เราจะเรียนรู้อะไรได้บ้างจาก คริสเตียโน โรนัลโด นักฟุตบอลที่โด่งดัง เก่งกาจ และทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในโลกยุคปัจจุบัน
เขาคือนักฟุตบอลที่คนรักและหมั่นไส้มากที่สุดในโลก เพราะคำว่า ‘อีโก้’
หลายคนอาจนึกถึงคำว่า ‘อีโก้’ ในแง่ลบ เป็นคนหยิ่งยโสโอหัง ไม่ฟังเสียงความคิดเห็นของผู้อื่น แต่หากมองให้ลึกและกว้างขึ้น บวกกับรู้จักบริหารจัดการอีโก้อย่างถูกวิธี สิ่งนี้จะเป็นเหมือนกุญแจลับแห่งความสำเร็จก็เป็นได้
เคน-นครินทร์ ถอดรหัสเบื้องหลังอีโก้ของ คริสเตียโน โรนัลโด ชายผู้ต้องการเป็นอย่างเดียวคือที่หนึ่ง
คงไม่มีใครปฏิเสธความเก่งกาจของผู้ชายคนนี้ เช่นเดียวกับความรู้สึกหมั่นไส้ที่มาจากอีโก้ หรือความมั่นใจในตัวเองของเขา
ครั้งหนึ่งตอนที่โรนัลโดได้รางวัลบัลลงดอร์ปี 2014 หรือรางวัลนักเตะที่ดีที่สุดในโลกแห่งปี เขาดีใจออกนอกหน้า พร้อมขึ้นไปบนเวทีด้วยชุดสูทสุดหรู แล้วระเบิดอารมณ์ตะโกนออกมาด้วยเสียงดังลั่นสนั่นไปทั่วทั้งงาน แน่นอนว่าเสียงนั้นไปกระทบเต็มสองรูหูของเมสซีที่นั่งอยู่
หากมีคนถามคุณว่า “คุณคือคนที่เก่งที่สุดในโลกใช่หรือไม่”
90% คงรู้ตัวเอง ส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ไม่”
อีก 9% น่าจะถ่อมตัว แล้วตอบว่า “อาจจะ”
จะมีก็แค่คน 1% เท่านั้นที่จะคุยโวโอ้อวดตัวเองว่า “ใช่”
นั่นแหละคือโรนัลโด ที่ไม่เพียงแต่บอกว่าเขาเก่งที่สุดตอนนี้เท่านั้น แต่ยังย้ำว่าเขาเก่งที่สุดมาตลอด!
“ผมคิดว่าใช่นะ” โรนัลโดให้สัมภาษณ์ตอบนักข่าวบีบีซีที่ถามว่า เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกใช่หรือไม่
“ในความรู้สึกของผม ผมเก่งที่สุดมาตลอด ผมไม่สนว่าใครคิดหรือพูดว่าอย่างไร แต่สำหรับผม ไม่ใช่แค่ปีนี้นะ ผมว่าผมเก่งที่สุดมาตลอด และผมก็จะพูดแบบนี้ไปเสมอ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตามั่นคง คล้ายกับว่ามันออกมาจากก้นบึ้งในใจเขาจริงๆ
อีกเรื่องในขณะที่นักฟุตบอลหลายคนเลือกเกษียณตอนอายุ 30 ปี หรือย้ายไปอยู่ทีมที่เล็กลงเพื่อสร้างรายได้ แต่โรนัลโดวัย 33 ปีกลับเลือกไปอยู่ทีมยูเวนตุส เพื่อรักษาฟอร์มให้ยังอยู่ในระดับท็อป
เรื่องเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เขาคือคนที่มีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม ทะเยอทะยานอย่างไม่ย่อท้อ และพาตัวเองไปอยู่จุดสูงสุดเสมอ
View this post on Instagram
Un’altra importante vittoria! Avanti cosi ragazzi, tutti insieme! #finoallafine
ความหมายที่แท้จริงของคำว่า ‘อีโก้’
คำว่า ‘Ego’ ในภาษาอังกฤษมีรากศัพท์มาจากภาษาลาตินที่ว่า ‘I’ หรือ ‘ตัวกู’
แม้ว่า ‘อีโก้’ จะคล้ายกับ ‘อัตตา’ในศาสนาพุทธ แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปที่ความหมายจริงๆ ก็จะเห็นได้ว่าอีโก้ไม่ใช่เรื่องไม่ดีเสมอไป
ความหมายในพจนานุกรมภาษาอังกฤษบอกไว้ว่าอีโก้คือ a person’s sense of self-esteem or self-importance. แปลเป็นไทยก็คือ การมองเห็นคุณค่าในตัวเองหรือการตระหนักในความสำคัญของตัวเอง
อีโก้จึงไม่ใช่แค่ความหลงตัวเองอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงความมั่นใจในตัวเองได้อีกด้วย ในภาษาไทย เวลาพูดว่า “คนนี้อีโก้จัด” จึงมักเหมารวมว่าเป็นคนที่มีความเย่อหยิ่ง ทะนงตัว อวดรู้ อวดดี ทั้งที่จริงๆ แล้วในภาษาอังกฤษจะมีอีกคำที่ใช้ต่างกัน
Egotistical และ Arrogant ทั้งสองคำนี้มีความหมายคล้ายกันมากคือความมั่นใจในตัวเอง ความภูมิใจในตัวเอง
ความแตกต่างคือ Egotistical จะเป็นความมั่นใจที่อยู่ข้างในมากกว่า ไม่จำเป็นต้องแสดงออกมา หรือถ้าจะแสดงออกก็มักจะเป็นการพูดยกหางตัวเอง ไม่ได้ไปทับถมผู้อื่นหรือระรานใคร ในขณะที่ Arrogant แปลเป็นภาษาไทยคือหยิ่งยโสโอหัง จะเป็นความมั่นใจที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน และมักจะดูถูกหรือสบประมาทผู้อื่น ฉะนั้นคนที่มี Egotistical ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้อง Arrogant เสมอไป
ไมค์ ฟอร์ด ผู้เคยทำงานเป็น Performance Director ให้กับทีมโบลตัน วันเดอร์เรอร์สและเชลซี เชื่อในพลังของอีโก้เป็นอย่างมาก เขาเชื่อว่าอีโก้คือเคล็ดลับแห่งความสำเร็จของนักกีฬา
“ถ้าคุณเป็น ดิดิเยร์ ดร็อกบา ที่ต้องยิงจุดโทษชี้ขาดในเกมชิงชนะเลิศของถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ที่มีคนดูกว่า 160 ล้านคนทั่วโลกและ 60,000 คนในสนาม คุณต้องมีความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเองในระดับที่สูงมาก สิ่งนี้แหละที่เราเรียกว่าอีโก้”
อีโก้จึงมีประโยชน์อย่างยิ่ง หากเราบริหารจัดการและใช้มันอย่างถูกวิธี
สูตรของการบริหารอีโก้ให้ถูกวิธี
ไมค์ ฟอร์ด เคยกล่าวถึง ‘สูตรการก้าวไปสู่ความเก่งโคตร’ ไว้อย่างน่าสนใจด้วยสมการที่ว่า
ความเก่งโคตร = (อีโก้ + การเปิดใจที่จะเรียนรู้และฝึกฝน) x วัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้
ฉะนั้นหากอยากเก่ง ต้องวางอีโก้ไว้เป็นรากฐานและไม่ลืม 2 สิ่งสำคัญนั่นคือ 1. การเปิดใจที่จะเรียนรู้และฝึกฝน ยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง 2. อยู่ในวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้
ถอดความสำเร็จเบื้องหลัง ‘อีโก้’ ของคริสเตียโน โรนัลโด
โรนัลโดมักถูกยกย่องเรื่องการทำงานหนัก ตั้งใจฝึกฝน เห็นได้จากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เจ้านายเก่าของเขาสมัยสังกัดอยู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยเคล็ดลับความสำเร็จของโรนัลโดว่า
“ไม่มีอะไรมาก สิ่งสำคัญคือการฝึกหนัก เด็กคนนี้ซ้อมยิงทุกวัน โดยเราจะไปนั่งจิบชากันต่อ แล้วปล่อยให้เขามีเวลาซ้อมคนเดียว”
โรนัลโดทุ่มเทเวลาในโรงยิมพอๆ กับสนามฟุตบอล เล่นเวตหลายท่าเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ สร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายทุกส่วน วิดพื้นวันละ 3,000 ครั้ง และในขณะที่เพื่อนร่วมทีมซ้อมเสร็จกลับไปอาบน้ำ เขาจะถ่วงน้ำหนักที่ข้อเท้าซ้อมต่อ 30 นาที และฝึกยิงฟรีคิกวันละอย่างน้อย 30 ลูก นอกจากนี้เขาไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า และไม่สัก (เพราะอยากบริจาคเลือด)
