เปาโล รอสซี ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังแดนมักกะโรนีผู้เป็นฮีโร่พาทีม ‘อัซซูรี’ พิชิตแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1982 เสียชีวิตด้วยวัย 64 ปี
นับเป็นข่าวร้ายอีกครั้งของวงการฟุตบอลที่สูญเสียบุคคลระดับตำนานมากมายในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น แจ็ค ชาร์ลตัน และน็อบบี สไตล์ส ตำนานทีมชาติอังกฤษชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1966, ดิเอโก มาราโดนา เทพเจ้าลูกหนังชาวอาร์เจนตินา หนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดตลอดกาล และก่อนหน้านี้ อเลฮานโดร ซาเบยา อดีตนักเตะและโค้ชทีมชาติอาร์เจนตินาผู้พาทีมคว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 โดยทางช่อง Rai Sport ที่รอสซีทำงานในฐานะนักวิเคราะห์ได้แจ้งข่าวเศร้าต่อทุกคน
“เป็นข่าวที่เศร้าอย่างยิ่ง เปาโล รอสซี จากพวกเราไปแล้ว” เอ็นริโก วาร์ริอาเล หนึ่งในพิธีกรของช่อง Rai Sport ทวีตข้อความ “ปาบิลิโต ผู้ที่เราจะไม่มีวันลืมเลือนได้ คนที่ทำให้พวกเราทุกคนตกหลุมรักฤดูร้อนของปี 1982 และคนที่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีและแข็งขันของ Rai ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สู่สุคติเถิดเปาโล”
หลังจากข่าวร้ายเป็นที่รับรู้ได้ไม่นาน คัปเปลเล็ตติ เฟเดริกา ภรรยาของรอสซี ได้โพสต์ภาพที่ถ่ายคู่กับสามีพร้อมข้อความว่า ‘per sempre’ ที่มีความหมายว่า ‘นิรันดร์’ โดยไม่ได้มีการเปิดเผยถึงสาเหตุของการเสียชีวิตแต่อย่างใด
สำหรับรอสซีเป็นอดีตศูนย์หน้าชื่อก้องของทีม ‘ม้าลาย’ ยูเวนตุส และ ‘ปีศาจแดงดำ’ เอซี มิลาน เป็นคนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าที่เก่งที่สุดตลอดกาลของโลกและของอิตาลี โดยเฉพาะการสร้างตำนานในศึกฟุตบอลโลก 1982 ที่ประเทศสเปน โดยในฟุตบอลโลกครั้งนั้น ยอดดาวยิงผู้นี้สร้างผลงานที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดครั้งหนึ่งของนักฟุตบอลที่ได้มีโอกาสเล่นฟุตบอลโลก ทั้งๆ ที่เกือบจะไม่ได้เข้าร่วมอยู่แล้วจากกรณีที่โดนลงโทษแบนฐานล้มบอลเป็นเวลา 3 ปี แต่ได้รับการลดหย่อนโทษในเวลาต่อมา
นัดที่สร้างชื่อเสียงให้แก่รอสซีมากที่สุดคือการนำทีมชาติอิตาลีลงห้ำหั่นกับทีมชาติบราซิล ซึ่งเป็นตัวเต็งแชมป์โลกในปีนั้น ที่นำมาโดยสุดยอดนักเตะอย่าง ซิโก้ และโซคราเตส และสามารถทำแฮตทริกช่วยให้ทีมอัซซูรีซึ่งเป็นม้านอกสายตา เพราะทีมย่ำแย่อย่างมากตั้งแต่ก่อนฟุตบอลโลก และในรอบแรกของฟุตบอลโลกก็สามารถคว้าชัยชนะได้ 3-2 จนสุดท้ายก็พาทีมพิชิตเยอรมนีตะวันตกในนัดชิงชนะเลิศ
ผลงานมหัศจรรย์ดังกล่าวทำให้รอสซีได้รับเลือกให้เป็นเจ้าของรางวัลลูกฟุตบอลทองคำ ‘บัลลงดอร์’ ประจำปี 1982 นอกจากนี้ยังเคยเป็นนักฟุตบอลที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดของโลก และพาทีมยูเวนตุสคว้าแชมป์เซเรีย อา 2 สมัย และแชมป์ยูโรเปียนคัพในปี 1984 อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในวีรบุรุษลูกหนังที่ชาวอิตาลีรักมากที่สุดคนหนึ่ง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
