เคล็ดลับการบริหารแบบ ‘นิชิโนะ’ กระตุ้นทีมอย่างไรให้ทุ่มสุดตัว

อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่นที่ตอนนี้คุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ รวมถึงชุดเล็กอย่าง U23 ใครที่ติดตามฟุตบอลไทยคงเห็นความน่าสนใจตั้งแต่แรกๆ ที่เขาเข้ามาคุมทีม มีการบริหารจัดการ บุคลิกความเป็นผู้นำ ความเป็นโค้ชที่น่าเรียนรู้ จนหลายคนบอกว่าเขากำลังนำทีมไปถูกทาง

เคน นครินทร์ ชวน นิค-ดิษยุตม์ ธนบุญชัย Content Creator ข่าวกีฬาประจำ THE STANDARD ผู้ที่ได้ติดตามพูดคุยกับนิชิโนะอย่างใกล้ชิด มาร่วมแชร์เคล็ดลับการบริหารทีมในพอดแคสต์ The Secret Sauce

ตรงต่อเวลา

เรื่องเวลาถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับการทำงานในยุคของ อากิระ นิชิโนะ เขามาก่อนเวลาเสมออย่างน้อย 1 ชั่วโมง

ยกตัวอย่างการเก็บตัวของทีมชาติไทยชุดใหญ่สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย

เขาเลือกเก็บตัวที่สนามวินด์มิลล์ ซึ่งอยู่ไกลจากตัวเมืองกรุงเทพฯ ค่อนข้างมาก และต้องใช้เวลาเดินทางไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง

ทางสมาคมฯ แจ้งเราว่าวันนี้ทีมชาติไทยเริ่มซ้อมประมาณห้าโมงเย็น และจะให้สัมภาษณ์ประมาณสี่โมงครึ่ง

จากการสอบถาม ผมก็ได้คุยกับผู้สื่อข่าวสายฟุตบอล เขาก็เตือนว่าให้ไปรอก่อนเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพราะนิชิโนะมาก่อนเวลาเสมอ

ซึ่งพอผมไปถึงประมาณบ่ายสามโมง ปรากฏว่าบ่ายสามโมงครึ่ง นิชิโนะมาถึงสนามแล้วให้สัมภาษณ์เลย ก่อนที่จะเข้าไปยังพื้นที่สนามฝึกซ้อม

ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งในโปรแกรมฝึกซ้อม

ขณะที่งานแถลงข่าวช่วงศึกฟุตบอลโลกทั้ง Official Training หรือก่อนเกม นิชิโนะจะเดินเข้าห้องแถลงแบบตรงเวลาเป๊ะทุกครั้ง

ส่วนหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากการตรงต่อเวลาคือการเตรียมตัวสำหรับการนัดหมายทุกอย่างมีความสำคัญสำหรับนิชิโนะ เพราะที่ผ่านมาเขาต้องบริหารจัดการทีมฟุตบอลถึงสองทีม ทำให้การบริหารจัดการเวลาที่เขาแบ่งให้กับทั้งสองทีมทั้งทีมชาติชุดใหญ่และทีมชาติชุด U23 เป็นสิ่งสำคัญที่เขาจะใช้ประโยชน์จากเวลาที่มีน้อยให้เกิด

ประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่าย รวมถึงสื่อเองด้วยที่ต้องเดินทางไปกลับ

ความเป็นมืออาชีพ

ตลอดการทำงานในฐานะสื่อจะค้นพบกับความเป็นมืออาชีพที่ค่อนข้างสูงจากนิชิโนะ ผมเองก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมงานที่ร่วมงานด้วย เขาจะบอกว่าทุกคนต้องยกระดับมาตรฐานของตัวเองให้เข้ากับความต้องการของโค้ช ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเตรียมสนามซ้อม การเตรียมแถลงข่าว หรือการนัดให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

ที่เราได้โอกาสสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ เขาให้เราส่งคำถามก่อน และจะได้รับการตัดคำถามส่วนตัวออก เนื่องจากเราสัมภาษณ์เขาในช่วงเวลาที่ยังอยู่ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย จึงไม่อยากให้มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องในช่วงนี้

รวมถึงการให้สัมภาษณ์เองก็ยึดจากคำถามที่ส่งไปเท่านั้น จะไม่นอกเหนือจากนั้น

นอกจากนี้ จริงๆ แล้วนิชิโนะเองเข้าใจภาษาอังกฤษ แต่เลือกที่จะใช้ล่ามเพื่อความแม่นยำในการสื่อสารทุกภาษาในการทำงาน ทั้งการสื่อสารเป็นภาษาไทยและอังกฤษ

