วันนี้ (11 ธันวาคม) กรมควบคุมมลพิษรายงานผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรุงเทพมหานคร ตรวจวัดค่าได้ระหว่าง 33-85 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ซึ่งปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน โดยพบพื้นที่ที่ปริมาณฝุ่นละอองเริ่มมีผลต่อสุขภาพจำนวน 42 พื้นที่
โดยแบ่งเป็น 10 อันดับพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นสูงที่สุดดังนี้
- ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร (85)
- ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ (76)
- ตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ (74)
- ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน (70)
- ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน (69)
- ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร (68)
- แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ, แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่, ริมถนนพระรามที่ 2 เขตบางขุนเทียน, ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ และริมถนนพระรามที่ 3-เจริญกรุง เขตบางคอแหลม (67)
- ริมถนนพระรามที่ 4 หน้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน (66)
- ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน (63)
- ริมถนนตรีมิตร วงเวียนโอเดียน เขตสัมพันธวงศ์ (62)
ขณะเดียวกันการรายงานค่าฝุ่นจาก AirVisual ยังระบุว่าช่วงเวลา 10.43 น. เขตกรุงเทพฯ ของประเทศไทยตรวจพบค่าฝุ่นได้ที่ 151 US AQI อยู่ในเกณฑ์เริ่มส่งผลกระทบต่อร่างกาย และเป็นประเทศที่มีค่าฝุ่นสะสมอยู่ในอันดับที่ 21 ของโลก ณ ช่วงเวลาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมมลพิษระบุเพิ่มเติมว่าประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด โดยกรมควบคุมมลพิษยังคงรายงานสถานการณ์และแจ้งประสานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุม กำกับ ดูแล ในภารกิจตามมาตรการ ‘ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ’ อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองให้กลับสู่สถานการณ์ปกติ
ทั้งนี้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ได้ทาง www.air4thai.com/webV2 แอปพลิเคชัน Air4Thai และ bangkokairquality.com/bma/index.php
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์