พิมรี่พาย หรือ พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ ยูทูเบอร์เจ้าของช่อง ‘พิมรี่พาย’ กำลังกลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง หลังจากโพสต์คลิปของขวัญวันเด็กที่เธอเดินทางนำโซลาร์เซลล์ โทรทัศน์ เครื่องอุปโภคบริโภคไปติดตั้งและบริจาคให้กับเด็กๆ ในหมู่บ้านแม่เกิบ อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นความน่าประทับใจหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงวันเด็กแห่งชาตินี้
แฮชแท็ก #พิมรี่พาย ค่อยๆ ไต่ขึ้นอันดับสูงบนทวิตเตอร์ตั้งแต่เมื่อคืนวาน (8 มกราคม) มาจนถึงเช้าวันนี้ จากวิดีโอที่ชื่อว่า ‘สุขสันต์วันเด็ก พิมรี่พายจัดใหญ่ให้น้องบนดอยสูง’ ที่ปัจจุบันมีผู้ชมกว่า 1 ล้านครั้งภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และติดอันดับ 1 Trending บน YouTube เล่าเรื่องราวที่เธอเดินทางไปยังหมู่บ้านแม่เกิบเพื่อเข้าไปนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่าย ก่อนจะพบว่าปัญหาของหมู่บ้านแห่งนี้คือการไม่มีไฟฟ้าใช้ และปัญหาการถางที่เพื่อทำไร่เลื่อนลอย พร้อมด้วยเด็กๆ อีกจำนวนมากที่ไม่ได้รับการศึกษาและมีคุณภาพชีวิตที่ดีพอ
มีหลายๆ เรื่องราวในคลิปนี้ที่อาจทำให้ผู้ชมรู้สึกสะดุดใจ และมีความรู้สึกร่วมไปได้ไม่ยาก จากการที่พิมรี่พายนั่งคุยกับกล้องขณะผิงไฟ เธอรู้สึกว่าน้องๆ ที่หมู่บ้านแห่งนี้เหมือนมีชีวิตอยู่ไปวันๆ ใช้คำนิยามว่าเป็น ‘มนุษย์ถ้ำ’ ที่ไม่มีแม้แต่ไฟฟ้าอันเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ทุกคนควรเข้าถึง และสิ่งที่น่าจะจี้จุดผู้ชมได้มากที่สุดคือ ชีวิตที่ไร้ซึ่งความฝันของเด็กๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็นอนาคตของชาติ และจากคำกล่าวของ ครูเจตน์ สนธิคุณ ครูประจำหมู่บ้าน กล่าวว่าเด็กๆ ในหมู่บ้านแม่เกิบนี้ยังไม่มีใครได้เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นสักคน เพราะพวกเขาไม่เคยได้เห็นภาพอนาคตของตัวเองว่าจะสามารถไปทำอะไรต่อได้ หรือมีชีวิตอย่างไร?
นั่นคือสิ่งที่พิมรี่พายดูจะค่อนข้างกังวล และให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการนำเสนอเรื่องราวในคลิปนี้ทั้งหมด มันไม่ใช่แค่การเข้าไปเยี่ยมเยือน บริจาคของ และเดินกลับออกมา แต่นี่คือการหยิบยื่นความฝันให้เด็กๆ ได้รู้จัก เมื่อพิมรี่พายตัดสินใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าให้กับหมู่บ้าน สร้างเรือนเพาะชำให้น้องๆ ในหมู่บ้านได้รู้จักการปลูกผัก เผื่อในอนาคตจะสามารถสร้างงานสร้างอาชีพได้ รวมถึงโทรทัศน์ที่เป็นเหมือนตัวแทนให้น้องๆ ได้รู้จักโลกภายนอกให้มากขึ้น
ลองมองย้อนไปก่อนหน้านี้ในภูมิทัศน์ของวงการบันเทิงไทย ที่นักแสดงชายท่านหนึ่งได้ออกมาแจ้งว่า ต้องการนำเสื้อนักเรียนไปบริจาคให้เด็กบนดอย หากว่าเด็กนักเรียนบางกลุ่มมองว่าเครื่องแบบนักเรียนไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไป ในกรณีนี้ของพิมรี่พายอาจทำให้เห็นภาพของสังคมปัจจุบันชัดเจนขึ้นว่า สิ่งที่เด็กๆ ต้องการนั้นไม่ใช่เครื่องแบบที่จะทำให้เขากลายสถานะเป็น ‘นักเรียน’ หรือ ‘เยาวชน’ แบบคนอื่นๆ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างแท้จริงคือการดูแลขั้นพื้นฐานจากรัฐ ความรู้ความเข้าใจในการใช้ชีวิต และความฝันในการเลือกมีชีวิตต่อไปต่างหากที่สำคัญกว่า
หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ความคิดเห็นของผู้ชมก็ค่อนข้างไปในทิศทางบวกเสียส่วนใหญ่จนแฮชแท็ก #พิมรี่พาย ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ ซึ่งมองเห็นตรงกันว่า นี่คือการถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลังของคนจำนวนหนึ่ง และคงไม่ได้มีเพียงแค่หมู่บ้านแม่เกิบนี้แน่นอนที่เด็กๆ ถูกทิ้งไว้อย่างคนไร้ฝัน ไม่มีอนาคต และไม่รู้ว่าจะเติบโตไปทำอะไร และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐควรให้ความสำคัญอย่างมากกว่าเรื่องไหนๆ นั่นคือคุณภาพชีวิตของประชากรในรอบรั้วเขตประเทศ ที่ไม่ใช่แค่ต้องมีไฟฟ้าใช้กันถ้วนหน้า แต่ต้องได้รับสิทธิพื้นฐานในการมีชีวิตอยู่ และเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม
ก่อนหน้านี้ พิมรี่พายเคยมีกรณีการค้าขายน้ำหอมโดยไม่มีเลขทะเบียนจดแจ้งราวเดือนสิงหาคม 2562 กลายเป็นข่าวใหญ่ในตอนนั้น และค่อยๆ จัดการและบริหารชีวิตของเธอเสียใหม่ ยังคงไลฟ์ขายของเหมือนเดิม รวมถึงสร้างคอนเทนต์ในฐานะยูทูเบอร์คนหนึ่ง และในพักหลังนี้เธอเริ่มสร้างคอนเทนต์คืนกำไรสู่สังคมจากพื้นฐานที่ว่า เม็ดเงินที่เธอได้มาจากการขายของหรือผู้ชม จะสามารถต่อยอดคืนเรื่องราวดีๆ เพื่อขยายไปสู่สังคมในวงกว้างได้ และดูเหมือนว่าเธอจะใช้เงินที่เธอมี และพลังของผู้ติดตามเธอกว่า 2.62 ล้านคนได้อย่างเป็นประโยชน์พอสมควร
สำหรับพิมรี่พาย คลิปนี้อาจไม่ใช่แค่คอนเทนต์วันเด็กแห่งชาติ แต่นี่คือภาพของ ‘เด็กแห่งชาติ’ ที่คนในประเทศชาติควรมองเห็น รับรู้ และเข้าใจ
ป.ล. อย่าพลาดฟังเพลง ‘อย่านะคะ’ ของ พิมรี่พาย เป็นอันขาด หากคุณอยากจะเริ่มต้นติดตามชมคอนเทนต์ของเธอ ไปติดตามเธอกันได้ที่
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์