×

ไผ่ ลิกค์ เผยจุดยืนเศรษฐกิจไทย โหวตสุดตรงไหนก็ตรงนั้น จะทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องระแวง หลังขยับออกจากรัฐบาล

โดย THE STANDARD TEAM
19.07.2022
  • LOADING...
ไผ่ ลิกค์

วานนี้ (18 กรกฎาคม) ไผ่ ลิกค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กำแพงเพชร พรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์รายการ THE STANDARD NOW ดำเนินรายการโดย อ๊อฟ-ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ เผยแพร่ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า พรรคเศรษฐกิจไทยออกมาเป็นฝ่ายค้าน 100% หรือยัง จะโยกกลับไปรัฐบาลหรือไม่ การแพ้เลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดลำปางเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ออกมาหรือเปล่า

 

ไผ่ ลิกค์ ซึ่งเป็นคนสนิทของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวว่า เราลาออกจากวิปรัฐบาลแสดงว่ามีความชัดเจน ไม่เอาเครดิตทั้งหมดมาเล่น ปกติก็โดนมองไม่ชัดอยู่แล้ว อยู่ดีๆ จะทำให้ไม่ชัดขึ้นคงไม่มีใครทำ เราเดินมาตรงนี้ด้วยองค์ประกอบหลายๆ อย่าง ไม่ใช่อย่างเดียวว่าแพ้เลือกตั้งแล้วออกมา แต่มีอย่างอื่นที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้ขยับบทบาทออกมา 

 

การเลือกตั้งซ่อมที่ลำปางเป็นส่วนประกอบ อาจจะมีมือที่มองไม่เห็นทำให้เรารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเปลี่ยนบทบาท ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่ชัดเจนก็ไม่มีประโยชน์ เราอยู่ก็โดนด่า เราออกมาเลยดีกว่า พูดให้เข้าใจง่ายๆ

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า พรรคเศรษฐกิจไทยบอกว่าเป็นฝ่ายค้านอิสระ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้จะเห็นพรรคลุกขึ้นอภิปรายหรือไม่ และได้คุยกับพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล อย่างเป็นทางการแล้วหรือยัง 

 

ไผ่กล่าวว่ายังไม่ได้คุย แต่สนิทกับ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เพื่อไทย อยู่แล้ว ประสานงานกันตั้งแต่วันแรกที่เข้าสภา แม้อยู่คนละพรรคแต่เป็นพวกเดียวกัน ส่วนทางก้าวไกลก็ได้ประสานงานและหลังๆ ได้คุยเยอะขึ้น เมื่อเราได้ปรับเปลี่ยนบทบาทมาอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย ได้ช่วยเรื่องการโหวตจนสำเร็จมาหลายครั้ง 

 

ขอเรียนว่าในขั้นไปพูด (อภิปราย) ยังไม่ได้เตรียมตัวกัน แต่การอยู่ในสภา เรารู้อยู่แล้วว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างไร คนไหนมีข่าวอะไร เราเป็น ส.ส. เรารู้อยู่แล้ว กระทรวงนี้เป็นอย่างไร จริงๆ มีข้อมูล แต่ถ้าจะมานำเสนอประชาชนจะต้องมีการเตรียมการ ซึ่งพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล มีการเตรียมการมานาน 

 

ส่วนพรรคเราเน้นย้ำว่าเราต้องการการเปลี่ยนแปลงจึงได้ออกมา เราสู้ แต่จุดที่เราสู้คือการโหวต ซึ่งเห็นทั้ง 2 พรรคปล่อยทีเซอร์มาแล้ว เชื่อว่าหนังมันแน่ ทุกคนปล่อยมาเต็มที่ ไม่ต้องมาระแวงเรา เพราะจริงๆ แล้วหลังๆ เรายืนอยู่เคียงข้าง ไม่ว่าจะเรื่องสุรา เราก็ช่วยตลอด และอะไรที่เป็นความต้องการจากประชาชน เราก็ทำให้มันสำเร็จกัน 

 

การทำงานสภามีทั้งใต้ดินและบนดิน หน้าฉากเป็นแบบหนึ่ง แต่จุดประสงค์เราก็จะพยายามทำงานให้เต็มที่ในส่วนของเรา แล้วก็หวังว่ามันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อยในเรื่องของคะแนน เราก็ประสานงานกันอยู่ ยังพยายามเดินงานให้เต็มที่ 

 

“พรรคเราเน้นย้ำว่าสวมเสื้อแล้วอย่างไรก็ต้องเตะเต็มที่ครับ ไม่ใช่สวมเสื้อแล้วมาเตะก๊อกแก๊กๆ คงไม่ได้ทำอย่างนั้น” ไผ่กล่าว 

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ยืนยันการยกมือโหวตในสภารอบนี้จะพิสูจน์ว่าเป็นฝ่ายค้าน หลังจากที่ผ่านมาเป็นการให้สัมภาษณ์สื่อ

 

ไผ่กล่าวว่า การโหวตจะไปในทิศทางเดียวกัน เราจะทำงานในส่วนของเรา เรื่องโหวตไม่ต้องสงสัย เพราะอยู่ดีๆ เราไม่ไปหาเรื่องลาออกจากวิปรัฐบาล 

 

วันแรกที่เราออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ ทุกคนบอกว่าเราต่อรองตำแหน่ง ขณะที่พวกเราทุกคนบอกว่าเราไม่เอา เอาไม่ได้ ถ้าเราไปนั่งมันไม่คุ้ม ตนเองเป็น ส.ส. ก็ต้องการเป็น ส.ส. ต่อไป สำคัญอยู่ที่ครั้งหน้า เพราะถ้าครั้งนี้ไปเล่นตลกให้ประชาชนดู แล้วครั้งหน้าเขาจะเลือกเราไหม ซึ่งก็คงไม่ได้ อันนี้ไม่ต้องห่วงเพราะเมื่อรับปากแล้วเราก็ทำงานกันมาเต็มที่อยู่แล้ว 

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า พรรคเศรษฐกิจไทยเคยอยู่กับรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาก่อน พอจะมีข้อมูลลับ ข้อมูลเด็ด ที่จะมาบอกเพื่อนๆ ฝ่ายค้านไหม 

 

ไผ่กล่าวว่า คงไม่ได้ทำขนาดนั้น แต่หลังจากนี้ถ้ารู้อะไรเราก็คงจะบอกกัน ครั้งนี้คงไม่ได้ถึงขั้นหยิบยื่นให้ เพราะต่อไปจะไม่มีคนคบ พอออกจากที่ไหนเผาที่นั่นเลยไม่ได้ คงไม่มีใครคบ 

 

เคยออกจากเพื่อไทยตอนนั้นก็ไม่เคยว่าพรรคเก่า ตนเดินหน้าทำงานของตัวเอง แต่ถ้าหลังจากนี้มีอะไรก็ว่ากันเป็นอีกเรื่อง ถ้าตรงไหนที่ทุกพรรคคิดว่าเราช่วยได้ บอกมา ก็จะเต็มที่ ไม่ต้องห่วง ชัดเจนอยู่แล้ว 

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ตอนไปกราบลา พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้พูดคุยอะไรบ้าง และพรรคเล็ก ‘กลุ่ม 16’ ได้พูดคุยกันอย่างไร จะมาอยู่พรรคเดียวกันไหม 

 

ไผ่กล่าวว่า ไปลามาไหว้ ไปเล่าเรื่องต่างๆ ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร เรื่องนี้คงไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรมากมาย ส่วน ‘กลุ่ม 16’ ยังไม่ได้คุย จริงๆ เราวางไทม์ไลน์คุยกันตอนไหน ก็ต้องรอให้การอภิปรายเดินไปสักหน่อย หลังจากวางข้อมูลอะไรทุกอย่างก็จะดำเนินการคุยกัน หารือกัน นี่คือส่วนหนึ่งที่จะต้องทำ เราทำอยู่แล้ว เราก็อยากจะทำอะไรให้เปลี่ยนแปลงได้ เป็นสิ่งที่ดี 

 

“แต่ก็ต้องเข้าใจ การโหวตมีปัจจัยหลายอย่าง เราคงไปบังคับใครโหวตไม่ได้ เพราะแต่ละคนโหวตมีเหตุผลอะไรที่เราไปบังคับเขาไม่ได้ เราก็คงหารือแล้วพยายามจะให้มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อย เพราะว่าผมก็ได้รับการร้องเรียนร้องขอจากพ่อแม่พี่น้องมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรต่างๆ ด้วยรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว เราต้องยอมรับว่าไม่เหมือนสมัยก่อนที่ ส.ส. สามารถเข้าไปล้วงลูก เข้าไปมีงบของ ส.ส. ที่ทำให้พ่อแม่พี่น้องพึ่งพานักการเมืองได้จริงๆ ตอนนี้ด้วยรัฐธรรมนูญมาป้องกันไม่ให้ไปยุ่งวุ่นวาย เราทำอะไรได้น้อย แต่ชาวบ้านยังคาดหวัง ส.ส. เขต ส่วนเรื่องโหวต ไม่ว่าจะโหวตอย่างไร เชื่อว่าพ่อแม่พี่น้องจะตัดสินในวันเลือกตั้งเอง ถ้าโหวตดี ทำถูกใจ วันนี้หลายๆ อย่างเถียงไม่ได้ ไม่ว่าจะราคาพืชผลทางการเกษตร ไม่ว่าจะราคาน้ำมัน หรือยอดโควิด เรารู้อยู่ในใจอยู่แล้วเพราะอะไร ขอให้พรรคเพื่อไทย ก้าวไกล พูดให้ตรงใจ ก็จะขยายแผลเอง 

 

“ส่วนเรื่องการโหวตของพรรคเรา อาจจะมีคนละมุมมองบ้าง ทุกคนมีเหตุผล เราจะทำได้สุดเท่าตรงไหน เราก็จะทำให้ดีที่สุด” ไผ่กล่าว

 

ผู้ดำเนินรายการถามถึงกรณี นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส. จังหวัดนครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์รายการ THE STANDARD NOW ก่อนหน้านี้ว่า กระแส พล.อ. ประยุทธ์ในต่างจังหวัดยังดีมาก คนชื่นชมรัฐบาล แม้กระแสในโซเชียลฯ ไม่ค่อยดี ในฐานะที่ไผ่เคยอยู่กับ พล.อ. ประยุทธ์มาก่อน ตอนนี้ออกมาแล้ว แปลว่าไม่เชื่อมั่นกระแส พล.อ. ประยุทธ์ในการเลือกตั้งสมัยหน้าหรือไม่ 

 

ไผ่กล่าวว่า ตนจะไปพูดอย่างนั้นก็ไม่ได้ ต้องมองว่าตนเป็น ส.ส. เขต แต่ละพื้นที่ก็ว่ากันไป ในเขตของตนก็ไปรับฟังความเดือดร้อนมาประมาณหนึ่งและรับจากสื่อโซเชียล ไม่ได้ว่านิโรธ เพราะต่อให้พรรคการเมืองเข้มแข็งขนาดไหน การออกนโยบายย่อมมีคนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าวันนี้กระแสนายกฯ ลดลง ต้องยอมรับจริงๆ ว่าลดลง 

 

ส่วนมีเรื่องทุจริตหรือไม่ ต้องดูการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราได้ยินมาระดับหนึ่ง ถ้าหลายพรรคที่เป็นพรรคฝ่ายค้านออกมามีหลักฐานสิ่งที่พูดแล้วเห็นภาพ จะทำให้เราไปง่ายขึ้น 

 

วันนี้พี่น้องอยู่ในสภาเป็นปีสุดท้าย สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาอยากจะกลับมานั่งอยู่ในสภาแห่งนี้ไหม ถ้าเขายังคิดว่าจะกลับมานั่งในสภา เขารู้อยู่แล้วว่าบทบาทจะเป็นอย่างไร 

 

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ‘3 ป.’ ยังเหมือนเดิมไหม 

 

ไผ่กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเขาเหมือนเดิมไหม แต่พรรคเศรษฐกิจไทยมีความสนิทสนมมากกับ พล.อ. ประวิตร เพราะดูแลกัน เราทำพื้นที่ ได้รับการดูแลช่วยเหลือจากนโยบาย พล.อ. ประวิตร แต่ก็เข้าใจหากท่านอื่น (ส.ส. รังสิมันต์ โรม) บอกว่าเคยโดนกระทำ ตนจะไม่ก้าวล่วงและไม่สามารถเปลี่ยนอุดมการณ์ใครได้ ส่วนเรื่อง 3 ป. ที่มีข่าวหลายอย่าง ก็มีทั้งจริงและไม่จริง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising