วันนี้ (15 มีนาคม) ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ นำโดย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยแกนนำอย่าง สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค, ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ, ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า มาร่วมเปิดตัว 2 บุคคลที่จะมาร่วมทีมเศรษฐกิจของพรรคคือ ดร. ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน และ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ทั้ง 2 คนเป็นทีมเศรษฐกิจที่จะมาเสริมให้พรรคพลังประชารัฐมีบารมี มาเป็นทีมเศรษฐกิจด้านพลังงานที่พร้อมมาทำงานกับพรรค และนำประโยชน์มาสู่พี่น้องประชาชน ขอบคุณทั้ง 2 คนที่ได้ตกลงใจมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ และทางพรรคก็ยินดีต้อนรับด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ด้านสันติกล่าวว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐได้บุคลากรสำคัญ ซึ่งมีความรู้ความสามารถ ทั้ง 2 คนมีอุดมการณ์ที่จะช่วยพัฒนาพรรคในการเปิดนโยบายแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจเพื่อพี่น้องประชาชนทุกครัวเรือนในหลายด้าน เพื่อให้พรรคพลังประชารัฐเป็นที่หวังของประชาชน พร้อมย้ำว่าเมื่อได้หัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ทุกนโยบายจะทำทันที
ส่วน พล.อ. ประวิตรได้กล่าวอีกครั้งว่า ที่ตนเคยบอกว่าพรรคพลังประชารัฐไม่มีทีมเศรษฐกิจ เรามีเยอะ พร้อมที่จะแก้ปัญหาให้กับบ้านเมืองและประชาชน ให้อยู่ดีกินดีตามที่เคยพูดได้ พร้อมทั้งยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เพราะฉะนั้น ฝากกับสื่อมวลชนให้ช่วยไปบอกเพื่อนฝูงด้วยว่า “พรรคเรามีทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง พร้อมจะทำงานให้บ้านเมืองและประเทศชาติและเพื่อประชาชน”
ด้านธีระชัยกล่าวว่า เห็นว่าบ้านเมืองของเรากำลังจะเผชิญกับปัญหาใหญ่ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ของโลกซึ่งจะมีลักษณะเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่จะสาดเข้ามาที่ชายฝั่งประเทศไทยทั้งในด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจการเงินโลกเริ่มแสดงอาการที่ตลาดเงินในสหรัฐอเมริกาและยุโรป อีกทั้งการบริหารประเทศต้องเพิ่มนโยบายที่เน้นทำให้ประชาชนมีความเข้มแข็งโดยใช้ศาสตร์พระราชา ขณะที่ปัญหาธุรกิจเอกชนอยู่เหนือผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้น ต้องเพิ่มนโยบายที่ขจัดความขัดแย้ง และเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
ธีระชัยกล่าวอีกว่า ตนเองเคยเขียนหนังสือ Thailand Reset เสนอแนวคิดให้พลิกมุมเศรษฐกิจไทย เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง และตนได้เขียนไว้หลังปกหนังสือว่า ‘ก้าวข้ามตัวบุคคล ก้าวพ้นสีเสื้อ ก้าวเพื่อประชาชน’ สอดคล้องกับที่ พล.อ. ประวิตรชูธงนำว่า ‘ก้าวข้ามความขัดแย้ง’
ขณะที่ ดร. ม.ล.กรกสิวัฒน์กล่าวถึงเหตุผลในการร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐว่า ตนเองเป็นนักธุรกิจด้านการเงินและการลงทุนเป็นเวลากว่า 20 ปี ยังไม่เคยได้ยินพรรคการเมืองไหนพูดเรื่องนโยบายพลังงาน ยกเว้นสนธิรัตน์ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ตนได้คุยกับผู้ใหญ่ในพรรค และทำให้พบกับหัวหน้าพรรค ทำให้ตนทราบว่าพรรคไม่ได้มีเจตจำนงที่จะลดราคาพลังงานเท่านั้น แต่จะเป็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นตออย่างแท้จริง
“ผมเชื่อมั่นว่านโยบายด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพลังงาน ถูกคัดกรองมาแล้วว่าจะเป็นนโยบายที่จะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยยึดประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นที่ตั้ง ดังนั้นหาก พล.อ. ประวิตร ท่านจะมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ก็เชื่อมั่นได้ว่านโยบายที่พรรคได้นำเสนอไปนั้นถือเป็นสัญญาประชาคมที่จะต้องถูกผลักดันให้สำเร็จ” ดร. ม.ล.กรกสิวัฒน์กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีนโยบายด้านเศรษฐกิจออกมาอีกหรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ให้ออกมาก่อนเดี๋ยวค่อยถาม เศรษฐกิจก็คือเศรษฐกิจไม่ต้องถาม เดี๋ยวก็ออกมาเอง พรรคมีทีมงานที่จะสร้างนโยบายของพรรคจะออกมาเรื่อยๆ และสามารถทำงานร่วมกับ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ได้เลย ไม่มีปัญหา เพราะทั้งสองท่านมีความรู้ด้วยกันทั้งคู่อยู่แล้ว เดี๋ยวมาคุยกันว่าจะทำอย่างไร แต่รับรองว่าดีแน่นอน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐจะสามารถสู้กับทีมเศรษฐกิจของพรรคอื่นได้หรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ตนไม่สู้ใคร ขอสู้กับประเทศชาติ สู้กับความยากจนของประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดี ให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมเท่าเทียมกันทุกคน
