ในย่านสิงสถิตของสายคราฟต์เบียร์และกาแฟ ซึ่งตอนนี้เริ่มมีค็อกเทลบาร์มาเปิดกันอุ่นหนาฝาคั่ง ถนนสายนี้มีร้านเล็กๆ อยู่ริมถนนชื่อ Perfect Strangers ที่ทางร้านให้บริการทั้งอาหาร กาแฟ ยันค็อกเทล เรียกได้ว่า ต้อนรับ ‘คนแปลกหน้า’ ได้หลากหลายพอสมควร ซึ่ง คุณน้ำ-อมิชชาปตีร์ ปุณวรพิพัฒน์ เจ้าของร้าน วาดฝันให้ร้านของเธอเป็นพื้นที่สำหรับพบปะกับคนแปลกหน้าที่ค่อยๆ กลายมาเป็นเพื่อนกัน เพียงแค่เข้าซอยประดิพัทธ์ มองหาประตูไม้ที่รายล้อมด้วยหน้าต่างกระจกขุ่นก็เจอได้ในทันที
The Vibe
ตัวร้านออกแบบให้นิ่งๆ เรียบๆ และไม่ปั้นแต่งมาก ปูนเปลือย เสาอาคาร เคาน์เตอร์ ยันเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ ล้วนเรียบและไม่มีการตกแต่งวิจิตรอะไร ดูสะอาดตาและเน้นฟังก์ชันให้ลูกค้ามานั่งกิน-ดื่ม อีกทั้งทำให้พนักงานทำงานกันง่ายๆ ซึ่งก็น่าจะได้อิทธิพลมาจากสไตล์การออกแบบในแถบสแกนดิเนเวีย นอกจากนี้ ยังมีบันไดขึ้นไปชั้นสอง ซึ่งทำให้ Perfect Strangers สามารถจุคนได้มากกว่าที่เห็นจากภายใน ก่อนเดินเข้าร้าน
The Music
ในช่วงค่ำของที่นี่จะมีวงดนตรีเล่นสด โดยวงจะเริ่มเล่นตั้งแต่ 2 ทุ่มเป็นต้นไป ซึ่งสไตล์เพลงก็จะสลับสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เพลงที่เล่นจะเป็นแนวแจ๊สและป๊อป ซึ่งก็เข้าถึงคนได้ดี หรือคลอเป็นแบ็กกราวด์ระหว่างกิน-ดื่มก็โอเค
The Dishes
อาหารของที่นี่เน้นเป็นอาหารฟิวชัน ซึ่งจะเป็นการผสมผสานระหว่างอาหารตะวันตกและตะวันออก เริ่มด้วย Perfect Strangers Salad (220 บาท) ที่นอกจากจะมีผักสดแล้ว ยังมีผักที่ทางร้านดองเอง เช่น หอมแดง แครอต และแตงกวา ซึ่งตัวหอมแดงที่ทางร้านดองนั้นอร่อยและดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ของมันได้ดี ราดด้วยน้ำสลัดรสเปรี้ยวหวานและมีความอุมามิ
Crispy Pork Belly & Mashed Potato (320 บาท) หมูกรอบที่กรอบนอกนุ่มในและจุยซี่มาก (ซึ่งประทับใจมาก เนื่องจากเป็นคนที่เรื่องมากกับหมูกรอบสุดๆ) จะกินแบบจิ้มกับน้ำจิ้มเผ็ดร้อนแบบไทยเข้าไปก่อน แล้วตามด้วยมันบดก็โอเค จะทานแบบมีทุกอย่างอยู่ด้วยกันในคำเดียวก็ดี
Pasta River Prawn (420 บาท) อันนี้ทานได้เฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์เท่านั้น ซึ่งเส้นก็อัลเดนเต้กำลังดี คลุกเคล้าผัดกับเครื่องเทศจัดจ้าน มากับกุ้งแม่น้ำเผาตัวใหญ่ยักษ์มันเยิ้มๆ แต่ตัวกุ้งจะยังมีกลิ่นโคลนหน่อยๆ และเนื้ออาจจะยุ่ยไปนิด
The Drinks
เครื่องดื่มก็มีหลากหลายสไตล์ โดยเฮดบาร์เทนเดอร์ของที่นี่ บูม-คมสุภัฐ สิริจุฑาลักษณ์ เคยเป็นบาร์เทนเดอร์ของที่ Backstage Cocktail Bar มาก่อน โดยเครื่องดื่มของที่นี่จะแบ่งเป็น 2 พาร์ต คือ พาร์ตม็อกเทลกาแฟที่เรียกว่า Coffee Mocktail และพาร์ตค็อกเทล ซึ่งก็ขอเริ่มที่พาร์ตค็อกเทลก่อน โดยเมนูค็อกเทลจะไล่ความเข้มข้นทางความสัมพันธ์จากเริ่มต้นไปสู่ความเข้มข้นสูง
โดยเริ่มจาก Landing in the Lavender (320 บาท) ที่สื่อถึงการไม่รู้จักกัน แต่อยากทำให้เกิดการรู้จัก ว่าง่ายๆ ก็คือ ดริงก์เปิดนั่นเอง แก้วนี้มีจินเป็นเบส ตามด้วยลิ้นจี่ ชาลาเวนเดอร์ น้ำเชื่อมดอกหอมหมื่นลี้ บิตเตอร์ และไข่ขาว เชกเสิร์ฟมาในแก้วคูปที่ชิลจนเย็นเจี๊ยบ ในแง่ของฟองไข่ขาวได้รูปสวย แต่รู้สึกว่าความลาเวนเดอร์พุ่งไปสักนิดสำหรับการเริ่มต้นความสัมพันธ์
Basil Should Be Bloom (320 บาท) ตัวนี้เบสเป็นเตกีลาที่เอาไปอินฟิวซ์กับเบซิล สับปะรด และน้ำผึ้งป่า ซึ่งบูมบอกว่า น้ำผึ้งที่ทางร้านใช้มาจากการที่เจ้าของร้านออกไปหาวัตถุดิบมาเข้าร้าน และเขายังบอกอีกว่า ดริงก์ตัวนี้สื่อถึงความสัมพันธ์ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งจะออกรสหวานแหลม
บัวเผื่อน (360 บาท) รูปร่างหน้าตาล่อแหลมมาก เนื่องจากการใช้แก้วลักษณะนี้ และสไตล์ Ramos Gin Fizz ซึ่งฟองไข่ขาวต้องพูนขึ้นมา ทำให้หน้าตาชวนสยิวกิ้ว ตัวเบสเป็นปิสโก ครีม ไข่ขาว น้ำมะนาว และไซรัปดอกบัว นำไปไดร์เชกก่อน จากนั้นเชกกับน้ำแข็งอีกรอบ ท็อปด้วยโซดาและโรยผงชาเขียวบนยอด ทานไปปากจะมันๆ นิดหนึ่ง หอมหวาน นุ่มๆ
มาถึงในส่วนของม็อกเทลกาแฟกันบ้าง เราเริ่มต้นที่ Artful (150 บาท) ที่ใช้กาแฟในแถบบ้านใกล้เรือนเคียงของเรานี่แหละ ผสมกับเสาวรสและส้มสดที่เล่นใส่เข้าไปทั้งเปลือก มะนาว และไข่ขาว ได้รสกาแฟเต็มที่ แน่นอนว่า ส้มเป็นส่วนผสมที่เข้ากับกาแฟได้เป็นอย่างดี มีรสชาเสาวรสที่ทำให้ความเปรี้ยวมีมิติ
Perfect Strangers
Open: เปิดบริการวันพุธ-จันทร์ เวลา 11.00-00.00 น.
Address: ปากซอยประดิพัทธ์ 14 กรุงเทพฯ
Budget: 150-500 บาท
Contact: 08 2234 8432
Page: www.facebook.com/pg/PerfectStrangersBKK
Map:
[iframe src=”https://her.is/2IFCgza” width=”800″ height=”500″ scrolling=”auto” ]
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
- ปิสโก (Pisco) เป็นเหล้าประเภทไม่มีสีหรือมีสีเหลืองจนถึงอำพัน ต้นกำเนิดอยู่ที่เปรูและชิลี เมื่อชาวสเปนที่ไปตั้งรกรากราวศตวรรษที่ 16 ช่วงล่าอาณานิคม โดยพวกเขาเอาน้ำองุ่นไปหมักและกลั่น จนทำให้ค่าแอลกอฮอล์ค่อนข้างสูง