วันนี้ (26 มีนาคม) ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อสั่งการ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณคณะรัฐมนตรีที่เข้าร่วมชี้แจงพร้อมตอบคำถามการขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งปิดการประชุมไปด้วยดีเมื่อวานนี้
โดยนายกฯ ยังได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการเดินทางของประชาชนที่จะเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะมีประชาชนใช้เส้นทางคมนาคมและการบริการขนส่งเป็นจำนวนมาก โดยขอให้อำนวยความสะดวก จัดเตรียมจำนวนรถโดยสารให้เพียงพอ ไม่ให้เกิดความแออัด รวมถึงดูแลเส้นทางคมนาคมไม่ให้เกิดการจราจรติดขัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณถนนพระราม 2 ให้เร่งดำเนินการแก้ไข
พร้อมทั้งขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดเทศกาล ‘เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์’ ในหลายจังหวัด และประสานงาน บูรณาการการทำงานกับกระทรวงมหาดไทย หน่วยงานความมั่นคง ตำรวจ ทหาร ในเรื่องการเดินทางและความปลอดภัยของประชาชน เพื่อให้เป็นเทศกาลแห่งความสุขและความอบอุ่นของพี่น้องประชาชน โดยนายกฯ จะไปตรวจสอบความพร้อมในจุดสำคัญๆ ต่างๆ ด้วยตัวเองในช่วงต้นเดือนเมษายน
ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด
ด้าน คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ครม. มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด พ.ศ. 2549 โดยกำหนดให้เด็กที่ใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหรือสารสกัดจากพืชกระท่อม กัญชา กัญชง เพื่อนันทนาการ เป็นพฤติกรรมของเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา กัญชง ในลักษณะสารเสพติด ซึ่งจะกระทบต่อพัฒนาการทางด้านสติปัญญาและการเจริญเติบโตของร่างกาย
ครม. อนุมัติงบปี 2568 จ้างภารโรงเข้าเวร หวังครูโฟกัสการสอนเต็มที่
ขณะเดียวกันโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติงบประมาณวงเงิน 2,739.96 ล้านบาทตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ เพื่อจ้างภารโรงเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณปี 2568 ในการจ้างภารโรงเป็นเวลา 3 ปี คือ ปี 2568-2570 แต่ ครม. อนุมัติเฉพาะปี 2568 ก่อน ส่วนปี 2569 และ 2570 ครม. มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการไปหาวิธีการทางเทคโนโลยีทดแทนเพื่อลดการจ้างภารโรงและเพื่อประหยัดงบประมาณ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระครูที่ไม่ได้มีทำหน้าที่เฉพาะการอยู่เวรยาม แต่ต้องทำหน้าที่ดูแลโรงเรียนในส่วนอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ครูจะได้โฟกัสกับการทำหน้าที่สอนเท่านั้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า การเสนอของบประมาณดังกล่าวของกระทรวงศึกษาธิการการสืบเนื่องจากกรณีครูสาวถูกบุกทำร้ายในโรงเรียนขณะอยู่เวร ทำให้เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ครม. มีมติยกเลิกครูเวร