×

จับตาเพื่อไทยในวันไร้หัว…เช็กชื่ออยู่ต่อหรือตีจาก สารพัดมุ้งขย่มศึกใน

04.04.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • กลุ่ม ส.ส. ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่าง ‘กลุ่มวาดะห์’ ตัดสินใจตีจากเพื่อไทย ไปร่วมงานกับพรรคประชาชาติแล้ว ขณะเดียวกันในกลุ่มภาคกลาง ก็มีแรงกระเพื่อมภายใน เมื่อมีกระแสว่าตระกูล ‘สะสมทรัพย์’ เจ้าพ่อนครปฐมจะตีจากเช่นเดียวกัน โดยนำ ส.ส. ภาคกลางในกลุ่มก๊วนบางส่วนไปจับมือกับ กลุ่มอยุธยาของ ‘วิทยา บุรณศิริ’
  • คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยานายทักษิณ ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่ายามนี้คือผู้มากบารมีของพรรค ไม่ต้องการให้วงศาคณาญาติเข้ามากุมบังเหียน เพราะต้องการลบภาพพรรคของครอบครัวออกไป ซึ่งนี่อาจเป็นท่าทีที่เจ๊แดงยอมถอยออกจากพื้นที่เพื่อไทย แต่ ‘หญิงหน่อย’ ภาษีดีกว่าใครด้วยได้รับแรงหนุนจาก ‘หญิงอ้อ’ นั่นเอง

กว่าบรรยากาศที่พรรคเพื่อไทยวันนี้จะนิ่งก็กินเวลาไปถึงบ่ายสามโมงเย็น หลังพรรคเพื่อไทยนัดอดีต ส.ส.-รัฐมนตรี มายืนยันสถานะความเป็นสมาชิกตั้งแต่เก้าโมงเช้า เป็นฤกษ์งามยามดี หลังคำสั่ง คสช. ผ่อนคลาย ให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินธุรการบางอย่างได้

 

เรียกกันง่ายๆ ตามภาษาการเมืองคือเป็นการ ‘นัดเช็กชื่อ’ ว่าสมาชิกมุ้งไหน ยังอยู่ดีครบถ้วนกันหรือไม่

 

แกนนำพรรควันนี้มากันคับคั่งหนาตา นำโดย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรค พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค จากนั้นอดีตรัฐมนตรีและอดีต ส.ส. ต่างทยอยเดินทางมาต่อเนื่อง รวมถึงประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคได้ทยอยเข้ามายืนยันความเป็นสมาชิกที่พรรคเพื่อไทย

 

ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมากเกาะติดรายงานข่าว จับตา ‘ท่าที’ อดีต ส.ส. แกนนำมุ้งต่างๆ ในวันที่พรรคใหญ่อย่างเพื่อไทยยัง ‘ไร้หัว’ ขาดแกนนำ มีแต่ท่าทีจากอดีตนายกฯ ทักษิณที่บอกว่า ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว

เจ๊แดงเลิกเล่นการเมือง ชัดแล้ว ‘วาดะห์’ ตีจาก ‘สะสมทรัพย์’ ไม่มา

 

พาเหรดกันมาตั้งแต่เช้า กลุ่มก๊วน อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย หลายคนแทบลืมชื่อ เพราะหายหน้าหายตาไปจากวงจรข่าวนานมาก

 

แกนนำเพื่อไทยคนหลักๆ อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย, นายนพดล ปัทมะ, นายเสนาะ เทียนทอง, นายปลอดประสพ สุรัสวดี, นายวัฒนา เมืองสุข, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช, นายชัยเกษม นิติสิริ, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา, นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ, นายจาตุรนต์ ฉายแสง มากันตั้งแต่เช้า

 

กลุ่มอีสาน เป็นการปรากฏตัวของ พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก, นายสุพล ฟองงาม, นายไพจิต ศรีวรขาน, นายโสภณ เพชรสว่าง ถือว่าเป็นกลุ่มที่มามากที่สุด และดูเหมือนจะยังแข็งขันเหนียวแน่นกับเพื่อไทย เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่ายี่ห้อ ‘ทักษิณ’ ยังขายดีในภูมิภาคนี้ แม้จะประกาศไม่เกี่ยวข้องกับพรรค แต่นั่นแค่ทางนิตินัย แถมยังมี ‘ยิ่งลักษณ์’ เป็นหน่วยเสริมทัพสำคัญ ทำให้คว้าชัยเหนือคู่แข่งมาทุกสมรภูมิเลือกตั้ง

 

ข้ามมาที่กลุ่มภาคเหนือ ในยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง ‘วังบัวบาน’ คือมุ้งใหญ่ของกลุ่ม ส.ส. ตั้งแต่ยุคไทยรักไทย ที่นำโดย เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ ซึ่งมีบทบาทเบื้องหลังในการเดินเกมการเมือง มี ส.ส. ในสังกัดเป็นกลุ่มภาคเหนือ ภาคกลางบางส่วน ปรากฏคนใกล้ชิดอย่าง นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และบรรดา ส.ส. เหนือ จากเชียงใหม่ ลำพูน น่าน มาแสดงตัว หากแต่ไร้เงาเจ๊แดง

 

ร้อนถึงคนใกล้อย่างนายสมชาย ในฐานะสามีให้สัมภาษณ์สื่อว่า “นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยา ไม่ได้เดินทางมายืนยันความเป็นสมาชิกด้วยเพราะเลิกเล่นการเมืองแล้ว ส่วนเหตุผลว่าเลิกเล่นการเมืองเพราะอะไรนั้นให้ไปถามเจ้าตัวเอาเอง” ไม่แน่ว่าเป็นการถอยจริงหรือถอยไปอยู่หลังฉากเท่านั้นเอง

 

ภาคใต้ อย่างที่รู้กันในสนามการเมืองว่า เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ หลายพรรคไม่อาจเจาะไข่แดงได้ รวมทั้งพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทย เป็นภาคที่เพื่อไทย ไม่อาจ ‘เจาะ’ ฐานเสียงและมี ส.ส. ได้มากนัก ทำให้ กลุ่ม ส.ส. ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่าง ‘กลุ่มวาดะห์’ ตัดสินใจตีจากไปร่วมงานกับพรรคประชาชาติแล้ว

 

ขณะเดียวกันในกลุ่มภาคกลางก็มีแรงกระเพื่อมภายใน ทำเพื่อไทยปั่นป่วนเมื่อมีกระแสว่า ตระกูล ‘สะสมทรัพย์’ เจ้าพ่อนครปฐมจะตีจากเช่นเดียวกัน โดยนำ ส.ส. ภาคกลางในกลุ่มก๊วนบางส่วนไปจับมือกับกลุ่มอยุธยาของ ‘วิทยา บุรณศิริ’

 

งานนี้ ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค เตรียมนัดหมายเคลียร์ใจดับกระแสแพแตกแล้ว

 

 

ถัดมาที่กลุ่มกรุงเทพฯ โฟกัสไปที่ ‘คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ’ แคนดิเดตที่ถูกพูดถึงว่าจะขยับขึ้นมานำ ในขณะที่กระแสต้านจากมุ้ง ‘ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง’ ผู้เคยประกาศคราวสมัยนายกฯ สมัคร ที่จะนำ ‘ทักษิณ’ กลับบ้าน และกลายเป็นภาพกราบแผ่นดินหลังลงเครื่องอันลือลั่นในยุทธจักรการเมือง

 

‘สุดารัตน์-เฉลิม’ ทั้งสองไม่ปรากฏตัวในครึ่งวันแรกของการนัดเช็กชื่อ แต่ดอดมายามบ่ายคนละรอบเวลา แต่ถึงยังไงก็มา เพื่อยืนยันว่ายังอยู่เพื่อไทยไม่หน่ายหนี

 

แต่งานนี้มีแหล่งข่าวรายงานเพิ่มเติมกล่าวถึงแนวคิดที่มีการพูดกันในพรรคว่า “อดีต ส.ส. ที่ไปร่วมงานกับคณะรัฐประหาร ไม่ควรได้กลับมามีที่ยืนในพรรค” ต้องบอกว่าร้อนแรงเหลือเกิน

 

 

วาทะป๋าเหนาะฝันให้ทักษิณกลับไทย คาดทำสมรภูมิการเมืองร้อน

 

ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การจัดให้มีการรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ของพรรค เนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ วันขึ้นปีใหม่ไทย บนเวทีประกอบด้วย ป๋าเหนาะ-นายเสนาะ เทียนทอง, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ โดยมี นายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นแกนนำคนแรกขึ้นรดน้ำดำหัวมอบพวงมาลัย

นายภูมิธรรม บอกว่า “วันนี้รู้สึกอบอุ่นเพราะตั้งแต่รัฐประหาร 4 ปี บรรยากาศอย่างนี้ไม่เกิดได้ง่าย และวันนี้เรามาทำตามกฎหมายในการยืนยันสมาชิกท่ามกลางเวลาที่จำกัด 30 วัน”

 

ขณะที่ นายสมชาย กล่าวว่า “ดีใจที่สมาชิกมาพร้อมเพรียง และมายืนยันความเป็นสมาชิกพรรค สื่อสารถึงความร่วมมือกัน ขอยืนยันที่จะเป็นสมาชิกพรรคนี้ต่อไปและขอเชิญชวนให้ทุกพรรคมาดำเนินการยืนยันสมาชิก”

 

ด้านนายเสนาะ กล่าวช่วงหนึ่งว่า “งานวันนี้ขาดบุคคลสำคัญเพียงคนเดียว คือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผมฝันว่าคนคนนี้จะกลับมาอยู่ประเทศไทยแน่นอน และความฝันของผมมักจะเป็นจริง”

 

ประโยคดังกล่าวเรียกเสียงฮือฮาจากสื่อ เพราะเดาได้เลยว่าสมรภูมิการเมืองจะร้อนระอุนับตั้งแต่ออกสตาร์ทวันแรก เมื่อการชูชื่อ ‘ทักษิณ’ เป็นเสมือนของร้อนในทางการเมืองเสมอมา ยิ่งในยุค คสช. ด้วยแล้ว

 

ขณะที่เมื่อมองไปยังเก้าอี้ที่นั่งในสนามกีฬาชั้น 7 ของพรรคเพื่อไทย ปรากฏบุคคลที่น่าสนใจเขาร่วมกิจกรรมในวันนี้ด้วย เช่น พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี, พล.อ. ชัยสิทธิ์ ชินวัตร, พล.อ. พฤณท์ สุวรรณทัต, นายสุธรรม แสงประทุม เป็นต้น

 

 

อนาคตเพื่อไทยในวันไร้หัว นับแต่นี้ต้องเป็นหัวที่ไร้วงศาคณาญาติตระกูลชินฯ

 

การปรากฏตัวของนายทักษิณที่ญี่ปุ่น พร้อมประกาศไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย หลายคนมองว่าอาจจะมีผลทางจิตวิทยาบ้างต่อสมาชิกพรรค แม้จะมีการมองว่าเป็นแค่เรื่องทางนิตินัย แต่ในทางพฤตินัยแล้ว ‘ยาก’ ที่ทักษิณจะไม่อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทย

 

ขณะที่นายสมชาย มองว่า “ไม่เกี่ยว คงไม่มีผล เพราะท่านไม่ใช่สมาชิกพรรค และกฎหมายใหม่ก็ไม่ให้คนนอกเข้ามายุ่ง และท่านก็ปฏิบัติตามกฎหมาย”

 

นั่นอาจหมายถึง ‘หัว’ นอกพรรคที่มีอิทธิพลกับเพื่อไทยชนิดแยกจากกันไม่ออก แต่ ‘หัว’ ในพรรคที่เป็นทางการที่จะเข้ามาทำให้เพื่อไทยไม่เป็น ‘พรรคหัวแตก’ จะเป็นใครกัน?

 

หากแต่ที่ผ่านมามีการเอ่ยชื่อ ‘คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์’ ขึ้นมาเป็นผู้นำ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ตามมาในหลายแง่มุมทั้งกลุ่มหนุน-กลุ่มต้าน ขณะที่สถานะปัจจุบัน สุดารัตน์ ไม่ได้เป็น ‘สมาชิก’ เพื่อไทย ต้องรอให้มีการ ‘ปลดล็อก’ จึงจะสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคได้

 

วันนี้ในช่วงบ่ายเธอมาปรากฏตัวที่พรรค ดับกระแส ‘ไม่กล้า-ไม่มา’ สื่อรุมจี้ถาม ‘สุดารัตน์’ ถึงโอกาสและอนาคตในการนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เธอตอบว่า “ยืนยันว่าไม่ได้อาสามาเป็นหัวหน้าพรรค เป็นแค่สมาชิกคนหนึ่ง อะไรเป็นประโยชน์กับส่วนรวมก็จะทำ คนที่พูดเป็นเพียงแหล่งข่าวไม่มีตัวตน ตอนนี้มีหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว และเขาก็ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องหาหัวหน้าพรรคใหม่”

 

เมื่อถูกสื่อถามว่าหากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคจะเป็นหรือไม่ เธอตอบสั้นๆ ว่า “ไม่ค่อยมีใครอยากจะเป็น” และขออย่ามโน

 

 

ขณะที่นายภูมิธรรมประกาศว่า หากสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ ภายใน 30 วันจะได้เห็นหน้าตาของ ‘หัวหน้า’ คนใหม่แน่นอน

 

ด้านนายสมชายชี้ว่า ทุกคนใน ‘เพื่อไทย’ มีคุณสมบัติเป็นหัวหน้าพรรค และไม่ปิดช่องหากมีคนหนุนตัวเอง

 

อนาคตของพรรคเพื่อไทยที่ยังหา ‘หัว’ ไม่ได้ ดูเหมือนจะมีบางกลุ่มลาจาก มีสภาพแพแตกอยู่บ้าง

 

 

แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือฟันธงให้ได้ยินว่า อนาคตของหัวหน้าพรรคจะไม่ใช่คนในตระกูลชินวัตรแน่นอน เพราะ ‘หญิงอ้อ’ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยานายทักษิณ ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่ายามนี้คือผู้มากบารมีของพรรค ไม่ต้องการให้วงศาคณาญาติเข้ามากุมบังเหียน เพราะต้องการลบภาพพรรคของครอบครัวออกไป ซึ่งนี่อาจเป็นท่าทีที่เจ๊แดงยอมถอยออกจากพื้นที่เพื่อไทย เพราะวันนี้ก็ไม่ปรากฏตัว พายัพ ชินวัตร ที่เคยเป็นหัวหอกกลุ่มอีสาน

 

อย่างไรก็ตามหากย้อนกลับไปดูตั้งแต่ยุคพลังประชาชนจนมาเพื่อไทย แม้มีการชู ‘นายสมัคร สุนทรเวช’ ขึ้นมา แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด และเมื่อ ‘ยิ่งลักษณ์’ ก้าวขึ้นเบอร์หนึ่ง แม้ไม่ได้เป็นหัวหน้าทางนิตินัย ก็ต้องยอมรับว่าเธอถือธงนำกว่า ‘ยงยุทธ วิชัยดิษฐ’ ในเวลานั้น แต่ชะตากรรมของยิ่งลักษณ์ในตอนจบก็ไม่ต่างจากตัวพี่ชาย

 

 

หลายชื่อถูกโยนขึ้นมาให้ถามทาง ไม่ว่าจะเป็น สมชาย วงศ์สวัสดิ์​, จาตุรนต์ ฉายแสง, พงศ์เทพ เทพกาญจนา, ปลอดประสพ สุรัสวดี, ชัยเกษม นิติสิริ, โภคิน พลกุล หรือแม้แต่ ภูมิธรรม เวชยชัย ก็ยังไม่ได้ถูกพูดถึงเท่า ‘หญิงหน่อย’ ผู้ได้แรงหนุนสุดพลังจาก ‘หญิงอ้อ’ ขณะที่แรงต้านสุดลิ่มประตูมาจากกลุ่ม ‘ร.ต.อ. เฉลิม’

 

พรรคเพื่อไทยในสภาพไร้หัว ยังคงประกาศเจตนารมณ์เดินหน้าสู้ศึกในสนามเลือกตั้ง

 

นับแต่นี้ต้องจับตาดู ‘อนาคต’ ของเพื่อไทยหลังปลดล็อกการเมือง ว่าท้ายที่สุดแล้ว ‘ชื่อ’ ของใครจะกลายเป็นบิ๊กเนมนำทัพ และใครจะตีจากอย่างเป็นทางการ เพราะยังมีเวลาให้เช็กชื่อถึง 30 เมษายนนี้

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising