ตัง-สารัช อยู่เย็น นักฟุตบอลทีมชาติไทย วัย 26 ปี ที่ติดทีมชาติชุดเยาวชนมาตั้งแต่เด็ก หลายคนอาจจะคุ้นหน้าค่าตาเขาจากบทบาทพระเอกมิวสิกวิดีโอ เชือกวิเศษ ของวงลาบานูน แน่นอน เขาเป็นนักฟุตบอลที่หน้าตาดี แต่ผลงานในสนามก็ดีไม่แพ้กัน เขาเป็นส่วนหนึ่งที่เคยพาทีมชาติทำผลงานได้ดีมาแล้วในหลายรายการ และปัจจุบันยังเป็นกำลังสำคัญให้กับสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
การเป็นนักฟุตบอลอาชีพของสารัชเริ่มตั้งแต่เมื่อไร เส้นทางนี้ต้องพิสูจน์ตัวเองแค่ไหน และเขาผ่านช่วงบาดเจ็บครั้งใหญ่ก่อนกลับคืนสู่สนามได้อย่างไร
กดปุ่ม Play ด้านบนเพื่อฟังพอดแคสต์ Random Wisdom ซีรีส์พิเศษ Soccer Wisdom แต่ถ้าถนัดอ่านก็ไล่สายตาเพื่อเสพบทความด้านล่างได้เลย
เริ่มเตะฟุตบอลตั้งแต่ตอนไหน
เริ่มแรกดูจากคุณพ่อก่อน เพราะว่าคุณพ่อเป็นคนที่ชอบเล่นฟุตบอลอยู่แล้ว เราก็ติดตามเขาไปเรื่อยๆ ไปตามสนามที่เขาแข่ง เรารู้สึกว่ามันน่าจะสนุก หลังจากนั้นเราก็เริ่มเล่นมาตั้งแต่ 7 ขวบ
เมื่อไรที่รู้สึกว่าจะเล่นฟุตบอลเป็นอาชีพ
เริ่มจากเล่นฟุตบอลโรงเรียนมาก่อน พอช่วง ม.ปลาย เรามาอยู่โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ตอนนั้นฟุตบอลอาชีพกำลังบูมในประเทศไทย ฟุตบอลโรงเรียนจะแข่งขันกันมากเพื่อที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
นัดแรกของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพและนัดแรกในนามทีมชาติไทย
ผมจำความรู้สึกนั้นได้ ตื่นเต้นมาก เพราะผมเล่นแต่ฟุตบอลโรงเรียน พอมาเล่นฟุตบอลอาชีพ บรรยากาศจะแตกต่างกัน คนดูค่อนข้างเยอะ ส่วนนัดแรกในทีมชาติไทยไม่ตื่นเต้นเท่า เพราะเราปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมหรือคนที่เข้ามาดูได้หมดแล้ว แต่เป็นความกดดันมากกว่า เพราะทุกคนจับจ้องมาที่เรา เราคือตัวแทนของประเทศ เราต้องทำหน้าที่ตรงนี้ให้สมบูรณ์แบบที่สุด
แมตช์ในความทรงจำ
นัดชิง ซูซูกิ คัพ ที่เราไปเยือนมาเลเซีย คือเราไม่ได้แชมป์มา 12 ปีแล้ว ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ก็มีคนที่ดูถูกและสบประมาทเราค่อนข้างเยอะว่าจะไม่ได้แชมป์อีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายสถานการณ์ก็เกือบจะเป็นแบบนั้น แต่พอทุกคนรวมใจกลับมาอีกครั้ง เราก็คว้าแชมป์ในรอบ 12 ปีได้
มีคนวิจารณ์เราเยอะ เราก็ต้องซ้อมให้มากขึ้น ทำงานในแต่ละวันให้หนักขึ้น และสุดท้ายผลงานในสนามจะตอบทุกคำวิจารณ์เอง
เสน่ห์ของฟุตบอล
ผมมองว่าเป็นการใช้สมอง พละกำลัง และร่างกายของแต่ละคน สมัยนี้ฟุตบอลเป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง เพราะว่าฟุตบอลมีระบบเข้ามาแทรกด้วย สังเกตว่าจะพัฒนาไปเรื่อยๆ จะไม่ตายตัว คือฟุตบอลโลกปีนี้ เราดูอย่างทีมสเปนเล่นบอลเท้าสู่เท้า ก็เริ่มพัฒนามาในแต่ละปี
ฝึกซ้อมหนักแค่ไหน
ถ้าเป็นช่วงก่อนเปิดซีซันจะเป็นช่วงที่หนัก จะใส่เรื่องพละกำลังหรือฟิตเนสค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าเป็นช่วงระหว่างซีซันจะไม่หนักมาก เพราะมีโปรแกรมแข่งตลอดทั้งปี ทีมงานจะเป็นคนออกแบบให้เราทั้งหมด
คิดจะไปเล่นลีกต่างประเทศบ้างไหม
ก่อนหน้านี้เราก็คิด ตอนที่เรายังไม่เจ็บ ช่วงนั้นฟอร์มการเล่นของเราค่อนข้างดี แต่พอเราเจ็บ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เหมือนเดิม คงต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปี
ตอนนั้นบาดเจ็บหนักแค่ไหน
ขาหักครับ เอ็นรอบข้อเท้าฉีกหมดเลย ทุกวันนี้ยังมีเหล็ก มีน็อตอยู่ที่ขา เป็นช่วงเวลา 3 เดือนที่เราอยู่เฉยๆ มีช่วงหนึ่งที่คิดว่าทำไมเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นกับตัวเรา พอได้เริ่มกายภาพ ได้เริ่มออกกำลังกาย มีคนรอบข้างให้กำลังใจ เพื่อนร่วมทีม ครอบครัว แฟนบอลส่งกำลังใจให้เราตลอด มันก็ทำให้สภาพจิตใจเราดีขึ้น แล้วกลับมา
ถ้าไม่ใช่ฟุตบอล มีความชอบอย่างอื่นบ้างไหม
มีฟุตบอลอย่างเดียวเลยครับ เพราะผูกพันกับมันมาตลอด ถ้าไม่เล่นฟุตบอลก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรเหมือนกัน
มองย้อนกลับไปในวันแรกที่เล่นฟุตบอลใหม่ๆ กับวันนี้ ตัวตนของคุณเปลี่ยนไปไหม
เปลี่ยนเยอะครับ เพราะสมัยก่อนผมชอบอยู่คนเดียว ไม่ชอบอยู่กับคนเยอะ แต่ทุกอย่างก็อยู่ที่การปรับตัว ซึ่งทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ค่อยชิน (หัวเราะ)
มีช่วงที่เหลิงหรือคิดว่าตัวเองเก่งบ้างไหม
มีครับ เพราะเราติดทีมชาติมาตั้งแต่เด็ก มีช่วงหนึ่งตอนอายุ 17 ปี ที่คิดว่าเราเหลิง คิดว่าตนเองเก่ง ออกนอกกรอบ ออกจากกฎระเบียบทุกอย่างที่โรงเรียนตั้งไว้ มาคิดได้ตอนอายุ 19 ปี เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างเป็นนักฟุตบอลโรงเรียนกับนักฟุตบอลอาชีพ ต้องเลือกระหว่างฟุตบอลกับเรียนมหาวิทยาลัยด้วย เราก็คิดได้ตรงนั้นแล้วกลับมาเต็มที่กับฟุตบอล
ฟุตบอลสอนอะไร
ระเบียบวินัยในตนเองและในการใช้ชีวิต การเป็นคนตรงต่อเวลา พอมาเล่นฟุตบอลอาชีพ เราจะสายแม้แต่นาทีเดียวไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกปรับเงินที่ค่อนข้างเยอะ คือทุกอย่างต้องตรงเป๊ะหมดตามกฎระเบียบที่ตั้งไว้ ฟุตบอลสอนเราหลายเรื่องทั้งในและนอกสนาม
จะเล่นฟุตบอลไปอีกนานแค่ไน
อยากเล่นไปอีก 6-7 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายด้วย ทุกวันนี้ก็พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด หลังจากนั้นก็จะทำงานอยู่ในวงการฟุตบอลต่อไป
เพราะฟุตบอลเป็นสิ่งที่ผมถนัดและรักที่สุดในชีวิต
Credits
Intro Voice-over เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์
Show Creator ภูมิชาย บุญสินสุข
Episode Producers อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค, เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์
Episode Editor เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์
Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ
Art Director อนงค์นาฏ วิวัฒนานนท์
Photographer กษิดิ์เดช ทัยธิษา
Proofreader ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
Webmaster จินตนา ประชุมพันธ์
Music Westonemusic.com