ภูมิธรรมห่วงสถานการณ์ชายแดนใต้หลังก่อเหตุรายวัน สั่งฝ่ายความมั่นคงและมหาดไทยทำงานเชิงรุก สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน

วันนี้ (23 เมษายน) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ที่คนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิงรถกระบะ ขณะพระสงฆ์และสามเณร วัดกุหร่า อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ออกบิณฑบาต ส่งผลให้มีสามเณรมรณภาพ 1 รูป และบาดเจ็บ 1 รูปว่า ตนห่วงใยสถานการณ์ และเห็นลักษณะการทำงานที่ถูกโจมตีเป็นรายวัน ซึ่งในรอบ 4-5 วัน ที่ผ่านมาบางวันมีการก่อเหตุ 2-3 ครั้ง 

ภูมิธรรมกล่าวว่า ได้หารือกับ พล.อ. พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฝ่ายความมั่นคง และมหาดไทย อยากให้มีการปรับเปลี่ยนการทำงานเป็นรูปแบบเชิงรุก และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ไม่ใช่การตั้งรับเพียงอย่างเดียว ต้องมีความเปลี่ยนแปลง ต้องยุติสถานการณ์ต่างๆ ให้ได้ ซึ่งได้ให้ไปวางแผนว่าจะมีมาตรการเชิงรุกอย่างไร

ส่วนมีโอกาสจะนำการทหารมานำการเมืองหรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าจะให้ทำ แต่บอกว่าจะต้องสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่เผชิญเหตุการณ์ไม่สงบ ไม่ใช่ว่าไปยิงประชาชนหรือสามเณร เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น และได้สั่งการให้ต้องระงับสถานการณ์และใช้ยุทธการ ไม่ใช่นั่งรออยู่กับที่และให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาเอง ต้องระงับยับยั้งสถานการณ์ให้จบโดยเร็ว

‘ชูศักดิ์’ หวังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการป้องกันเพิ่ม

ด้าน ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องเสียใจ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น วานนี้สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้มีพระบัญชาส่งผ้าไตร และปัจจัยทั้งหลายทั้งปวงไปช่วยเหลือ คาดว่าวันนี้จะสามารถนำร่างไปประกอบพิธีศาสนาได้ 

ทั้งนี้ ตนเองได้สั่งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติลงพื้นที่ไปดูแลอย่างใกล้ชิด และไปร่วมพิธีทางศาสนา ขณะที่เจ้าคณะภาคที่ 18 ก็ได้ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่ในเรื่องนี้ ทั้งจังหวัดและองค์การบริหารส่วนตำบล ให้ดูแลอย่างใกล้ชิด โดยมาตรการในการดูแลจากนี้จะต้องมีความเข้มข้นมากขึ้น

ส่วนการออกบิณฑบาตของพระสงฆ์ในพื้นที่ภาคใต้จะต้องมีความเข้มงวดมากกว่านี้หรือไม่ ชูศักดิ์กล่าวว่า พระสงฆ์ในพื้นที่ก็มีประสบการณ์อยู่ และเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทั้งทหารและหน่วยงานราชการก็ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด จะมีวิธีการอย่างไรก็ต้องช่วยกันทำ