แต่ตัวเขาเองก็สัญญาแล้วว่าจะพัฒนาเรื่องของการสื่อสารให้มีความเข้าใจกับคนไทยมากขึ้น และสามารถแซวกันได้เพื่อสร้างบรรยากาศที่สนุกมากขึ้น

การทำงานเป็นทีม

จุดนี้เองผมคิดว่าเราได้เห็นแล้วว่าผลลัพธ์ในสนามมันออกมาเป็นอย่างไร การช่วยกันวิ่งไล่ การซ้อนตัวประกบ ความลื่นไหลในเกมรุก สิ่งต่างๆ มันสะท้อนออกมาจากคำพูดที่นิชิโนะเน้นย้ำเสมอว่าอยากให้ทุกคนเน้นความสามัคคีและการทำงานเป็นทีม เพื่อให้เราสามารถต่อสู้กับทีมที่มีศักยภาพสูงกว่าเราได้

ซึ่งจุดนี้เราได้มีโอกาสถามนิชิโนะ เขาก็ยืนยันที่จะยกเครดิตให้กับนักเตะชุด U23 ที่มีความสนิทสนมกันอยู่แล้ว เขาแค่เข้ามากระตุ้นสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีก

รวมถึงสิ่งที่เขาพยายามย้ำเตือนคือฟุตบอลเป็นกีฬาประเภททีม เราไม่สามารถพึ่งซูเปอร์สตาร์เพียงคนใดคนหนึ่งในการเอาชนะคู่แข่ง เราต้องช่วยกันสร้างทีม และผลงานทั้งหมดก็เกิดจากการทำงานเป็นทีม

คำพูดที่ตรงไปตรงมาในฐานะผู้บริหาร

จุดนี้เองนิชิโนะยอมรับว่าด้วยการสื่อสารที่ยังต้องผ่านล่าม รวมถึงวัฒนธรรมของไทยและญี่ปุ่นอาจจะแตกต่างกัน ทำให้การสื่อสารอาจจะมีความเข้าใจที่แตกต่างกันไปบ้าง

แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่เขายืนยันกับเราคือความสำคัญของการสื่อสารแบบตรงไปตรงมา เพราะการจะให้คนที่สนทนาอยู่ด้วยได้รับรู้ความรู้สึกที่แท้จริง ซึ่งในฐานะผู้ฝึกสอน ถ้าเราไม่พูดอะไรตรงๆ หรือพูดแค่ให้แค่ใครคนใดคนหนึ่งพอใจ แต่ปรากฏว่านักกีฬาไม่รับรู้ มันก็จะไม่สามารถสอนให้เขาพัฒนาไปได้

แต่ในขณะเดียวกันความผิดพลาดใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้น นิชิโนะมักจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบความผิดพลาดไว้เอง โดยเฉพาะการตกรอบแรกของฟุตบอลชายซีเกมส์ที่ผ่านมา เขาก็ยืนยันว่าเกิดจากความผิดพลาดในการบริหารที่เขาต้องพบกับนักเตะเพียง 1 วัน รวมถึงโปรแกรมการแข่งขันต่างๆ ในซีเกมส์ที่ไม่สามารถบริหารจัดการได้ดีพอ

แต่เมื่อมีชัยชนะเกิดขึ้นในเกมที่พบกับบาห์เรนไปถึง 5-0 เขายกเครดิตให้กับนักเตะไทยทุกคนในสนามเพื่อเป็นกำลังใจและความมั่นใจให้กับทีม

ขณะเดียวกันเมื่อถึงเวลาที่ทีมแพ้ เขาก็ได้ชี้ให้เห็นถึงจุดที่ต้องพัฒนาทั้งสภาพร่างกายที่เป็นรองและทักษะส่วนตัว การเลือกชี้ให้เห็นจุดที่ต้องพัฒนาของทีมแทนที่จะกล่าวว่าใครผิดพลาดเป็นจุดที่น่าสนใจในฐานะโค้ชของทีมชาติไทย

การกระตุ้นนักเตะเยาวชนไทยไปข้างหน้า

ถ้าจะบอกว่าสิ่งที่ประทับใจที่สุดคือมุมมองที่แตกต่างจากสิ่งที่เราเองคิดจากการสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟกับนิชิโนะ

เราได้สอบถามเขาว่าหากเราจะบอกกับนักเตะเยาวชนหรือใครก็ตามที่อยากจะโตขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลในอนาคตว่าต้องมีมายด์เซตแบบไหน แทนที่นิชิโนะจะตอบเหมือนกับสิ่งที่เราคิดตลอดมาก็คือขยันทำงานพัฒนาตัวเองต่อเนื่อง หรือเหมือนกับที่ให้สัมภาษณ์ว่าเขาอยากให้นักเตะไทยออกไปท้าทายตัวเองในการแข่งขันระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

เขากลับเลือกตอบว่าจริงๆ แล้วการพัฒนานักเตะเยาวชนไทยเป็นเรื่องของทุกคน ไม่สามารถทำอะไรให้สำเร็จได้เพียงคนเดียว เหมือนกับจะบอกว่าเราไม่ควรให้นักเตะไทยมีความมุ่งมั่นเพียงอย่างเดียว แต่เราทุกคนตั้งแต่เฮดโค้ชจนถึงสมาคมฯ ต้องช่วยกันทำงานทุกฝ่าย

ก่อนเขาจะบอกว่า ถ้าเพชรไม่ได้รับการเจียระไน มันจะแปล่งแสงออกมาได้อย่างไร

เปรียบเหมือนกับว่าต่อให้นักเตะมีความมั่นใจ ตั้งใจ แต่หากไม่ได้รับการสนับสนุนและการช่วยเหลือจากสมาคมฯ และหน่วยงานต่างๆ จะเติบโตขึ้นมาเป็นนักเตะที่มีศักยภาพได้อย่างไร

ขณะที่เรื่องของความมั่นใจ นิชิโนะเองได้กล่าวอีกว่าเขามักจะย้ำกับนักเตะเสมอว่าคุณคือผู้ถูกเลือก

จากนักเตะไทยเป็นร้อยเป็นพันคน คุณคือคนที่ถูกเลือก ไม่ว่าจะเป็น 23 คนหรือกี่คนก็ตาม แต่คุณเป็นคนที่สำคัญต่อทีมนี้ ดังนั้นอยากให้เห็นถึงคุณค่าความสำคัญของตัวเองว่าตอนนี้เราคือตัวแทนของประเทศ เป็นสิ่งที่เน้นย้ำให้นักเตะเห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของตนเอง ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม

การย้ำเตือนตรงนี้ นอกจากจะเป็นการกระตุ้นนักกีฬาไปในตัว และทำให้เขามีความมุ่งมั่นตั้งใจและช่วยกันทำงานมากขึ้น

เป้าหมายของนิชิโนะ

เป้าหมายคือการวางรากฐานการพัฒนาฟุตบอลไทยไปสู่อนาคตตอนนี้ หลังจากตกรอบโอลิมปิกปีนี้ นิชิโนะก็ได้วางแผนแล้วว่าเขาอยากจะให้ไทยตั้งเป้าไปสู่ฟุตบอลโลกปี 2026

ซึ่งการตั้งเป้าหมายของนิชิโนะมักจะไปสู่จุดสูงสุด เหมือนกับนักแข่งในหนัง Ford v Ferrari ครับ เขาตั้งเป้าหมายให้เอาชนะที่สุดของวงการให้ได้ แล้วเขาก็พาทีมชาติไทยออกไปทดสอบศักยภาพที่มีทั้งหมด ให้เห็นว่ามีจุดที่ต้องพัฒนาและแก้ไขอย่างไรบ้างเพื่อให้ไทยสามารถก้าวขึ้นไปแข่งขันระดับสูงสุดให้ได้

มุมสนุกสนานของโค้ช

ระหว่างการเตรียมทีมซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนจะลงสนามซ้อม นิชิโนะได้แซว สิทธิโชค ภาโส กองหน้าทีมชาติไทย U23 หลังไปทำสีผมมาใหม่ว่า

“เส้นผมของคุณสีเขียวเข้มขึ้นหรือเปล่า”

“สีเขียวเข้มมากเวลาแดดส่องนะ”

“หัวเขียวมากก็ดีนะ แต่ฝีเท้าจะต้องเท่าสีผมด้วย”

สามารถฟังพอดแคสต์ The Secret Sauce
ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่คุณสะดวกหรือใช้อยู่แล้วได้เลย