เซอร์อเล็กซ์ เห็นด้วยว่านักเตะลูกรักของเขาเต็มไปด้วยอีโก้ แต่สิ่งนี้เองที่ผลักให้โรนัลโดก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกในวันนี้
“นักเตะควรจะกอดอีโก้ไว้กับตัว คุณมักจะเห็นโรนัลโดยืนภูมิใจอยู่หน้ากระจก แต่ผมคิดว่ามันเป็นความทะนงตัวที่ดีนะ ผู้ชายคนนี้เพาะปลูกอีโก้เพิ่มขึ้นทีละน้อย คุณอาจจะเห็นเขาขับรถเฟอร์รารี่แล้วคิดว่า ‘มันจะขับรถหรูไปทำไมวะ’ แต่นั่นคือสิ่งที่เขาต้องมี เขาจะไม่ขับรถเก่าๆ ออกจากทีมในเมืองไปอยู่ทีมท้ายตาราง หรือยอมโดนดรอปเป็นตัวสำรอง คุณไปตัดสินเขาไม่ได้หรอก เขามีความเป็นมืออาชีพมากๆ”
ความมืออาชีพของโรนัลโดไม่ใช่แค่การฝึกซ้อมอย่างบ้าคลั่งเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดใจรับฟังคำวิจารณ์จากโค้ชและเพื่อนร่วมทีม หรือแม้กระทั่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อที่ว่าเขาด้อยกว่าเมสซี บ่อยครั้งที่เขาเก็บเอาคำติเหล่านั้นมาคิด เพื่อที่จะทำยังไงก็ได้ให้คนที่เขียนว่าเมสซีเก่งกว่าเขาคิดผิด เขาเอาทุกคำวิจารณ์มาแก้ไขปรับปรุงผลักดันให้ตัวเองขึ้นเป็นที่หนึ่ง
เช่นเดียวกับการนำตัวเองเข้าไปอยู่ในวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ เขาย้ายไปอยู่ในทีมระดับท็อปอย่างยูเวนตุส เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมการฝึกฝนให้ดีเยี่ยมเหมือนเดิม ถึงขั้นมีคนกล่าวว่าโรนัลโดจะเป็นนักเตะไปได้จนถึงอายุ 40 ปีเลยด้วยซ้ำ
ทุกวันนี้โรนัลโดในวัยสามสิบต้นๆ ก็ยังคงเลี้ยงอีโก้ของตัวเองไว้อย่างเหนียวแน่น ด้วยบุคลิกเย่อหยิ่ง มั่นใจตัวเอง ทะเยอทะยาน ทำให้เขาเป็นนักฟุตบอลที่มีคนรักและหมั่นไส้มากที่สุดในโลก
“บางคนอาจเกลียดผมเพราะผมเก่งเกินไป”
ประโยคนี้ยิ่งทำให้มีคนหมั่นไส้เพิ่ม แต่โรนัลโดก็ไม่ยี่หระ ดูเหมือนว่าความเกลียดชังและเสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้นจะไม่ได้ทำให้เขาท้อแท้หรืออ่อนแอลงแม้แต่น้อย
โรนัลโดให้สัมภาษณ์เรื่องความเกลียดชังบ่อยครั้ง แต่ไม่มีคำพูดไหนที่จะสะท้อนความเป็นตัวตนของเขาได้มากเท่ากับประโยคนี้
“Your love makes me strong, Your hate makes me unstoppable”
“ความรักของคุณทำให้ผมแข็งแกร่ง แต่ความเกลียดชังของคุณจะทำให้ผมไร้เทียมทาน”
สามารถฟังพอดแคสต์ The Secret Sauce
ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่คุณสะดวกหรือใช้อยู่แล้วได้เลย
Credits
The Host นครินทร์ วนกิจไพบูลย์
Show Creator นครินทร์ วนกิจไพบูลย์
Show Producers เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์, ปวริศา ตั้งตุลานนท์
Episode Editor เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์
Sound Designer & Engineer กฤตพล จียะเกียรติ
Coordinator & Admin อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค
Art Director อนงค์นาฏ วิวัฒนานนท์
Proofreader ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
Webmaster รพีพรรณ เกตุสมพงษ์