ทุกวันนี้ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนจำนวนมากเปลี่ยนไปเพราะผลกระทบจากโควิด จากแต่เดิมที่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวันจันทร์-ศุกร์ หลายบริษัทเปลี่ยนนโยบายให้ทำงานที่บ้านถาวร หรืออนุโลมให้เข้าบริษัทแค่ไม่กี่วันต่อสัปดาห์ กลายเป็นว่าทุกที่คือที่ทำงาน และยิ่งผ่านช่วง WFH เกือบ 2 ปี ก็ต้องมีอาการเบื่อทำงานที่บ้านเป็นเรื่องธรรมดา จะหอบงานไปคาเฟ่หรือร้านอาหารก็แอบเกรงใจร้าน กลัวนั่งนานไม่ได้ จะหา Co-working Space ก็ใช่เรื่องอยู่
ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อแวะไปที่ Paper Plane Project บริษัทสุดสร้างสรรค์ ที่เปิดพื้นที่บริษัทให้กลายเป็นคาเฟ่พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่เก้าโมงเช้าเวลาเข้างาน และพลิกมู้ดกลายเป็นบาร์หลังจากเวลาเลิกงานห้าโมงเย็นเป็นต้นไป ซึ่งเจ้าของบริษัท Paper Plane Project บอกว่าใครจะเอางานส่วนตัวมานั่งทำที่นี่ก็ยังได้
ที่มาของคาเฟ่และบาร์แห่งนี้เกิดขึ้นจากการสังเกตพฤติกรรมพนักงานออฟฟิศปัจจุบันที่มีบางโมเมนต์จะไม่อยากนั่งทำงานในออฟฟิศ บ้างก็หอบงานลงไปนั่งที่ร้านกาแฟใต้ตึกบ้าง หรือร้านรวงละแวกบริษัทบ้าง จึงผุดไอเดียทำร้านที่ให้ฟีลน่านั่งทำงานและนั่งชิล และจูงใจให้พนักงานออฟฟิศลองย้ายมานั่งทำงานที่นี่แทน WFH หรือนั่งอยู่ในออฟฟิศ บริษัทตัวเอง ประเดิมด้วยการใช้พื้นที่ชั้น 40 ตรงนี้ให้เป็นที่ตั้งของบริษัท เปเปอร์ เพลน โปรเจค จำกัด (ซึ่งเป็นเจ้าของคาเฟ่และบาร์แห่งนี้) โดยให้พนักงานบริษัทตัวเองมานั่งทำงานร่วมกับลูกค้าไปเลย
จากที่เป็นพื้นที่โล่งก็จัดวางโต๊ะยาวและเก้าอี้ทำงานเหมือนในออฟฟิศ ที่มาพร้อมรางปลั๊ก หายห่วงเรื่องนั่งทำงานยาวๆ
เพิ่มลูกเล่นด้วยมุมบาร์กาแฟ เผื่อใครทำงานเบื่อๆ จะย้ายไปนั่งหน้าเคาน์เตอร์ หรือแวะจิบ Dirty ให้หายเหนื่อยแล้วค่อยกลับไปลุยงานต่อ ถ้าทำงานยิงยาวถึงช่วงเย็นก็เปลี่ยนมู้ดไปนั่งจิบค็อกเทลได้เลย
นอกจากโต๊ะยาวแล้วก็มีห้องอีก 3 บล็อกแบบไร้ประตู ใครมาก่อนก็เข้าไปจับจองที่นั่งทำงานได้เหมือนกัน
มองไปข้างๆ มีมุมที่นั่งเผื่อใครมานั่งเมาท์พักจากงาน พร้อมเก้าอี้ชายหาดให้นั่งชิลชมวิวบางกระเจ้าที่มองเห็นลิบๆ จากทองหล่อ
ด้วยความที่ช่วงเย็นคาเฟ่จะเปลี่ยนมู้ดเป็นบาร์ พื้นที่ด้านหน้าที่เป็นมุมหนังสือให้หยิบอ่านเพลินจึงเป็นเวทีสำหรับดนตรีสดไปในตัว แถมไฟที่ติดบนเพดานเป็นระบบ Running Light ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการสังสรรค์ยามค่ำคืน
แม้เป็นคาเฟ่และบาร์ที่เน้นการเป็นพื้นที่นั่งทำงานของทุกคน แต่ใช่ว่าเรื่องกาแฟกับอาหารจะมาแบบเล่นๆ เพราะกาแฟที่นี่ใช้เมล็ดจาก Karo Coffee Roasters ส่วนค็อกเทลและอาหารก็ได้ทีมงานมากคุณภาพจาก Bar 335 เป็นผู้ดูแล ซึ่งอาหารจะเน้นเมนูรับประทานง่ายและเหมาะสำหรับการกินพร้อมทำงานไปในตัว
เติมพลังยามเช้าก่อนเข้างานด้วย Paper Plane Brekkie (240 บาท) จัดเต็มชุดอาหารเช้าที่ประกอบด้วยไส้กรอกสมุนไพรย่าง เบคอน ไข่คน มะเขือเทศย่าง และขนมปังซาวโดว์กับเนย กินคู่กาแฟร้อนรับรองสมองแล่นแน่นอน
ใครที่อยากได้อาหารหนักท้องขึ้นมาหน่อย ลองสั่ง Chicken Caper (260 บาท) อกไก่ย่างกับลูกเคเปอร์ จิ้มซอสเพสโต้มาโย จานนี้เคียงมาด้วยขนมปังซาวโดว์กับมะเขือเทศย่างเช่นเดียวกัน
Pasta Olio (280 บาท) พาสต้าจานเด็ดรสเผ็ดร้อนจัดจ้านสำหรับมื้อเที่ยง เส้นสปาเกตตีผัดพริกแห้ง กระเทียม และน้ำมันมะกอก โดยเพิ่มแพนเชตตา หรือเบคอนสไตล์อิตาเลียนเข้าไปด้วย ยิ่งทำให้พาสต้าจานนี้ครบเครื่องยิ่งขึ้น
เมนูกาแฟที่ใช้เมล็ดจาก Karo Coffee Roasters เปลี่ยนจากอเมริกาโนร้อนไปฝั่งกาแฟใส่นมกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็น Latte (140 บาท) หรือ Dirty (160 บาท) ก็ดีทั้งนั้น โดยเฉพาะ Dirty กาแฟร้อนปะทะนมปรุงรสพิเศษที่เสิร์ฟแบบเย็นจัด ให้สัมผัสนุ่มและกลมกล่อมในตัว
Lacto Roseberry ดริงก์พิเศษเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์นี้ เป็นม็อกเทลที่มีส่วนผสมระหว่างกาแฟ กุหลาบ และน้ำราสป์เบอร์รีหมัก ให้รสกลมกล่อมระหว่างเปรี้ยวกับหวาน และกลิ่นกุหลาบหอมๆ
สำหรับใครที่ตั้งใจมาช่วงเย็นจะต้องตรวจ ATK ที่ล็อบบี้ด้านล่างก่อนขึ้นไปที่ร้าน และดนตรีสดเริ่มตั้งแต่เวลา 19.30-22.00 น. หรือถ้าบรรยากาศเป็นใจจะกดลิฟต์ขึ้นไปสนุกกันต่อที่ Tichuca ชั้น 46 ก็ยังได้
Paper Plane Project
Open: วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-23.00 น.
Address: ชั้น 40 ตึก T-One ถนนสุขุมวิท
Budget: 300-500 บาท
Tel: 06 5878 5562
Website: https://www.instagram.com/paperplaneproject.bkk
Map: