‘พาลูกลาออก-ดรอปเรียน’ หลังโรงเรียนเอกชนโหมเรียนออนไลน์หนัก ขอคืนค่าเทอม แต่ได้ส่วนลดเทอมหน้า เทอมนี้ต้องจ่ายเต็ม

วานนี้ (19 กรกฎาคม) โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งออกประกาศเรื่องส่วนลดค่าธรรมเนียมการศึกษาในสถานการณ์โควิด สืบเนื่องจากกลุ่มผู้ปกครองเด็กอนุบาล 147 คน รวมตัวกันยื่นหนังสือถึงผู้บริหารให้คืนค่าเทอม หลังบุตรหลานของตนต้องเรียนออนไลน์ตลอดเทอมในค่าเทอมเต็มจำนวน ราคา 72,000-100,000 บาท และถูกปรับตารางเรียนให้มีความหนักเกินไปสำหรับเด็กเล็กในการเรียนออนไลน์เพื่อทำให้เรียนครบตามเวลาเรียนจริง เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา 

โดยในประกาศมีการชี้แจงว่า ทางโรงเรียนได้ออกส่วนลดค่าธรรมเนียมการศึกษาเป็นส่วนลด 20-25% ของค่าเทอมในเทอมหน้า ซึ่งผู้ปกครองต้องชำระค่าเทอมของเทอมนี้เต็มจำนวนเท่านั้น ทำให้กลุ่มผู้ปกครองไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีหลายรายต้องการนำลูกลาออก-พักการเรียน และในหนังสือที่ยื่นไปได้ระบุชัดเจนว่าต้องการค่าเทอมคืนเป็นเงินเท่านั้น แต่โรงเรียนไม่ได้มีมาตรการสำหรับผู้ปกครองที่ไม่ต้องการจะให้ลูกศึกษาต่อในเทอมหน้าที่โรงเรียนเลย

ก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนได้แจ้งผ่านครูประจำชั้นว่า ชั่วโมงของการเรียนออนไลน์จะไม่ถูกนับรวมกับการเรียนจริงที่นักเรียนสามารถเข้าเรียนในห้องเรียน แต่เป็นเพียงการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน และทบทวนเนื้อหาเท่านั้น โดยจะเริ่มนับวันเรียนเมื่อโรงเรียนสามารถเปิดเรียนเต็มรูปแบบตามคำสั่งของกระทรวงศึกษาธิการ และจะมีการชดเชย รวมถึงเลื่อนปิดเทอมออกไป แต่ภายในประกาศที่ผู้ปกครองได้รับกลับมาวานนี้แจ้งว่าโรงเรียนได้เริ่มนับวันเรียนตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน เนื่องจากมีการทำกิจกรรมการเรียนการสอนให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมอย่างเต็มรูปแบบ 

ด้านชั่วโมงเรียนที่ผู้ปกครองแจงไปในหนังสือถึงผู้บริหารว่ามีความหนักเกินไปสำหรับเด็กอนุบาลที่ต้องเข้าเรียนออนไลน์ตั้งแต่เวลา 08.30-14.00 น. ทำให้เด็กเล็กต้องอยู่กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตลอดจำนวน 7 คาบเรียน โดยที่ผู้ปกครองหลายคนไม่สะดวกในการนั่งประกบลูกตลอดวัน และยังต้องเป็นผู้จัดเตรียมเอกสารประกอบการเรียนให้กับลูกเอง ในขณะที่ระบบการเรียนออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Zoom ก็ไม่มีประสิทธิภาพ ตัดการเชื่อมต่อทุก 40 นาที แต่ทางโรงเรียนไม่ได้มีการชี้แจงหรือปรับเปลี่ยนตารางในส่วนนี้แต่อย่างใด 

ในเบื้องต้นมีผู้ปกครองจำนวนหนึ่งแสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยการไม่ให้ลูกเข้าเรียนออนไลน์ จำนวนหนึ่งได้ทำเรื่องลาออก-พักการเรียนให้กับลูกแล้ว อีกทั้งบางส่วนได้ดำเนินการยื่นเรื่องไปทางเว็บไซต์ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยที่หากทางผู้บริหารของโรงเรียนยังเพิกเฉย จะมีการรวมกลุ่มผู้ปกครองเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป