วันนี้ (11 สิงหาคม) ตามที่ได้เกิดสถานการณ์การชุมนุมประท้วงของประชาชนหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงวันนี้ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล โดยเฉพาะตัวของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนไปทุกหย่อมหญ้า ยิ่งในภาวะที่ประเทศประสบกับวิกฤตของโรคโควิดและรัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคอย่างสิ้นเชิง จนวันนี้มีประชาชนติดเชื้อเกือบแปดแสนคน เสียชีวิตเกือบหกพันคน ซึ่งอาจจะถึงหนึ่งหมื่นคนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ธุรกิจเลิกกิจการ ผู้คนตกงาน ประชาชนต้องทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วย
ขณะเดียวกันกลับมีข่าวการทุจริตในการจัดซื้อวัคซีนและการกระจายวัคซีน กรณีดังกล่าวยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนยิ่งขึ้น แทนที่รัฐบาลจะรับฟังเสียงเรียกร้องดังกล่าวกลับสั่งการให้ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมทุกครั้งโดยไม่คำนึงถึงหลักสากลและความมีเมตตาธรรมต่อกัน ทั้งที่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นเพียงลูกหลานที่แสดงออกเพื่อต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาประเทศให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมองเห็นประชาชนเป็นผู้ร้ายที่ต้องดำเนินการอย่างรุนแรงและเด็ดขาด
พรรคเพื่อไทยมีความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อการใช้อำนาจของรัฐบาลและการใช้กำลังเข้าปราบปรามผู้ชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อาจนำไปสู่ความสูญเสียของทั้งสองฝ่ายโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ดังนั้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดวิกฤตการณ์ดังกล่าว พรรคจึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ขอให้รับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อเรียกร้องของประชาชนและหาทางออกด้วยการเปิดเวทีรับฟังความเห็นและข้อเสนอของผู้นำการเคลื่อนไหวกลุ่มต่างๆ แทนการใช้ความรุนแรงและจับกุมดำเนินคดี เพื่อหาทางออกจากวิกฤตการณ์ของประเทศในขณะนี้ให้เป็นไปด้วยสันติ ในระหว่างนี้ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยุติการปฏิบัติการที่รุนแรงต่อประชาชนโดยทันที และขอให้ผู้ชุมนุมได้ใช้สิทธิเสรีภาพภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญโดยยึดสันติวิธีในการแสดงออก