×

PHOkitchen ห้องครัวขนาดเล็กน่ารัก ที่ทำอาหารจากผักสวนครัวแม่

27.01.2022
  • LOADING...
PHOkitchen

“เราเรียกที่นี่ว่า ห้องครัวเล็กๆ ที่ทำอาหารจากผักสวนครัวแม่”

 

PHOkitchen เป็นร้านอาหารขนาดเล็กน่ารักที่อยู่ในซอยลาดพร้าว 29 ของ กิ๊ก-กุลวดี โพธิ์อุบล และ มอส-พงศธร คุ้มปลี หนุ่มสาวที่มีเป้าหมายเป็นการทำร้านอาหารที่ทุกคนในครอบครัวมามีส่วนร่วม

 

กิ๊กเป็นเด็กที่เติบโตขึ้นมาในสวนผักที่เป็นงานอดิเรกของครอบครัว บ้านของกิ๊กอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ ทุกวันจะต้องได้เด็ดผักจากในสวนมาทำอาหารกันเอง กิ๊กชอบการทำอาหารมาตลอด แม้ว่าจะต้องไปเรียนไกลบ้านถึงเชียงใหม่ก็ยังทำอาหารเองและฝึกงานในร้านอาหาร ก่อนที่การเติบโตเป็นผู้ใหญ่จะทำให้กิ๊กห่างหายจากสิ่งเหล่านั้นไป

 

“ตอนนั้นกิ๊กทำงานประจำในกรุงเทพฯ แล้วเครียด ไม่มีแม้แต่เวลาที่จะทำอาหารกินเองเลย แล้วที่บ้านก็ถามกิ๊กว่า ช่วงนี้ยังได้ทำอาหารกินเองอยู่บ้างไหม”

 

คำถามของที่บ้านกิ๊กในวันนั้น กับเหตุการณ์ที่ญาติกิ๊กเสียไป ทำให้กิ๊กกลับมาคิดว่าที่ผ่านมาเราเครียดจนไม่ได้ทำอาหารกินเองเลย และความฝันที่จำทำร้านอาหารที่ให้ทุกคนในครอบครัวได้มีส่วนร่วม ได้มีกิจกรรมทำในตอนแก่ ก็ถูกผลัดออกไปด้วยเหตุผลต่างๆ กิ๊กจึงตัดสินใจลงมือทำอาหารอีกครั้ง และทำเป็นร้านขึ้นมา

 

PHOkitchen

บรรยากาศร้าน

 

ในตอนแรก PHOkitchen เป็นเพียงร้านที่ออกบูธตามงานต่างๆ ก่อนที่จะขยับขยายมาอยู่ในเพิงเล็กๆ กิ๊กเล่าว่าเพิงเล็กๆ เพิงนั้นไม่ได้สวยหรูอะไรเลย ระบบไม่ดีสักอย่าง ฝนตกทีก็น้ำท่วมถึงตาตุ่ม ลูกค้านั่งกินลำบาก รับคนเยอะไม่ไหว แต่ก็ยังคงเป็นความสุขของกิ๊ก และเมื่อถึงคราวที่เก็บสะสมทุนได้มากพอ ก็ตัดสินใจขยับขยายอีกครั้งให้เป็นร้านที่สะดวกขึ้น

 

เมื่อเปิดเป็นร้านที่ใหญ่ขึ้น เมนูก็ต้องหลากหลายขึ้น กิ๊กเอาผักจากสวนครัวแม่ที่นครปฐมมาใช้ในทุกเมนู ที่จริงแล้วเป้าหมายสูงสุดของกิ๊กคือการไปเปิดร้านอาหารที่สวนเลย แต่ตอนนี้ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปไปก่อน

 

ผักโขมเป็นผักที่แม่ของกิ๊กปลูกเยอะเป็นพิเศษในตอนนั้น ด้วยทักษะและความชอบในการทำพาสต้าเส้นสด กิ๊กจึงหยิบผักโขมเอามาทำเป็นเส้นพาสต้า ออกมาเป็นเส้นสีเขียว แต่ในบางช่วงที่มีผักโขมแดง ก็มีเส้นที่เป็นสีแดงด้วย ทำให้เส้นพาสต้าผักโขมเป็นเหมือนเส้นซิกเนเจอร์ของทางร้าน

 

มอส-พงศธร คุ้มปลี และ กิ๊ก-กุลวดี โพธิ์อุบล

 

PHOkitchen

บรรยากาศร้าน

 

คุกกี้ของทางร้าน

 

บรรยากาศร้าน

 

“แม่ครัวกิ๊กทำอาหาร ส่วนพ่อครัวมอสทำอาหารไม่เป็น เลยดูแลระบบและล้างจาน”

 

เมื่อจองรอบเข้าไป มอสที่ดูแลระบบจะแนะนำให้สั่งอาหารล่วงหน้าไว้ก่อน เพราะกิ๊กต้องใช้เวลาในการทำเส้นพาสต้าแบบสดใหม่ และการที่พวกเขามีกันอยู่สองคนก็อาจจะทำให้อาหารแต่ละจานช้าไปบ้าง แต่พวกเขาจะพยายามเตรียมอะไรก็ตามที่เตรียมไว้ก่อนได้ เมื่อลูกค้ามาถึงก็จัดการประกอบร่างอาหารให้เรียบร้อย

 

แต่การประกอบร่างอาหารก็ใช้เวลาอยู่ดี ทางร้านเลยมีกิมมิกเล็กๆ เป็นคุกกี้รูปโลโก้ร้านแสนน่ารักเสิร์ฟเป็นการต้อนรับและให้ลูกค้ากินเล่นระหว่างรอ ซึ่งคุกกี้นี้ก็สร้างความรู้สึกพิเศษให้ลูกค้าได้ดีทีเดียว นอกจากโลโก้ร้านแล้ว กิ๊กยังทำคุกกี้เป็นลวดลายเทศกาลด้วย การแวะเวียนไปที่ร้านในช่วงเทศกาลเลยพิเศษขึ้นไปอีก แต่เราแนะนำว่าอย่าเพิ่งกินคุกกี้จนหมดนะ

 

อาหารของทางร้าน

 

ซุปมะเขือเทศย่าง (150 บาท) และซุปผักโขม (150 บาท)

 

“ร้านเราเล็ก ก็อยากให้เมนูหลากหลายที่สุดด้วยวัตถุดิบเท่าที่มี”

 

กิ๊กและมอสบอกว่าร้านนี้เปิดมาเกือบ 3 ปี แต่มีซุปอยู่แบบเดียวคือซุปเห็ด ก็อยากจะลองเพิ่มอะไรดูบ้าง เลยมาเริ่มเอาผักโขม ผักคู่บุญของร้านมาทำเป็นซุป ในตอนแรกพวกเขาทำออกมาเป็นซุปใสแล้วรู้สึกว่ามันมีความผักเกินไป จึงเพิ่มความนวลเนียนด้วยมันฝรั่งด้วย จึงออกมาเป็น ซุปผักโขม (150 บาท) สูตรปัจจุบันที่เป็นซุปครีมออกข้นนวลเนียนสีเขียวสดใส

 

แต่คิดดูอีกที ซุปทั้งสองแบบของร้านเป็นซุปครีมหมดเลย คงไม่ดีกับสุขภาพผู้ใหญ่เป็นแน่ เพราะเท่าที่กิ๊กและมอสสังเกตดู ลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่จะชอบซุป เลยคิดค้นซุปที่ดีต่อสุขภาพผู้ใหญ่ขึ้นมาจากวัตถุดิบที่มีอยู่แล้ว ออกมาเป็น ซุปมะเขือเทศ (150 บาท) ที่ใช้มะเขือเทศพูเรใส่ลงในน้ำสต๊อกผัก ทำให้ได้ซุปมะเขือเทศแบบเข้มข้น โดยซุปทุกเมนูจะเสิร์ฟพร้อมกับขนมปังบาแก็ตที่ทางร้านทำเอง

 

ซีซาร์สลัดฟักทองย่าง (150 บาท)

 

ซีซาร์สลัดฟักทองย่าง (150 บาท)

 

“เมนูต่างๆ บางทีลูกค้าก็เป็นคนกระซิบบอกเรามา”

 

ตอนแรกเริ่มเลย ทางร้านมีเมนูสลัดแค่สลัดตามฤดูกาล ที่เป็นผักสลัดหลากหลายแบบรวมกัน ใส่สีสันลงไปเล็กน้อย ซึ่งทางร้านได้รับความเห็นจากลูกค้าคนหนึ่งที่ชอบฟักทองย่างในสลัดมาก จึงลองทำเมนูสลัดเมนูใหม่ที่ให้ฟักทองย่างเป็นจุดเด่นไปเลย ในสลัดชามนี้จะมีทั้งผักสลัดที่แม่ของกิ๊กปลูก ผักเคลที่พี่สาวของกิ๊กปลูก และฟักทองย่างแบบจัดเต็ม กินคู่กับน้ำสลัดซีซาร์ที่ทางร้านลงมือทำเองให้ได้แบบข้นพิเศษ ออกมาเป็น ซีซาร์สลัดฟักทองย่าง (150 บาท) ที่รอคอยให้ลูกค้าคนนั้นกลับมากินอย่างอิ่มเอมใจ

 

“แต่ลูกค้าคนนั้นที่ชอบฟักทองย่างก็หายไปเลยนะ” กิ๊กและมอสหัวเราะเบาๆ ให้กับเรื่องราวของเมนูนี้

 

พิซซ่าพริกคั่วครีมซอสฮันนี่เบคอนรมควัน (250 บาท)

 

 

พิซซ่าพริกคั่วครีมซอสฮันนี่เบคอนรมควัน (250 บาท)

 

มาถึงเมนูหลักอย่างพิซซ่ากันบ้าง พิซซ่าพริกคั่วครีมซอสฮันนี่เบคอนรมควัน (250 บาท) เมนูรสจัดที่เกิดจาก น้ำพริกแม่โสภา น้ำพริกของแม่เพื่อนมอส ในตอนแรกทางร้านทำเป็นเมนูพาสต้าพริกคั่วก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็อยากทดลองทำอะไรใหม่ๆ อย่างการทำพิซซ่า โดยที่ทำแป้งเอง หมักเอง อบเองทั้งหมด พิซซ่าพริกคั่วนี้จะมีครีมซอส พริกคั่ว เบคอนรมควัน เห็ด พริกหวาน หอมใหญ่ และโรยหน้าด้วยสมุนไพรหลายชนิด เรียกได้ว่าเครื่องแน่นและสนุกมาก คล้ายกับการกินน้ำพริกแล้วมีผักเคียงหลายอย่างเลย

 

การทำเส้นพาสต้าของทางร้าน

 

พาสต้าเส้นสดผักโขม ซอสเพสโต้เฮิร์บการ์เด้น แซลมอนย่าง (360 บาท)

 

พาสต้าสีเขียวสดใสจานนี้คือ พาสต้าเส้นสดผักโขม ซอสเพสโต้เฮิร์บการ์เด้น แซลมอนย่าง (360 บาท) ในซีรีส์พาสต้าคราฟต์ เมนูใหม่ของทางร้าน พาสต้าเส้นสดผักโขมที่เป็นเส้นซิกเนเจอร์ของทางร้าน คลุกกับซอสเพสโต้ที่ทำจากโหระพาไทย ผักพื้นบ้านของคนไทยที่บ้านของกิ๊กก็ปลูกเยอะไม่แพ้ผักโขม นำมาผสมกับโหระพาฝรั่งและอัลมอนด์ให้เป็นซอสเพสโต้ ตกแต่งด้วยผักและสมุนไพรหลากชนิด กิ๊กสนุกกับเมนูนี้ทุกครั้งที่ได้ทำ เพราะรู้สึกเหมือนได้จัดสวน และในยามกินก็ได้กลิ่นสมุนไพรหลากชนิด ทั้งความสดและความหอมของสมุนไพรทำให้ใครหลายคนชอบเมนูนี้มาก

 

การทำเส้นเดซี่พาสต้า

 

เดซี่พาสต้าซอสบราวน์บัตเตอร์ส้ม เบคอนรมควัน (290 บาท)

 

ส่วนเมนูแสนน่ารักจานนี้คือ เดซี่พาสต้าซอสบราวน์บัตเตอร์ส้ม เบคอนรมควัน (290 บาท) เมนูดาวเด่นดวงใหม่ของร้านในซีรีส์พาสต้าคราฟต์เช่นเดียวกับเมนูก่อนหน้านี้ เส้นพาสต้าลายดอกเดซี่แสนน่ารักนี้เกิดจากลูกค้าที่ส่งพาสต้าที่เป็นลวดลายมาให้กิ๊กลองทำดู พาสต้าจานนี้ไม่ใช่แค่ทำเป็นรูปดอกเดซี่เท่านั้น แต่กิ๊กตั้งโจทย์เอาไว้ว่า ถ้าเส้นเป็นดอกเดซี่ ซอสจะเป็นอะไรที่ชวนให้นึกถึงดอกเดซี่ ก็ได้ออกมาเป็นซอสส้มที่ให้ความหวานแบบสดชื่น และมีสีที่เข้ากันได้ดีด้วย

 

ในซีรีส์พาสต้าคราฟต์ ลูกค้าสามารถเลือกเนื้อสัตว์ที่จะกินคู่กับพาสต้าได้ โดยทางร้านมีเบคอนรมควันและแซลมอนย่างให้เลือก คาแรกเตอร์ของพาสต้าแต่ละจานก็มีความเข้ากันที่แตกต่างกันไป โดยทางร้านจะแนะนำเอาไว้ในเมนูว่าซอสนี้เหมาะกับเบคอนรมควันหรือแซลมอนมากกว่ากัน แต่ถ้าลูกค้าจะเลือกตามความชอบของตัวเองก็ไม่มีอะไรผิด

 

ในส่วนของเบคอนรมควัน ทางร้านใช้ของร้าน รมณ์ควัน ที่เชี่ยวชาญการทำอาหารด้วยเทคนิครมควันเป็นพิเศษ ได้ทั้งความหอม รสชาติ และสุขภาพ กิ๊กและมอสพยายามหาซื้อวัตถุดิบจากธุรกิจเล็กๆ เพราะนอกจากจะราคาไม่ได้ต่างกันมาก ยังเป็นการสนับสนุนคนเล็กคนน้อยด้วยกันอีกด้วย

 

 

น้ำมะนาวน้ำผึ้งโซดา (80 บาท) และนมน้ำผึ้งของโปเนียว (80 บาท)

 

ปิดท้ายมื้อด้วยเมนูเครื่องดื่มเย็นใจอย่าง น้ำมะนาวน้ำผึ้งโซดา (80 บาท) เครื่องดื่มแสนสดชื่นสูตรป้าของกิ๊ก ที่กิ๊กมักได้ดื่มเวลากลับบ้าน ป้าจะใช้น้ำผึ้งเดือนห้าและมะนาวของสวนที่บ้าน เมื่อน้ำมะนาวน้ำผึ้งมาอยู่ในร้านพาสต้าแล้วก็ทำหน้าที่มอบความสดชื่นได้ดีทีเดียว เพราะพาสต้าและพิซซ่านั้นรสชาติค่อนข้างหนักจากแป้งและครีม มะนาวจะช่วยตัดเลี่ยน ช่วยย่อย ระบายแก๊ส ทำให้สบายท้องมากขึ้นหลังจากกินมื้อใหญ่

 

แต่ถ้าใครอยากได้เครื่องดื่มตบท้ายที่คล้ายขนมหวานหน่อย ก็ต้องลอง นมน้ำผึ้งของโปเนียว (80 บาท) เครื่องดื่มจากเรื่อง Ponyo on the Cliff by the Sea ที่หลายคนอยากลองชิม ทางร้านก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว ด้วยรสชาติที่หวานกำลังดีและกลิ่นซินนามอนที่หอมอบอวลอยู่ในแก้ว จากด้านบนที่เราแนะนำว่าอย่าเพิ่งกินคุกกี้จนหมด เพราะเราอยากให้เก็บไว้สักชิ้นเพื่อกินคู่กับนมน้ำผึ้งของโปเนียวนี่แหละ

 

PHOkitchen เป็นอีกร้านหนึ่งที่ให้ความรู้สึกเหมือนมากินข้าวที่บ้านเพื่อน ด้วยความเงียบสงบ และความเพลินที่จะได้รับเวลาได้มองกิ๊กและมอสช่วยกันทำอาหาร และการต้อนรับฉันมิตรของทั้งคู่ ทำให้เป็นร้านที่มาครั้งเดียวคงจะไม่พอ

 

PHOkitchen

Open: วันศุกร์-อาทิตย์ เปิดเป็นรอบจองเท่านั้น

Address: ซอยลาดพร้าว 29 กรุงเทพฯ 

Budget: 200-500 บาท

Contact: [email protected]

Website: https://www.facebook.com/PHOkitchenHome

Map: 

 


 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X