ทศพล เพ็งส้ม ส.ส. นนทบุรี และทีมกฎหมายพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ร่วมกันแถลงเตรียมยื่นเรื่องในนามบุคคลต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงวันนี้ เพื่อขอให้วินิจฉัยคุณสมบัติ ส.ส. ฝ่ายค้าน 33 คน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 4 คน, พรรคอนาคตใหม่ 21 คน, พรรคเพื่อชาติ 4 คน, พรรคเสรีรวมไทย 3 คน, พรรคประชาชาติ 1 คน กรณีถือหุ้นในบริษัทที่จดทะเบียนกำหนดวัตถุประสงค์ประกอบกิจการสื่อ ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับที่ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ยื่นให้ตรวจสอบ ส.ส. รัฐบาลโดยมีการตัดส่วนของ ส.ส. ที่ถือหุ้นในบริษัทค้าหนังสือพิมพ์ออกแล้ว เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่ากรณีดังกล่าว ไม่ถือว่าเข้าข่ายประกอบกิจการสื่อและยกคำร้อง ส.ส. 9 คนไปเมื่อวานนี้
สำหรับเหตุผลที่ยื่นในนามชัยวุฒิตรงถึงศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่มีการเข้าชื่อ ส.ส. 1 ใน 10 เพื่อยื่นผ่านประธานรัฐสภา ทศพลชี้แจงว่า เพราะในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำสั่งไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ระบุว่า เนื่องจากยังไม่มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง มีเพียงหลังฐานหนังสือบริคณห์สนธิอย่างเดียว จึงไม่เพียงพอที่จะเข้าเงื่อนไขให้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ จึงเกรงว่าหากยื่นผ่านประธานรัฐสภา อาจจะมีขั้นตอนตรวจสอบที่ยาวนานขึ้น ดังนั้นจึงลองใช้ช่องทางนี้ยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาหรือไม่
ส่วนการต่อสู้คดีของ 21 ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ทศพลบอกว่า ได้ให้ ส.ส. แต่ละคนรวบรวมข้อเท็จจริงและยกร่างคำชี้แจงให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า แต่ยังต้องรอเอกสารหลักฐานจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีการขอขยายเวลาจากเดิมที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ 15 วันออกไปหรือไม่ โดยต้องดูตามข้อเท็จจริงก่อน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
