดใหญ่ 1 คัน ชื่อว่า Heritage สำหรับเราด้วยความที่เป็นคนกรุงรุ่นโหมใช้แรงงาน ซึ่งหาเวลาว่างได้ยากยิ่ง เวลาจะพักจึงออกจะรักสบายขั้นสุด ทำให้อดรู้สึกค่อนข้างเป็นกังวลเล็กน้อยไม่ได้ เมื่อจะได้ลองมานอนรถบ้านเป็นครั้งแรก ก็เลยจองรถบ้านคันใหญ่สุดคือ Heritage ซึ่งหลังจากที่เปิดประตูเข้าไปแล้วพบว่า กว้างขวางมาก เฉพาะเตียงก็สามารถนอนได้ 3 คนแล้ว แถมยังมีโซนที่นั่ง ซึ่งถ้าหากมากันหลายคนก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นที่นอนเพิ่มได้อีก ที่ชอบมากๆ คือเตียงที่ใช้ผ้าปูที่นอนเนื้อดี ทำให้หลับสบายมาก สมกับที่เจ้าของเคยเป็นชาวโรงแรมเชนใหญ่มาก่อนจริงๆ นอกจากนี้ภายในรถบ้านแต่ละคันยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน ทั้งแอร์ เคเบิลทีวี ไดร์เป่าผม ผ้าเช็ดตัว สบู่เหลว แชมพู และห้องน้ำภายในตัวรถทุกคัน 

 

เวลคัมดริงก์คราฟต์โซดาแสนดีงาม 

อาหารเช้า ไข่กระทะ กับขนมปังกระเทียม

 

ลืมบอกไปว่า หลังจากเช็กอินแล้ว ที่นี่เขามีเวลคัมดริงก์ที่เก๋และดีงามมาก นั่นคือคราฟต์โซดา ด้วยความที่ต้องการให้สื่อถึงโลเคชันปราณบุรีอันเป็นที่ตั้ง คราฟต์โซดาของ The Weekend Camp จึงมีกลิ่นและรสที่ลงตัวของทั้งมะพร้าว สับปะรด และเสาวรส ที่หอมและสดชื่นมาก เหมาะสมได้ฟีลชายทะเลสุดๆ รสชาติดีงามจนติดใจถึงขนาดที่หลังจากที่เราเช็กเอาต์กลับบ้าน ยังขอซื้อเขากลับไปดื่มต่อที่บ้านอีก 1 ลัง 

 

มาพักรถบ้านกันทั้งที อะไรจะเหมาะเท่าบาร์บีคิว

 

 บรรยากาศงามยามพลบค่ำ 

 

สระว่ายน้ำของที่นี่แม้จะเป็นสระเล็กๆ พอว่ายได้สนุก แต่ก็เป็นสระน้ำเกลือ ซึ่งนอกจากจะว่ายเล่นได้แล้ว ยังเหมาะสำหรับจัด Pool Party ในหมู่เดอะก๊วนอีกด้วย และการจะมาพักรถบ้านแบบนี้กันทั้งที อะไรจะเหมาะเท่าการจัดบาร์บีคิวปาร์ตี้ ซึ่งทาง The Weekend Camp เขาก็จัดเตรียมเตาย่างบาร์บีคิวและอุปกรณ์สำหรับรับประทานเอาไว้ให้บริการฟรีอีกด้วย โดยแขกที่เข้าพักสามารถไปซื้อหาของสดมาได้จากที่ปากน้ำปราณฯ หรือตลาดในละแวกใกล้เคียงมาย่างเองได้ 

 

 

ด้านอาหารเช้านั้นเป็นเซตเมนูที่มีให้เลือกทั้งข้าวต้มและไข่กระทะ นอกจากนี้ถ้าอยากจะปั่นจักรยานเล่นเลียบชายหาด หรือไปเที่ยวในละแวกใกล้ๆ The Weekend Camp ปราณบุรี ก็ยังมีจักรยานให้แขกได้ยืมไปปั่นเล่นด้วย

 

ปั่นจักรยานถนนสายไมอามีเมืองไทย ชมชายหาดและจุดชมวิวไม่ลับ 

สิ่งดีงามในการมาเยือนปราณบุรีอย่างหนึ่งที่ทำให้เราหลงรัก แม้ตัวจะไม่ได้ลงเล่นน้ำทะเลให้เปียกเลยสักนิด นั่นคือการปั่นจักรยานตามชายหาดที่ทอดยาว เพราะเขามีทางจักรยานเอาไว้ให้ปั่นอย่างสบายใจ จุดที่คนชอบไปถ่ายรูปคือ เส้นเลียบหาดที่มีต้นตาลตั้งเรียงรายอยู่ ดูเก๋ไก๋จนหลายคนเรียกว่าเป็นมาลิบูเมืองไทย

