วันนี้ (16 มิถุนายน) แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่วมกันยื่นญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 รวม 5 ฉบับ ต่อ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในฐานะประธานรัฐสภา โดยประเด็นสำคัญในการยื่นญัตติครั้งนี้คือการแก้ไขมาตรา 272 เพื่อยกเลิกอำนาจสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในการเลือกนายกรัฐมนตรี หรือ ‘ปิดสวิตช์ ส.ว.’ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีการลงชื่อจากพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างครบถ้วนทุกพรรค
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เหตุผลที่พรรคก้าวไกลร่วมลงชื่อเฉพาะมาตรา 272 เพราะเห็นว่าเป็นต้นตอของความบิดเบี้ยวทั้งหมดในระบบการเมือง ซึ่งไม่อยากให้มีความสับสนในการสื่อสาร จึงขอมุ่งไปที่เป้าหมายสำคัญที่สุด คือการเอา ส.ว. ออกจากระบบการเมือง สำหรับคำถามต่อกรณีที่ไม่ร่วมลงชื่อสนับสนุนญัตติการแก้ไขระบบเลือกตั้งกับพรรคเพื่อไทยนั้น ถือเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในระบบประชาธิปไตย เรายังเห็นร่วมกันในระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่ระบบบัตร 2 ใบมีหลายแบบ ตรงนี้จึงต้องพูดคุยถกเถียงกันต่อ เพราะแต่ละพรรคการเมืองมีวิธีคิดที่อาจต่างกันได้ และเราก็ได้พูดกันอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่การโจมตีซึ่งกันและกัน หรือพูดในห้องประชุมอย่างหนึ่ง นอกห้องประชุมอย่างหนึ่ง เราคุยกันมาก่อนแล้วในห้องประชุมเพียงแต่ยังไม่ได้ตกผลึก ในสภาก็ต้องคุยกันต่อเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระยะยาว ไม่ใช่ว่าจะจบได้ใน 1-2 วัน แต่ยืนยันว่าเราพูดกันฉันมิตร
“สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือเราเน้นที่ ร่าง พ.ร.บ. ประชามติ ที่ค้างอยู่ในสภา เมื่อมีประชามติออกมาแล้วก็จะตั้ง สสร. ได้ ซึ่งเชื่อว่าจะได้เห็นความก้าวหน้าในการแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องระบบเลือกตั้งจึงยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งสำคัญมากกว่าคือการมี ส.ว. 250 คนอยู่ เพราะไม่ว่าแก้ระบบเลือกตั้งเป็นแบบไหน แต่หาก ส.ว. ยังอยู่ ผลลัพธ์ไม่แตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่ต้องการเห็นและมีการลงมติร่วมกันคือการแก้ไขมาตรา 272 ” พิธากล่าว
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
