×

แพทองธาร ขึ้นเวทีประชุมใหญ่ เปิด 5 วิธี ‘ปลดหนี้-มีเงินเหลือ’ ประกาศสร้างรัฐบาลดิจิทัล เพื่อไทยแลนด์สไลด์เท่านั้น

โดย THE STANDARD TEAM
24.04.2022
  • LOADING...
แพทองธาร

วันนี้ (24 เมษายน) แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ขอใช้โอกาสในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย 2565 ‘ส่งการบ้าน’ หลังจากที่ได้เริ่มเข้ามาทำงานการเมืองอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันได้ทำงานร่วมกับผู้ใหญ่ในพรรคและคนรุ่นใหม่ เพื่อหาแนวทางพัฒนาแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนให้หลุดพ้นจากความยากจน โดยยืนยันว่า ‘จะไม่ทิ้งคนรากหญ้า’ ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ พรรคเพื่อไทยจะใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาประเทศ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าชีวิตจะดีขึ้น โดยไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคใดๆ ที่เข้ามา โดยเฉพาะการกอบโกยหาผลประโยชน์ที่กำลังดำเนินการกันอยู่อย่างมากมายเพื่อพวกพ้องของตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงความต้องการและชีวิตของประชาชน 

 

แพทองธารกล่าวต่อไปว่า วันนี้คนไทยส่วนใหญ่ยากจนลง จากที่เคยลืมตาอ้าปากได้ เพราะนโยบายที่กินได้ของไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย คนไทยส่วนใหญ่ยังต้องการพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง อนาคตของลูกหลานที่ไม่มีหนี้ และมีเงินเหลือเฟือ จากนโยบายและการบริหารของผู้มีประสบการณ์จากพรรคเพื่อไทย

 

ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรลุไปสู่เป้าหมายนั้น จึงขอส่งการบ้าน 5 ข้อ ได้แก่

 

  1. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการกระจายอำนาจสู่ระดับประชาชน พรรคไทยรักไทยเคยทำมาแล้ว โดยการจัดงบประมาณภาคประชาชนลงไปในระดับหมู่บ้าน ให้ประชาชนตัดสินใจร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาส่วนรวมของหมู่บ้าน รวมทั้งกระจายอำนาจทางการศึกษา การสาธารณสุข การเกษตร และการปกครองท้องถิ่น ให้ตัดสินใจในระดับจังหวัด ไม่ต้องขึ้นกับส่วนกลาง โดยจะทำให้กระทรวงต่างๆ เล็กลง ไม่อุ้ยอ้ายเหมือนในปัจจุบัน รวมทั้งจัดให้มีการรายงานปัญหาของประชาชน และรับฟังข้อเสนอแนะผ่านแอปพลิเคชันแบบ Real-Time เพื่อจะได้วิเคราะห์และแก้ปัญหาให้ถูกทาง และใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด

 

  1. ดึงศักยภาพคนไทยด้วยการใช้ Soft Power 1 คน ต่อ 1 ครอบครัว พรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย ซึ่งถูกกดให้ไม่มีโอกาสและพัฒนาศักยภาพมานาน จึงไม่มีโอกาสทำรายได้ให้สูงขึ้น จัดให้มีระบบค้นหาศักยภาพของคนไทยให้ได้อย่างน้อย 1 คน ต่อ 1 ครอบครัว ประมาณ 16 ล้านครอบครัว เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพ มีส่วนร่วมและหาโอกาส ทั้งระดับท้องถิ่น หัวเมืองใหญ่ในกรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ตามศักยภาพหลังการฝึกฝนและพัฒนา เมื่อได้รับการฝึกฝน มีงานทำที่มีระดับค่าแรงงานที่สูงขึ้น คนเหล่านี้จะเป็นหลักในการหาเงินเลี้ยงครอบครัวให้หายจน มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะเทรนด์โลกสมัยใหม่คือการต่อสู้กันด้วยอำนาจของวัฒนธรรม Soft Power คือพลังหรืออำนาจที่ทำให้คนทั่วโลกโอบรับวัฒนธรรมอื่นๆ หากเกิดพลังนี้ขึ้นกับวัฒนธรรมใด จะนำมาซึ่งมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

 

  1. ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อการเกษตร เพื่อเกิดการวิเคราะห์แม่นยำและผลผลิตสูง โดยการศึกษาดิน น้ำ ลมฟ้าอากาศ ด้วยเทคโนโลยี AI ปลูกพืชตามฤดูกาลที่เหมาะสม ลดการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ระบบวิเคราะห์ข้อมูลและวิทยาศาสตร์การเกษตร ตลอดจนการถนอมผลิตภัณฑ์และการกระจายการจัดจำหน่ายที่รวดเร็ว จะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรไทยได้ พรรคเพื่อไทยจะไม่ยอมให้ ‘การเกษตรแบบวิถีชีวิต’ เกิดขึ้นอีกต่อไป

 

  1. ปรับเปลี่ยนภาครัฐและภาคเอกชนด้วยระบบ Digital Transformation ครั้งใหญ่ ด้วยการสร้างรัฐบาลดิจิทัล (Platform Digital Government) ที่ใช้ได้จริง เพื่อแก้ปัญหาระบบราชการใหญ่โตและคอร์รัปชันมากมายและขาดประสิทธิภาพ ระบบราชการไทยต้องใช้กระดาษลดลง (Paperless) ให้บริการประชาชนผ่านระบบแอปพลิเคชัน เช่น การขอใช้บริการสาธารณสุขในโครงการ 30 บาท ประชาชนสามารถขอเวลานัดหมายทางออนไลน์ได้โดยไม่ต้องรอคิว จะใช้เทคโนโลยีการออกแบบและการทำโมลผลิตจากระบบเครื่องพิมพ์สามมิติ และการตลาดแบบ E-Commerce มาฟื้นคืนชีวิตให้กับสินค้า OTOP กลับมามีคุณภาพที่เป็นสากลมากกว่าเดิม ขายดีกว่าเดิม ยิ่งกว่าสมัยไทยรักไทย 

 

  1. เตรียมคนไทยเข้าสู่ยุค Metaverse โลกเสมือนจริงจะนำโลกที่เป็นจริง ซึ่งจะประกอบด้วย NFT (Non-Fungible Token) หรือสกุลเงินดิจิทัลที่แสดงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ รวมถึง Games และ E-Sports เพื่อพัฒนาทักษะให้กับเด็กและเยาวชน ตลอดจนเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) หรือเทคโนโลยีผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและความเสมือนจริงเข้าด้วยกัน รวมถึง VR (Virtual Reality) หรือการจำลองสภาพแวดล้อมจริงให้เสมือนจริง โดยผ่านการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัส

 

ทั้งหมดจะทำให้พรรคเพื่อไทยเริ่มต้นการประกาศให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่เป็นมิตรกับคริปโต ‘อะไรที่มีข้อห้าม คือทำไม่ได้ อะไรที่ไม่มีข้อห้าม ย่อมทำได้’ เช่น การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) หลายคนที่สร้างรายได้ผ่าน Soft Power เราจะส่งเสริมให้คนกลุ่มนี้มีสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อขายใน NFT เชื่อว่าในอนาคตประเทศไทยอาจสร้างให้เด็กไทยและจิตรกรไทยรวมกัน จนสร้างมูลค่าทางสินทรัพย์ดิจิทัลได้นับแสนล้านบาท

 

แพทองธารกล่าวอีกว่า ในอนาคตประเทศไทยจะต้องปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากความล้าหลังทางเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายเรื่องรถไฟฟ้าทุกประเภทที่เรามีขีดความสามารถในการผลิต หรือกฎหมายที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และอื่นๆ จัดให้มี WiFi ฟรี เข้าถึงระดับหมู่บ้าน โรงเรียน และสถานที่ราชการ ที่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต (Bandwidth) มากพอ และด้วยเทคโนโลยี Metaverse กำลังจะมา พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะเริ่มสอนเด็กและเยาวชนด้วยการทำโปรแกรมการเขียนชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ (Program Coding) เพื่อให้เด็กและเยาวชนกลายเป็นเศรษฐีใหม่ในวันข้างหน้า ก้าวข้ามจากความยากจนไปเป็นเศรษฐี และในที่สุดจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวอีกเท่าตัว มาอยู่ที่ 80 ล้านคน ภายใน 4 ปี จะไม่ยอมเป็นเมืองขึ้นทางเทคโนโลยีกับต่างประเทศอีกแล้ว โดยเราจะสนับสนุนทุกรูปแบบให้ ‘คนไทยทำ คนไทยใช้ คนไทยฉลาด คนไทยเจริญ’

        

“วันที่รัฐบาลสั่งยุบสภา เราพร้อมหมดแล้ว และมั่นใจว่าเราจะเปลี่ยนประเทศไทยจากสภาพที่เต็มไปด้วยหนี้ มองไม่เห็นอนาคต มีแต่ความทุกข์ เป็นประเทศที่หาเงินได้ง่าย เต็มไปด้วยโอกาส มีแต่ความหวังที่เป็นจริงได้ และไม่ต้องสิ้นหวังแบบทุกวันนี้ เรามั่นใจว่าหากพรรคเพื่อไทยได้มีโอกาสบริหารประเทศถึง 8 ปีเช่นนี้ เราจะไม่เห็นปรากฏการณ์คนอยากย้ายประเทศ รวมถึงพี่น้องชาวไทยที่อยู่ต่างประเทศก็จะอยากกลับมาร่วมสร้างความสุข สร้างความมั่งคั่ง และสร้างความเจริญในประเทศไทย ต้องเกิดปรากฏการณ์สมองไหลกลับประเทศไทยในเร็ววัน ด้วยฝีมือของพรรคเพื่อไทย (Reverse Brain Drain) เป้าหมายต่อไป พรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ เราต้องได้อำนาจรัฐ ทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นจึงจะเป็นจริงได้” แพทองธารกล่าวในที่สุด

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising