×

แบงก์ชาติจีนเตือนตั้งรับปัจจัยเสี่ยงโลก แนะขยายยุทธศาสตร์คู่ขนาน ส่งเสริมศักยภาพนวัตกรรม

17.01.2022
  • LOADING...
แบงก์ชาติจีนเตือนตั้งรับปัจจัยเสี่ยงโลก แนะขยายยุทธศาสตร์คู่ขนาน ส่งเสริมศักยภาพนวัตกรรม

หลิว กุ้ยผิง รองประธานธนาคารกลางจีน (PBOC) แสดงความเห็นระหว่างขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเกี่ยวกับการบริหารจัดการสินทรัพย์ระดับโลกที่นครเซี่ยงไฮ้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเตือนให้นักธุรกิจ นักลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลายเตรียมความพร้อมตั้งรับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้สภาวะเศรษฐกิจขาดเสถียรภาพ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในระบบห่วงโซ่การผลิต แนวโน้มต่อต้านโลกาภิวัตน์ และนโยบายกีดกันกับนโยบายผูกขาดทางการค้า

 

นอกจากนี้ปัจจัยเสี่ยงยังหมายรวมถึงผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางชาติเศรษฐกิจชั้นนำระดับโลก นำโดย สหรัฐอเมริกา ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อจัดการเงินเฟ้อ ทำให้ตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging Market) เสี่ยงเผชิญกับภาวะทุนไหลออก รวมถึงจีน ซึ่งจะทำให้จีนต้องเผชิญกับแรงกดดันจากตลาดการเงินโลก 

 

ทั้งนี้ ในทัศนะของรองประธาน PBOC กล่าวว่า นอกจากที่จีนจะต้องเดินหน้าเพิ่มช่องทางและโอกาสที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมเศรษฐกิจระดับโลกให้มากขึ้นแล้ว จีนยังคงต้องขยายการใช้ยุทธศาสตร์วงจรคู่ขนาน หรือ Dual Circulation ซึ่งเป็นแผนการพัฒนาและหนทางสู่การเติบโตที่ยั่งยืนมากขึ้นของจีนในระยะข้างหน้า

 

รายงานระบุว่า ภายใต้ยุทธศาสตร์วงจรคู่ขนาน จีนจะพัฒนาตลาดการเงินให้เป็นช่องทางแห่งโอกาสสำหรับธุรกิจอื่นๆ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลกยุคดิจิทัล ขณะที่ในแง่การเงิน จีนควรเดินหน้าจัดตั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่จะเพิ่มรายได้ภายในเมืองและชนบท และเพิ่มอำนาจในการบริโภคของประชาชนชาวจีน ตลอดจนเดินหน้าจัดการปัญหาการเข้าถึงตลาดเงินของบรรดาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ซึ่งมีบทบาทอย่างมากต่อเสถียรภาพและการจ้างงานของประเทศจีน

 

ความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางจีนมีขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่มีรายงานว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 ที่ผ่านมา ขยายตัวแตะระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปีครึ่ง กดดันให้รัฐบาลต้องเร่งหามาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม เพื่อประคับประคองให้เศรษฐกิจจีนสามารถเดินหน้าต่อไปได้ 

 

สื่อท้องถิ่นจีนรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน ระหว่างช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2021 ขยายตัวเติบโตที่ 3.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า นับเป็นการเติบโตที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 และลดลงจากการเติบโตในไตรมาสที่ 3 ซึ่งอยู่ที่ 4.9%

 

สาเหตุหลักๆ มาจากความต้องการบริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอลง อันเป็นผลมาจากนโยบายของภาครัฐที่จัดการควบคุมปัญหาหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ และมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดที่เข้มงวด 

 

ด้านคณะกรรมาธิการด้านการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติจีน หรือ National Development and Reform Commission (NDRC) ได้ออกแถลงการณ์แจกแจงมาตรการเตรียมกระตุ้นกำลังการบริโภคในประเทศในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง ท่ามกลางรายงานตรวจพบการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในหลายเมือง รวมถึงกรุงปักกิ่งและเมืองเทียนจิน จนหลายฝ่ายวิตกว่าการใช้จ่ายในช่วงตรุษจีนปีนี้จะไม่คึกคัก

 

แถลงการณ์ระบุว่า ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด ทาง NDRC เตรียมใช้เทศกาลตรุษจีนและเทศกาลโคมไฟให้ผู้คนยังคงออกมาใช้จ่ายเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนการช้อปออนไลน์สินค้าที่เกี่ยวข้องกับหิมะและความหนาว และมาตรการสนับสนุน SMEs ต่างๆ

 

ขณะเดียวกันเพื่อชดเชยเงินส่วนหนึ่งที่จะหายไปเนื่องจากผู้คนไม่สามารถเดินทางหรือลดจำนวนการเดินทางที่ไม่จำเป็น ทางการจีนเตรียมออกมาตรการส่งเสริมการใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าน่าจะช่วยให้ภาคธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารทำรายได้ได้มากขึ้น โดยเทศกาลตรุษจีนปี 2021 ที่ผ่านมา ยอดขายและรายได้หลักจากธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารในจีนทำสถิติสูงถึง 821,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากตรุษจีนปี 2020 ถึง 28.7% และเพิ่มขึ้นจากช่วงตรุษจีนก่อนเกิดโควิดระบาดถึง 4.9% 

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising