เกาะภูเก็ตกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากเมืองที่พึ่งพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหลัก กลายมาเป็นยักษ์ใหญ่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก
จากข้อมูลของ C9 Hotelworks บริษัทที่ปรึกษาด้านโรงแรมชั้นนำ ชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันภูเก็ตมีโครงการ Branded Residences หรือโครงการที่พักอาศัยภายใต้แบรนด์ดังมูลค่ารวมกว่า 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8.4 แสนล้านบาท ทำให้ภูเก็ตกลายเป็นตลาด Branded Residences ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ผลสำรวจของ C9 Hotelworks ชี้ให้เห็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตนี้ ได้แก่ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ที่ทำให้เกิดความต้องการที่พักอาศัยจากกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบนทั้งชาวไทยและต่างชาติ
รวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำงานและการใช้ชีวิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงานและอยู่อาศัย ซึ่งภูเก็ตตอบโจทย์ได้ดี ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาลไทยที่เอื้อต่อการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ เช่น การผ่อนปรนเงื่อนไขวีซ่า โครงการ Thailand Elite รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนโรงเรียนนานาชาติที่รองรับชุมชนต่างชาติบนเกาะ
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นเส้นแบ่งที่เริ่มจางลงระหว่างธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์บนเกาะภูเก็ต หลายแบรนด์โรงแรมหันมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ควบคู่กันไป เช่น บริษัท ลากูน่า ภูเก็ต ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของภูเก็ต ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากการเน้นการบริหารโรงแรม มาสู่การผสมผสานกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ดัง เช่นเดียวกับ บันยันทรี กรุ๊ป ที่ทุ่มทุนกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ พัฒนาโครงการ Branded Residences ระดับหรูในภูเก็ต
ยังมีแบรนด์ดังที่เข้ามาล่าสุดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต อย่าง เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเดนซ์ (The Standard Residences) ในพื้นที่หาดบางเทา ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางการเติบโตในปีที่ผ่านมา ‘แสนสิริ’ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากกรุงเทพฯ ก็ประกาศแผนการลงทุนในภูเก็ตเช่นกัน และการเปิดตัว การ์เดนส์ ออฟ อีเดน (Gardens of Eden) บนพื้นที่ติดทะเลกว่า 73 ไร่ โครงการอสังหาริมทรัพย์สีเขียวที่ได้รับทุนจากดูไบ
ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ Branded Residences ยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ ราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้นักพัฒนาต้องปรับกลยุทธ์มาเน้นโครงการแนวราบแทนโรงแรม ความต้องการที่พักระยะยาวจากชาวต่างชาติในสังคมสูงวัยที่หันมาเกษียณอายุในสถานที่พักผ่อนมากขึ้น และกระแสการย้ายถิ่นฐานข้ามประเทศที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยด้านการเมืองและเศรษฐกิจ
จากข้อมูลการสำรวจของ C9 Hotelworks บิลล์ บาร์เน็ตต์ กรรมการผู้บริหาร กล่าวทิ้งท้ายว่า ในอนาคตจะมีแบรนด์เข้ามาในตลาดภูเก็ตมากขึ้น ทั้งแบรนด์โรงแรม แบรนด์แฟชั่น แบรนด์รถยนต์ และร้านอาหาร เพื่อผสมผสานเข้ากับการพัฒนาที่พักอาศัยระดับลักชัวรี ซึ่งจะผลักดันให้ภูเก็ตทะยานขึ้นเป็นตลาดไฮเอนด์เทียบเท่ากับเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างไมอามีและดูไบ
ปรากฏการณ์ Branded Residences บนเกาะภูเก็ตนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าจับตามองของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการปรับตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายหลังวิกฤตโควิด ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพของภูเก็ต แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อตลาดไทยที่ยังคงน่าสนใจ โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหลัก ที่มีความได้เปรียบจากความพร้อมในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก คุณภาพชีวิต รวมถึงนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุนจากต่างประเทศ