 

ถนนเลียบหาดจุดที่ถูกขนานนามว่าไมอามีเมืองไทย

 

ฤดูการเล่น Kitesurf

 

ชายหาดห่างจาก The Weekend Camp Pranburi เพียง 100 เมตร

 

อันที่จริงเดินจากที่พักของเราเพียงแค่ 100 เมตร ก็จะพบกับหาดที่ทอดยาว ซึ่งในปลายปีนั้นเป็นฤดูการเล่น Kitesurf ซึ่งมีจุดให้บริการและมีสอนด้วย ดังนั้นใครที่ชื่นชอบหรืออยากลองกิจกรรมมันๆ ก็มาสนุกกันได้ หรือถ้าอยากจะทำอะไรที่ไม่เอ็กซ์ตรีมขนาดนั้น ก็แนะนำให้ปั่นจักรยานเลยไปจนเกือบสุดถนน ซึ่งเป็นที่ตั้งของผากะโหลก หรือวนอุทยานท้าวโกษา สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของปราณบุรี เราเคยมาที่ผากะโหลกหลายรอบแล้ว แต่ความรู้สึกที่ได้ทุกครั้งก็คือ ‘เฉยๆ’ ไม่เคยจะเห็นว่าผาที่มีรอยแหว่งนี้สวยตรงไหน แต่รอบนี้โชคดีที่เหลือบไปเห็นป้ายว่า มีชายหาดที่ซ่อนตัวอยู่หลังผา และมีจุดชมวิวด้านบนที่ต้องปีนขึ้นไป จึงอยากลองไปในมุมที่ไม่เคยสัมผัสดู ผลที่ได้ก็คือความรู้สึกประทับใจ เพราะเป็นมุมมองใหม่ที่ไม่เคยเห็นของหน้าผาที่ตัดกับท้องทะเล และเมื่อปีนขึ้นไปยังจุดชมวิว ก็มองเห็นละแวกนี้ได้ทั่ว ได้สูดลมหายใจทะเลเข้าเต็มปอด ได้ยลทัศนียภาพของปราณบุรีในมุมมองใหม่ จนรู้สึกขอบใจที่พาตัวเองขึ้นมาบนนี้จนได้

 

หาดที่ซ่อนตัวอยู่ถัดจากผากะโหลกยามน้ำขึ้น 

 

เส้นทางขึ้นสู่จุดชมวิวเขากะโหลก

 

จุดชมวิวเขากะโหลก

 

นอกจากนี้หากไม่ขี้เกียจจนเกินไป หรือพอมีเวลาเหลือเฟือ และอยากจะเที่ยวให้ได้ทั่วไปกว่านี้ ปราณบุรีก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ ที่ไม่ควรพลาดอยู่อีกหลายแห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ซึ่งมีเส้นทางศึกษาพันธุ์ไม้น้ำ มีสะพานไม้ยาวให้เดินชมบึงบัว และจุดชมวิวเขาแดงที่มองเห็นวิวเมืองปราณบุรีได้รอบทิศ 360 องศาอีกด้วย แถมในบริเวณใกล้เคียงกัน ยังสามารถนั่งเรือล่องคลองเขาแดง เพื่อชมทัศนียภาพปากอ่าวได้อีก 

 

 

อาหารถิ่น…ปากน้ำปราณฯ 

เมื่อมาเที่ยวทะเลกันทั้งที ถ้าพลาดที่จะชิมอาหารทะเลก็คงต้องบอกว่าเสียเที่ยวมาแท้ๆ ซึ่งอันที่จริงนั้นมีร้านอาหารที่ขนานอยู่เส้นเลียบหาดให้เลือกรับประทานอยู่หลายร้าน แต่จากการสอบถามคนในพื้นที่ว่าควรจะไปรับประทานอาหารที่ไหนดี โดยเราตั้งโจทย์ว่า ขอเป็นร้านบรรยากาศบ้านๆ และรสเด็ดที่คนในพื้นที่กินกันจริงๆ คำตอบที่ได้ก็คือ ร้าน บ้านโชคอารีย์ บ้านพักพร้อมร้านอาหารที่อยู่บริเวณปากน้ำปราณฯ ซึ่งทางร้านจะรับของทะเลมาโดยตรงจากชาวประมงวันต่อวัน (สามารถซื้อของสดไปทำบาร์บีคิวจากที่ร้านนี้ได้ด้วย) เราได้ลองชิมหลายเมนู แต่ที่คิดว่าเด็ดเป็นพิเศษคือ ข้าวขยำปูที่ใส่เนื้อปูสดๆ จัดเต็มมาขยำกับข้าว พร้อมซอยหอมแดง กระเทียม และพริกขี้หนูให้กินเคียง กับแกงส้มไข่ปลาริวกิวรสจัดจ้าน และปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา ที่ใช้น้ำปลาดีประจำท้องถิ่น กินกับน้ำยำมะม่วงรสดี  

 

บ้านโชคอารีย์

 

อีกร้านหนึ่งบรรยากาศบ้านๆ ที่ไม่ควรพลาดอย่างแรงคือ ร้าน ครัวเจ้แมว ซึ่งแม้จะไม่ได้อยู่ติดทะเล แต่จากการชิมอาหารของร้านนี้แล้ว เราให้คะแนนเขาแบบว่าถึงจะไม่ต้องกินเคล้าวิวทะเลก็ยังชนะเลิศ เมนูเด็ดของเจ๊แมวที่เราชื่นชอบ ได้แก่ ยอดมะพร้าวอ่อนกรอบหวานที่นำไปผัดเฉยๆ ก็อร่อยแล้ว ยำกรรเชียงปูเนื้ออวบแน่นสดหวาน ปลาลิ้นหมาทอดราดน้ำปลาที่ครบรสแม้ไม่กินคู่กับน้ำยำก็ยังไหว แต่ที่เด็ดสุดจนต้องขอยกนิ้วให้ และถึงกับต้องแวะซื้อใส่กล่องก่อนปิดทริปกลับบ้านก็คือ ปลาหมึกไข่ต้มหวาน…รสชาติน้ำตาลละมุนลิ้น กับความเค็มของน้ำปลาดี และเนื้อปลาหมึกสดอัดแน่นไปด้วยไข่ทุกตัว มันดีงามจริงๆ แหละคุณเอ๊ย

 

 ครัวเจ้แมว

 

ส่วนอีกร้านที่อยากจะแนะนำ สำหรับใครที่อยากจะรับประทานอะไรเก๋ๆ สักหน่อยก็คือ ร้าน Boutique Farmers Pak Nam Pran ของ เชฟเจมส์ โนเบล อดีตเชฟมิชลินที่ผันตัวเองมาทำสวนออร์แกนิก เพื่อผลิตวัตถุดิบปรุงอาหารแบบ From Farm To Table และเปิดร้านอาหารแห่งนี้ ซึ่งผลผลิตที่ได้จากสวนออร์แกนิกของเชฟเจมส์นั้นยังส่งต่อไปสู่ร้านไฟน์ไดนิ่งดังๆ ในกรุงเทพฯ อย่าง Paste Bangkok, Sühring, J’aime by Jean Michel Lorain หรือแม้กระทั่ง Le Normandie ในโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ลอีกด้วย ร้าน Boutique Farmers Pak Nam Pran นั้นเปิดให้บริการเพียงสัปดาห์ละ 3 วันเท่านั้น โดยให้บริการอาหารทั้งในแบบเชฟเทเบิลและ Tapas Lunch มื้อเที่ยงวันเสาร์ หรือบรันช์ White Brunch อาหารมื้อสายวันอาทิตย์ที่ให้รับประทานได้อย่างไม่อั้นอีกด้วย 

 

Boutique Farmers Pak Nam Pran

Photo: Boutique Farmers Pak Nam Pran / Facebook

 

การได้มาเยือนปราณบุรีครั้งนี้หลังจากที่ไม่ได้มาไปพักใหญ่ ได้สัมผัสกับเมืองตากอากาศชายทะเลเล็กๆ แห่งนี้ในแง่มุมที่เราไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ทำให้เรารู้สึกหลงรักปราณบุรีมากกว่าครั้งไหนๆ และตั้งใจว่าจะกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งให้ได้ 

FYI

พิกัดต่างๆ ที่ปรากฏในบทความ 

  • The Weekend Camp Pranburi ตั้งอยู่ที่ 410 หมู่ 4 ตำบลปากน้ำปราณฯ ข้อมูลเพิ่มเติม www.theweekendcamp.com หรือ Facebook: The Weekend Camp Pranburi โทร. 08 2725 9595
  • Boutique Farmers Pak Nam Pran: www.theboutiquefarmers.com หรือ Facebook: Boutique Farmers Pak Nam Pran
  • บ้านโชคอารีย์ ตั้งอยู่ที่ 181/77 หมู่ 2 ตำบลปากน้ำปราณฯ
  • ครัวเจ้แมว ตั้งอยู่ที่ซอยผาสุขวนิช 8 ตำบลปากน้ำปราณฯ
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising