×

ปรับไลฟ์สไตล์ก่อนลงทุน สำคัญอย่างไร Feat. กวี ชูกิจเกษม

21.02.2021
  • LOADING...

“การใช้ชีวิตของคุณจะนำไปสู่ ‘อิสรภาพทางการเงิน’ ได้มากกว่าการลงทุน”  


โค้ชหนุ่ม และโอมศิริ คุยกับ กวี ชูกิจเกษม นักวิเคราะห์หุ้นและนักลงทุนสาย VI ว่าด้วยเรื่องอิสรภาพทางการเงินแบบเรียลๆ เข้มๆ รวมถึงประเด็นสำคัญอย่างไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตที่ควรฉุกคิดและปรับเปลี่ยนก่อนลงทุน เพื่อความสำเร็จทั้งเรื่องการลงทุนและชีวิต  

 


 

หาความรู้เพิ่มเติมหรือหาโซลูชันที่ตอบโจทย์การลงทุน เหมาะกับผู้ที่อยากเตรียมพร้อมก่อนเริ่มลงมือ เข้าไปอ่านข้อมูลดีๆ ได้ที่ www.setinvestnow.com ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

 

อยากเปิดบัญชีลงทุน ไปที่เมนูเปิดบัญชี คลิกต่อไปยังโบรกเกอร์ที่พร้อมให้บริการได้ง่ายๆ เลยที่ www.setinvestnow.com/openacc

 


 

อิสรภาพทางการเงินไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีเท่าไร แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้เท่าไร 

 

การเงินการลงทุนเป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน

ทุกวันนี้เราคงเห็นกันอยู่แล้วว่าเรื่องการเงินการลงทุนมันใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ เด็กรุ่นใหม่มีความเข้าใจเรื่องการเงินการลงทุนมากขึ้นเพราะมันอยู่บนมือถือ ต่างจากสมัยก่อนที่เราจัดการเรื่องพวกนี้ได้ค่อนข้างยาก แม้ว่าในสมัยนี้คนเริ่มพูดคุยกันเรื่องการเงินการลงทุนมากขึ้น แต่สังเกตได้ว่าจะมีความโลภเข้าไปเกี่ยวข้อง หลายคนอยากรวยเร็ว อยากมีอิสรภาพทางการเงินเร็ว ทุกครั้งที่ผมได้ยินคนมาปรึกษาเรื่องนี้ ผมก็จะบอกว่าถ้าอยากมีอิสรภาพทางการเงิน ก็สามารถมีได้ตั้งแต่วันนี้เลย เริ่มต้นจากการสำรวจตัวเองก่อน เพราะการมีอิสรภาพทางการเงินไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีเท่าไร แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้เท่าไร สิ่งที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน แค่ลดลงไปบางส่วนที่ไม่จำเป็น ก็สามารถช่วยให้เรามีอิสรภาพทางการเงินได้เร็วขึ้นแล้ว แต่ที่คนส่วนใหญ่ไม่คิดแบบนี้เพราะคนเรามักจะไม่เริ่มต้นจากจุดที่ง่ายๆ แต่ดันไปเริ่มต้นจากการคุยกันว่าจะสร้างรายได้อย่างไร ซึ่งในความเป็นจริง คนเราเมื่อมีรายได้มากขึ้นก็มักจะเอาไปใช้จ่ายมากขึ้นอยู่ดี ทางที่ดีหยุดใช้ก่อนดีไหม เพราะบางครั้งเราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังสร้างค่าใช้จ่ายที่เป็นภาระในอนาคต ผมอยากแนะนำให้มีการคุยเรื่องการเงินการลงทุนในชีวิตประจำวันที่ไม่ใช่ความโลภ อย่าลืมว่าในโลกนี้บางคนมีหมื่นล้านก็ยังไม่มีอิสรภาพทางการเงิน เพราะเขาไม่หยุด หรือค่าใช้จ่ายมันมากจนเขาหยุดไม่ได้ มันไม่มีทางลัดสำหรับเรื่องการเงินการลงทุน คนที่มีทางลัดแล้วเอามาเขียนหนังสือก็เปรียบเสมือนคนที่ถูกหวยแล้วเอามาเขียนหนังสือ ซึ่งมีแค่บางคนเท่านั้นที่จะเป็นแบบนั้นได้ ผมจึงอยากชวนทุกคนมาพูดคุยกันในเชิงของความจริงและความเป็นไปได้ที่เราจะสามารถสร้างอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง

 

คนเราเมื่อมีรายได้มากขึ้นก็มักจะเอาไปใช้จ่ายมากขึ้นอยู่ดี ทางที่ดีหยุดใช้ก่อนดีไหม เพราะบางครั้งเราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังสร้างค่าใช้จ่ายที่เป็นภาระในอนาคต 

 

ทุกวันนี้มีอิสรภาพทางการเงินแล้ว แต่ทำไมยังทำงานอยู่ 

การทำงานสำหรับเรามันเป็นความสนุกและทำให้เรามีความสุข เพราะการมีอิสรภาพทางการเงินไม่ได้แปลว่าเราต้องเลิกทำงาน เพียงแต่มันทำให้เราทำงานแบบสบายใจและสนุกมากขึ้น ผมเคยลองหยุดงานโดยไม่ทำอะไรเลยเดือนหนึ่งเต็มๆ แล้วพบว่ามันไม่โอเค เรามีความสุขกับการได้ไปทำงานมากกว่า ที่สำคัญคนที่มีอิสรภาพทางการเงินมักจะประสบความสำเร็จในการทำงาน และกล้าทำงานที่เสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ ลองสังเกตซีอีโอก็ได้ คนที่จะมาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้จะต้องมีอิสรภาพทางการเงินก่อน เพราะคนเรายิ่งแก่ลง อำนาจและความสามารถในการตัดสินใจยิ่งน้อยลง พูดง่ายๆ คือความกล้าจะน้อยลง ดังนั้นการมีอิสรภาพทางการเงินจะช่วยให้เขากล้าตัดสินใจมากขึ้น เพราะผลกระทบต่อรากฐานของเขามันไม่ได้เยอะ แม้จะตัดสินใจพลาดแล้วล้ม เขาก็ยังมีอิสรภาพทางการเงินและสามารถไปทำอะไรต่อได้

 

ดังนั้นคนที่มีอิสรภาพทางการเงินจะเป็นคนกล้าตัดสินใจและมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่า และการมีอิสรภาพทางการเงินควรมีก่อนอายุ 60 ปี เพราะไม่อย่างนั้นก็ยากที่จะมีได้ เพราะมันต้องอาศัยการสร้างและสะสม แนะนำให้มองในจุดที่เราเป็นไปได้ก่อน อย่าเพิ่งตั้งเป้าหมายเป็นตัวเลขที่สูงเกินไป แล้วเราจะเครียดน้อยลง 

 

คนที่มีอิสรภาพทางการเงินจะเป็นคนกล้าตัดสินใจและมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่า

 

การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของกวี

สมัยที่ผมเริ่มทำงานใหม่ๆ ผมใช้เงินอย่างเห็นคุณค่าจริงๆ อะไรที่ไม่ได้จำเป็นมากผมจะไม่ใช้เลย ผมเชื่อว่าทุกคนมีลิมิตของการประหยัด อย่างโทรศัพท์มือถือถ้าไม่พังจริงๆ ผมก็จะไม่เปลี่ยน เพราะการที่เรามีเงิน เราสามารถเลือกได้ว่าจะเอาไปซื้อสินทรัพย์ไร้สาระหรือสินทรัพย์จำเป็น การประหยัดไม่ได้ทำให้มีอิสรภาพทางการเงิน แต่การประหยัดทำให้เรามีอิสรภาพทางการเงินได้เร็วขึ้น นอกจากนี้สินทรัพย์บางอย่าง เช่น นาฬิกา พระเครื่อง ไวน์ เป็นต้น ถึงมันจะไม่มีเงินปันผลหรือมีมูลค่าด้วยตัวมันเอง แต่ถ้าเรารู้จริงในสิ่งนั้น เราจะสามารถทำเงินกับมันได้ ส่วนสินทรัพย์ที่มีมูลค่าด้วยตัวมันเองอย่าง หุ้น ตราสารหนี้ กองทุน แนะนำให้ใช้วิธีเก็บสะสมไปเรื่อยๆ อย่าไปซีเรียสว่าลงทุนไปแล้วต้องโตทันที เพราะกว่ามันจะโตต้องใช้เวลา มันเป็นการสะสมประสบการณ์จากเงินของเราเองที่นำไปลงทุน ที่สำคัญผมจะใช้เงินที่ได้จากดอกเบี้ยหรือเงินปันผลเท่านั้น เป็นการเน้นการนำรายได้ที่เป็น Passive Income มาใช้ ไม่ใช่รายได้ที่ได้จากการทำงาน

 

ในยุคนี้ไม่ว่าเราจะใฝ่ฝันในเรื่องอะไรหรือเก่งในเรื่องไหน ให้เราโฟกัสและเรียนรู้กับมันจริงๆ และถึงแม้เราจะไม่เก่งอะไรเลย ก็ยังสามารถฝากกองทุนแล้วจัดพอร์ตให้มันนิ่งได้ ในชีวิตประจำวันเราควรพูดคุยกันเรื่องการเงินการลงทุน และสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันได้ โดยมีพื้นฐานความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องเงินที่ถูกต้อง เรื่องเงินไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย คนเรามีพื้นฐานชีวิตมาไม่เท่ากัน ดังนั้นเปลี่ยนชีวิตให้เป็นไปตามที่ต้องเป็นก่อน แล้วค่อยศึกษาเพิ่มเติมแบบค่อยเป็นค่อยไป ความใฝ่ฝันของผมคือการได้เห็นคนไทยมีอิสรภาพทางการเงินจริงๆ สักครึ่งหนึ่งของประเทศก็ยังดี

 

การที่เรามีเงิน เราสามารถเลือกได้ว่าจะเอาไปซื้อสินทรัพย์ไร้สาระหรือสินทรัพย์จำเป็น การประหยัดไม่ได้ทำให้มีอิสรภาพทางการเงิน แต่การประหยัดทำให้เรามีอิสรภาพทางการเงินได้เร็วขึ้น 

 

การบริหารเงินในสไตล์กวีโมเดล 

โดยธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ เมื่อเรามีรายได้มากขึ้น ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นตามไลฟ์สไตล์ของเรา และบางคนอาจจะใช้จ่ายเกินฐานะไปด้วยซ้ำ รายได้ที่เพิ่มขึ้นในลักษณะนี้กลับไปสร้างหนี้ให้เพิ่มขึ้นด้วย ผมจึงอยากแนะนำว่าให้ทุกคนพยายามคงไลฟ์สไตล์เดิมของตัวเองไว้ แล้วเอารายได้ที่เพิ่มขึ้นไปลงทุน เพราะเงินก้อนนี้จะทำงานให้เราตอนเราหลับ แล้วคนที่บอกว่าไม่มีเวลาไปศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการเงินการลงทุน คุณต้องกลับมาคิดก่อนว่าเอาเวลาไปทำอะไรหมด เพราะคนที่ประสบความสำเร็จและมีงานหลายอย่างก็ยังมีเวลาศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา เราต้องใช้เวลาให้คุ้มค่า เช่น ในเวลาขับรถก็สามารถเปิดฟังอะไรที่มีสาระได้ มันอยู่ที่คุณจะจัดการกับชีวิตอย่างไรมากกว่า คนจะประสบความสำเร็จหรือไม่ตัดกันที่เรื่องความรู้ เพราะโลกนี้ไม่มีความยุติธรรม คนที่ใช้เวลาเรียนรู้และลงทุนลงแรง คนที่มีวินัยและขยันมากกว่าเขาก็ควรได้รับความสำเร็จที่มากกว่า แท้จริงแล้วความเรียบง่ายในชีวิตและความเข้าใจตัวเองจะช่วยส่งเสริมการมีอิสรภาพทางการเงิน บางคนมัวแต่มองหางานที่รัก แต่ลืมว่าตัวเองรักอะไร ถ้าเราเข้าใจในสิ่งที่เรารักจริงๆ เราจะหารายได้จากสิ่งนั้นได้

 

พยายามคงไลฟ์สไตล์เดิมของตัวเองไว้ แล้วเอารายได้ที่เพิ่มขึ้นไปลงทุน เพราะเงินก้อนนี้จะทำงานให้เราตอนเราหลับ 

 


สามารถฟังพอดแคสต์ The Money Growth by The Money Coach
ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่คุณสะดวกหรือใช้อยู่แล้วได้เลย

 


 

Credits

 

Show Creators จักรพงษ์ เมษพันธุ์, ภูมิชาย บุญสินสุข, นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ Show Producer เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์
Project Manager ณปภัช ฤทธิอัครกุล

Episode Producer โอมศิริ วีระกุล

Sound Editor เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์
Video Editor เสาวภา โตสวาท

Sound Designer & Engineer กฤตพล จียะเกียรติ

Recording Engineer ขจีพรรณ วิจิตรรัตน์
Videographer ศศิพิมพ์ อนันตกรณีวัฒน์
Graphic Designer นิสากร ฤทธาภัย
Show note หนึ่งฤดี ธนสารวิสุทธิ์
Proofreader ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
Webmaster ณฐพร  โรจน์อนุสรณ์
Channel Admin เอกราช มอเซอร์

Social Media Admin สุทธกิตติ์​ สุทธาวรรณกุล, ธิติกร ลิ้มทองมณี, วนัชพร ดวงนิล 
Archive Officer ชริน จำปาวัน

  • LOADING...

READ MORE

MOST POPULAR



Close Advertising
X