ผมหยิกยุ่งสีแดง สะพายกีตาร์คู่ใจ น้ำเสียงอบอุ่น มีเสน่ห์ บทเพลงหลากอารมณ์ทั้งไพเราะ หวานซึ้ง เศร้า ไปจนถึงเซ็กซี่ คือคุณสมบัติพื้นฐานที่เรานึกถึงขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ ทุกครั้งเมื่อพูดถึงนักร้องหนุ่มจากเมืองผู้ดีที่ชื่อ เอ็ด ชีแรน
เอ็ดเวิร์ด คริสโตเฟอร์ ชีแรน เกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1991 ที่ West Yorkshine ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นผูกพันกับเสียงเพลงตั้งแต่อายุ 4 ขวบ จากการเป็นนักร้องประสานเสียงในโบสถ์ไปพร้อมๆ กับการฝึกเล่นกีตาร์
จนอายุ 17 ปี เขาตัดสินใจเดินทางไปลอนดอนเพื่อสานฝันอยากเป็นนักดนตรี โดยเริ่มต้นจากการเล่นกีตาร์บนเวทีเล็กๆ หรือตามรายการทีวีต่างๆ ก่อนจะได้มีโอกาสร่วมงานกับนักดนตรีหลายคน อย่าง Just Jack, Example, Amy Wadge, CeeLo Green ผลงานที่โดดเด่นถึงขนาดได้รับเชิญจาก เจมี ฟ็อกซ์ ให้เอ็ดไปแสดงในร้านอาหารของเขา
ในช่วงปี 2010-2011 เอ็ดได้ทำเพลงออกมาเรื่อยๆ โดยมีผลงานอย่าง The A Team ที่เผยแพร่บน YouTube และทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ (ล่าสุดมีคนเข้าไปฟังเพลงนี้มากถึง 318 ล้านครั้ง) จนมาถึงมินิอัลบั้ม No.5 Collaborations Project (2011) ที่สามารถขายได้กว่า 7,000 ก๊อบปี้ และไต่ขึ้นอันดับ 2 บน iTunes ได้ โดยไม่มีการโปรโมตหรือซัพพอร์ตจากค่ายเพลงไหน และทำให้เขาได้เซ็นสัญญากับค่าย Asylum Records และกลายเป็นศิลปินเต็มตัวในเวลาต่อมา
หลังจากนั้นชื่อของ เอ็ด ชีแรน ก็เริ่มโด่งไปทั่วโลก จากน้ำเสียง การเล่นกีตาร์ และทักษะการแต่งเพลงระดับอัจฉริยะ จนทำให้เขากลายมาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในโลก จากสตูดิโออัลบั้มทั้งสี่ ซึ่งเต็มไปด้วยเพลงฮิตชนิดยิ่งปล่อยยิ่งปัง ไม่ว่าจะเป็น Lego House, Give Me Love, Thinking Out Loud, Photograph, Shape of You, Castle on the Hill, Perfect, I Don’t Care, Beautiful People ฯลฯ
ปัจจุบันผลงานของเอ็ดสามารถทำยอดขายรวมจนถึงปัจจุบันกว่า 150 ล้านชุด ซึ่งทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่ทำกำไรมากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเพลง พร้อมกับตำแหน่งศิลปินเจ้าของเพลงที่มียอดสตรีมมิงมากที่สุดในทศวรรษบน Spotify
นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าพ่อสถิติบนชาร์ตเพลงฝั่ง UK เช่น ในอัลบั้ม Devide ซึ่งซิงเกิล Shape of You กับ Castle on the Hill สามารถร่วมกันทำลายสถิติครองแชมป์อันดับ 1 และ 2 บนชาร์ตเพลงอังกฤษได้พร้อมกันในสัปดาห์เดียว ทำให้เอ็ดกลายเป็นศิลปินคนแรกที่สามารถทำได้ ไปจนถึงการคว้ารางวัล Brit Awards 6 รางวัล และ Grammy Awards อีก 4 รางวัล
นอกจากความสำเร็จในวงการเพลง เอ็ดมักจะเซอร์ไพรส์แฟนๆ บนจอภาพยนตร์หรือจอโทรทัศน์อยู่เสมอ โดยมีผลงานมากถึง 13 เรื่อง ที่มีศิลปินผมแดงปรากฏอยู่ในนั้น เช่น Yesterday, Star Wars: The Rise of Skywalker (เป็นสตอร์มทรูปเปอร์) รวมทั้งในซีรีส์ Game of Thrones ที่หลายคนยังงงอยู่ว่า เขาปรากฏตัวขึ้นมาทำไม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การปรากฏตัวของเขาในช่วงเวลาสั้นๆ นั้นกลายเป็น ‘ไวรัล’ ขึ้นมาได้ทันที
