×

ใจใหญ่ ใจสู้ ตั้งใจ ให้ใจ 4 วิธีคิดแบบใจๆ ที่ควรเรียนรู้จาก วิชัย ศรีวัฒนประภา

29.10.2018
  • LOADING...

วิชัย ศรีวัฒนประภา คือคนไทยไม่กี่คนที่ไปถึงจุดสูงสุดของโลกได้ในแทบทุกด้าน เขาประสบความสำเร็จทั้งด้านธุรกิจกับคิง เพาเวอร์ ด้านเกียรติยศ ที่ได้รับการยกย่อง การันตีจากรางวัลมากมายหลายสาขาหลากสถาบัน เขามีความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลมีชื่อเสียงระดับประเทศหรือระดับโลก และด้านความชื่นชอบส่วนตัว เขาเลือกที่จะทุ่มเทให้กับกีฬาฟุตบอลและโปโลจนก้าวขึ้นสู่ยอดเขาสูงสุด

 

ความสูญเสียกะทันหันในครั้งนี้ จึงเป็นความโศกเศร้าอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับคนไทยและคนทั่วโลก โดยเฉพาะกับชาวเมืองเลสเตอร์ เพราะเขาคือบุคคลอันเป็นที่รัก จากการชุบชีวิตทีมเลสเตอร์ ซิตี้ สร้างเทพนิยายอันมหัศจรรย์คว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา 132 ปี

 

แน่นอนว่ามนุษย์ย่อมมี 2 ด้าน แต่ชีวิตของวิชัยน่าศึกษาเรียนรู้ว่าอะไรทำให้เขามาถึงจุดนี้ได้ และอะไรที่เราควรถอดบทเรียนเพื่อรำลึกถึงการจากไปของเขา

 

เพราะผมเชื่อว่า สิ่งที่เขาสร้างมานั้นมีคุณค่าต่อเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากเราเลือกที่จะหยิบจับมาเรียนรู้ให้เป็น

 

วิธีคิด 4 ข้อท่ีคุณจะได้อ่านต่อจากนี้ บางส่วนมาจากบทสัมภาษณ์คนใกล้ตัวของวิชัยที่ทาง THE STANDARD เคยมีโอกาสได้ร่วมพูดคุย ในขณะที่อีกส่วนมาจากการสังเกตของตัวผมเองที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเขาในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่ได้รับเชิญไปทำข่าวที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เมืองเลสเตอร์

 

การได้พูดคุยและทานข้าวร่วมกันทำให้ผมสังเกตเห็นได้ถึงบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ ใจใหญ่ ใจถึง แม้เสียงที่ดังกังวาน และความตรงไปตรงมาจะทำให้ประหม่าอยู่บ้าง แต่ก็ซ่อนไว้ด้วยความเป็นกันเอง ขี้เล่น มีอารมณ์ขัน และใจดี

 

สำหรับผม คุณวิชัยคือนักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ พ่อของลูกๆ ที่สอนผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด คนบ้ากีฬาที่ทุ่มสุดตัว-ไปสุดทาง และชายผู้ไม่เคยก้มหัวให้อุปสรรคและความล้มเหลวใดๆ ในชีวิต

 

1. ใจใหญ่

วิชัยเป็นคนใจกว้าง ไม่ว่ามีน้อยหรือมากอย่างไร เขาพร้อมจะให้ผู้อื่นเสมอ จากคำให้สัมภาษณ์โดยคุณแม่ประภาศร เล่าว่าวิชัยมีความเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่เด็ก ตอนเขาอายุ 11 ปี คุณแม่ตัดสินใจส่งวิชัยไปเรียนไกลถึงเมืองไถ่จง ไต้หวัน ขณะที่คุณแม่ร้องไห้เสียใจที่ต้องไกลลูก วิชัยกลับเป็นคนปลอบคุณแม่ และกล่าวว่า “แม่ไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวโตขึ้นจะรวยกลับมาทำงานเลี้ยงคุณแม่เอง”

 

เช่นเดียวกับกลุ่มเพื่อนสมัยเรียนของวิชัยที่ให้สัมภาษณ์ว่า เด็กชายวิชัยมักเป็นหัวโจกนำเพื่อน ไม่กลัวคน ชอบเอาเงินค่าขนมไปเลี้ยงเพื่อนๆ แค่เจอกันวันแรกก็พกขนมมาแจกคนอื่นแล้ว เงินที่ได้มาแต่ละเดือน เขามักใช้ไปกับการพาเพื่อนท่องเที่ยวรอบเมืองไทเป

 

อีกเกร็ดที่น่าสนใจสำหรับคนที่สนใจธุรกิจ วิชัยมีหัวการค้าตั้งแต่ยังเด็ก เขาเคยเอาผ้าปูที่นอนมากางเป็นจอฉายภาพยนตร์ เลือกเรื่องที่น่าสนใจ เปิดให้เพื่อนดูพร้อมเก็บเงิน เช่นเดียวกับความสนใจเลือกฟุตบอล เวลามีซ้อม เขามักเลือกนั่งประกบโค้ชและจัดตำแหน่งผู้เล่นในเกมให้เป็นไปตามที่ตนเองคิด เรียกได้ว่ามีความเป็นผู้นำสูงตั้งแต่ยังเด็กเลยก็ว่าได้

 

หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาจากไต้หวัน เขาเดินทางไปเรียนต่อถึงอเมริกา ด้วยความขยัน ที่นั่นเองเขาเริ่มต้นทำงานพิเศษหารายได้ ท่ามกลางความเป็นห่วงจากพ่อเพราะไม่อยากให้ลูกลำบาก วิชัยแก้เกมด้วยการปลอมตัวใส่วิกไปทำงาน แถมยังแอบไปทำงานหลายอย่าง ไม่เว้นแม้กระทั่งเป็นเด็กปั๊ม

 

ข้อนี้สอนให้เราเรียนรู้ว่าหากอยากเป็นผู้นำ ใจเราต้องใหญ่ก่อน เพื่อให้การณ์ใหญ่ที่กำลังคิดไปได้ถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้ และประสบความสำเร็จในที่สุด

 

2. ใจสู้

คุณสมบัติสำคัญของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ คือความใจสู้ พร้อมฝ่าฝันทุกอุปสรรคก่อนที่จะตั้งตัวได้ เช่นเดียวกับวิชัยที่ใช้เวลาพิสูจน์ตนเองจนทำให้ธุรกิจของคิง เพาเวอร์ ยิ่งใหญ่ได้เช่นทุกวันนี้

 

คุณต๊อบ อัยยวัฒน์ ลูกชายเล่าให้ฟังว่า สิ่งที่จำได้ตั้งแต่เด็ก คือภาพคุณพ่อทำงานหนัก ออกจากบ้านแต่เช้า กลับอีกทีตอนดึกและยังคงทำงานต่อ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกเท่าไร โดยเฉพาะช่วงที่ต้องสร้างดิวตี้ฟรีในสนามบินสุวรรณภูมิ วิชัยลงไปตรวจงานเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่วันที่ยังเป็นพื้นฝุ่น ผนังปูน ไม่ได้สวยงามเหมือนปัจจุบัน ซ้ำยังตรวจเข้มทุกรายละเอียดไม่ปล่อยให้พลาดแม้แต่จุดเดียว และพาลูกๆ ไปเรียนรู้งานอยู่เสมอ

 

จนถึงวาระปัจจุบัน เขายังทุ่มเทให้กับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เขาไม่ใช่เศรษฐีที่อยากทำกำไร แต่เป็นชายคนหนึ่งที่อยากทำทีมออกมาให้ดีขึ้น เขามักเข้าไปพูดคุยเรื่องปัญหากับทีมงาน พร้อมส่งคนเก่งๆ เข้าไปช่วยบริหาร เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด

 

ในช่วงอายุ 40 ปีของวิชัย เขาเจอข่าวลบที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัว ถึงขั้นที่ว่าเวลาลูกๆ ไปโรงเรียนมักโดนเพื่อนเข้ามาถามไถ่เรื่องนี้ จนลูกชายเข้ามาปรึกษา เขาจึงสอนลูกไปว่า “ถ้าเราทำดีและถูกต้อง ก็ไม่ต้องสนใจคำพูดคนอื่น”

 

ฉะนั้นเขาจึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนทำงานหนักในทุกช่วงเวลา เช่นเดียวกับที่คุณต๊อบเคยเล่าว่า “คุณพ่อเป็นคนหัวเดินและหางเดิน คือหัวคิด และทั้งร่างกายเดินไปพร้อมกัน” เขาไม่เคยอ่อนกำลังใจ ในช่วงที่ซื้อทีมเลสเตอร์ ซิตี้ แรกๆ ท่ามกลางแรงเสียดทานและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เขากลับค่อยๆ ทำความฝันให้กลายเป็นความจริง เขาจึงเป็นตัวอย่างของนักสู้ที่หัวใจน่ายกย่องโดยแท้

 

3. ตั้งใจ

ข้อนี้เห็นได้จากความชื่นชอบพระเครื่องของเขา ที่ใช้เวลาเพียง 8 เดือนในการทุ่มเทหาความรู้เรื่องพระเครื่อง ถึงขั้นนำไปเข้าห้องแล็บ อ่านหนังสือมากมาย ถึงขั้นมีการประเมินว่าพระเครื่องที่เขาสะสมน่าจะมีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท หรือหากใครเป็นแฟนบอลเลสเตอร์ ซิตี้ คงจะทราบดีว่า เวลาแข่งฟุตบอล เขามีผ้ายันต์ท่านเจ้าคุณธงชัยเป็นเครื่องนำใจทุกแมตช์แข่งขัน เป็นความเชื่อที่ทำให้เขามีความสุข และได้ศึกษาอย่างรู้ลึกรู้จริง

 

อีกเรื่องที่เขาสนใจคือกีฬาโปโล ถึงขั้นลงทุนควักเงิน 10 ล้านปอนด์ ซื้อสนามม้ากลางกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษเพื่อใช้งานเป็นประจำ

 

ท้ายสุดที่เขาสนใจคือเรื่องฟุตบอล จากที่เคยเป็นสปอนเซอร์ให้ทีมฟุตบอลเชลซี แต่ในวันที่เขาไปทานข้าวที่เมืองเลสเตอร์ มีคนเข้ามาคุยพร้อมยื่นเอกสารอยากขอให้เป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมฟุตบอลของเมืองนี้ เขากลับปรึกษากับลูกชาย พร้อมตัดสินใจซื้อทีมมาในที่สุด แม้จะไม่รู้จักทีมนี้เลย แต่เขากลับทดลองปลุกปั้นทีม เพื่อสานฝันตัวเองเรื่องกีฬาฟุตบอลให้เป็นจริง

 

เขารักกีฬาประเภทนี้ถึงขั้นใช้คำศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับฟุตบอลในการสอนลูกๆ เช่น การแจกใบเหลืองเมื่อลูกทำผิด หรือบอกว่าลูกกำลัง offside เมื่อเริ่มออกนอกลู่นอกทาง

 

“ทำอะไรให้ทำให้สุด” คือคติการทำงานของเขา

 

4. ให้ใจ

เขาให้ใจคนอื่นก่อนเสมอโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน สิ่งนี้ทำให้เขาได้ใจจากคนรอบข้างกลับมาจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ลูกน้อง หรือแม้กระทั่งแฟนๆ ฟุตบอลเอง

 

วิธีสอนลูกที่น่าสนใจของวิชัย คุณต๊อบเคยเล่าว่า เหตุผลที่คุณพ่อสอนให้ขี่ม้าเพราะว่าต้องการบอกให้ลูกรู้ว่าถ้าเราสามารถควบคุมสัตว์ที่ฟังแม้แต่ภาษาคนยังไม่ได้ ลองให้ใจมันก่อน จนได้ใจมันกลับมา นั่นเท่ากับว่าเราได้บริหารจัดการคนอื่นไ้ด้ดีมากขึ้นแล้ว

 

อีกเรื่องที่น่าสนใจ ในช่วงปี 2549 คือช่วงที่กิจการดิวตี้ฟรีของครอบครัวสั่นคลอนพอสมควร สืบเนื่องจากเหตุการณ์การปิดสนามบินสุวรรณภูมิเป็นระยะเวลา 2 เดือน ทั้งๆ ที่เพิ่งเปิดให้บริการไม่นานด้วยซ้ำ

 

ช่วงนั้นคิง เพาเวอร์ ไม่มีรายรับเลย แต่เพราะต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานตามปกติ วิชัยจึงไปดำเนินเรื่องกู้ยืมเงินจากธนาคารมาจ่ายเงินเดือนพนักงานกว่า 1,000 คนตามปกติ เพราะมองว่าพนักงานคือคนสำคัญขององค์กร และเข้าใจดีว่าทุกคนต่างก็มีภาระที่ต้องแบกรับ

 

ผลสุดท้ายครอบครัวคิง เพาเวอร์ ก็ผ่านวิกฤตในครั้งนั้นมาได้พร้อมกับได้ใจพนักงานในองค์กรทุกคนเป็นของแถม นี่คือศิลปะในการซื้อใจของวิชัย

 

เรื่องการบริหารทีมฟุตบอลเลสเตอร์ก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่เราได้เห็นความทุ่มเทจริงใจของวิชัย หลายคนมักเห็นข่าวว่าเขาเต็มที่กับนักบอลมากถึงขั้นซื้อรถยนต์ให้ทุกคนตอนได้แชมป์ ถึงขั้นที่แคสเปอร์ ชไมเคิล ผู้รักษาประตูของทีมพูดว่า วิชัยเปรียบเหมือนพ่อของเขา และเป็นคนที่เปลี่ยนชีวิตเขา เขาได้สร้างอะไรบางอย่างให้กับทีมนักฟุตบอล และซื้อใจตลอดเวลา

 

ความรักที่มีต่อแฟนฟุตบอลของเขาก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน วิชัยต้องการแสดงให้แฟนบอลเห็นว่า พวกเขามีคุณค่าต่อพวกเรามากแค่ไหน เขาอยากปฏิบัติต่อแฟนบอลเหมือนคนในครอบครัว และฉลองความสำเร็จได้ด้วยกัน เขาภูมิใจในความสัมพันธ์ที่ดีกับแฟนบอลเสมอ และหวังว่าสิ่งนี้จะส่งผลไปถึงทีมบอลอื่นๆ ได้ด้วย เขาเชื่อว่าสิ่งนี้มีคุณค่ามากกว่าช่วงเวลา 90 นาทีบนสนาม และเป็นสิ่งที่สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ดีที่สุดแล้ว

 

ท้ายสุดผมขอยกประโยคที่ชื่นชอบจากคำพูดของแคสเปอร์ ชไมเคิล ที่กล่าวถึงวิชัยไว้ว่า “วิชัยให้ความหวัง และสอนให้ทุกคนรู้ว่าไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้”

 


 

Credits

 

The Host นครินทร์ วนกิจไพบูลย์


Show Creator นครินทร์ วนกิจไพบูลย์

Show Producers เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์, ปวริศา ตั้งตุลานนท์

Episode Editor ปวริศา ตั้งตุลานนท์

Sound Designer & Engineer กฤตพล จียะเกียรติ

Coordinator & Admin อภิสิทธิ์​ หรรษาภิรมย์โชค

Art Director อนงค์นาฏ วิวัฒนานนท์

Proofreader ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

Webmaster จินตนา ประชุมพันธ์

  • LOADING...

READ MORE

MOST POPULAR



Close Advertising
X