วันนี้ (6 มกราคม) พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) แถลงผลการจับกุมบ่อนการพนันในย่านปิ่นเกล้าและดอนเมืองว่า เมื่อวานนี้ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายค้างเก่าในห้องพักรายวันภูมิเฮาส์หรือฟินเฮาส์ ถนนสรงประภา เขตดอนเมือง และได้ของกลางมาดำเนินคดี
ส่วนคอนโดปิ่นเกล้าหลังโรงพยาบาลเจ้าพระยา จากการเข้าตรวจสอบ พบคนดูแลอาคาร ซึ่งผู้ดูแลยืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวเคยใช้เป็นสถานที่เล่นการพนันจริง แต่ได้เลิกไปแล้ว และก่อนหน้าที่จะมีโควิด-19 ก็ถูกใช้เป็นสถานที่ในการจัดเลี้ยงสังสรรค์
พล.ต.ต. ปิยะ ระบุด้วยว่า สาเหตุที่มาตรวจสอบบ่อนในช่วงนี้เพราะเป็นช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 และพบข้อมูลว่ามีผู้ป่วยที่พบติดเชื้อไปในบ่อนการพนัน จึงจะต้องสืบสวนจับกุม ซึ่งเดิมก็ตรวจสอบจับกุมมาโดยตลอด
ส่วนบ่อนย่านปิ่นเกล้า ดอนเมือง ก็เคยมีการตรวจและการจับกุมมาก่อนแล้ว แต่ที่ยังมีอุปกรณ์การเล่นอยู่ คาดว่าน่าจะมีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์หากถูกจับกุมที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
“สำหรับบ่อนย่านปิ่นเกล้า ตำรวจก็จะมีการตรวจสอบเชิงลึก ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง ซึ่งผู้ป่วยระบุ สถานที่ติดเชื้อเป็นสถานที่เดียวกับที่ตำรวจเข้าตรวจค้น โดยจะต้องสอบสวนอีกครั้ง เพราะผู้ป่วยอาจจะเกิดความเข้าใจผิดหรือไม่ว่าบริเวณดังกล่าวเป็นบ่อน แต่อาจจะเป็นการจัดเลี้ยง ซึ่งคำให้การของผู้ป่วยเป็นหนึ่งในพยานหลักฐานที่จะต้องพิสูจน์ทราบต่อไป” พล.ต.ต. ปิยะ กล่าว
ส่วนบ่อนย่านดอนเมือง พล.ต.ต. ปิยะ กล่าวว่า จากการสอบสวน อำนวย เกียรติดอนเมือง ผู้ต้องหาที่จับได้ ให้การว่ายอมรับว่าเป็นเจ้าของอุปกรณ์จริง
ทั้งนี้ โรฮิงญา 14 คนที่ถูกจับกุม และพบติดโควิด-19 จะต้องตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับอำนวยหรือไม่
พล.ต.ต. ปิยะ ยืนยันว่า จะไม่มีการปล่อยปละละเลย และจะตรวจสอบบ่อนการพนันต่อไป หากพบข้อมูลในการลักลอบเล่นการพนันก็พร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ปล่อยไว้แน่นอน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล