จากที่เคยขายได้มากถึง 2 แสนล้านก้อน มาวันนี้กลับขายได้เพียง 5 พันล้านก้อนต่อปี ด้วยเสน่ห์ที่ลดลง ทำให้ Panasonic ได้ออกมาระบุว่า จะขายโรงงานในยุโรปสองแห่งที่ผลิตแบตเตอรี่สำหรับผู้บริโภคแบบใช้แล้วทิ้ง ให้กับกองทุน Aurelius ของเยอรมนี พร้อมมุ่งไปสู่การผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่กำลังมาให้มากขึ้น
ในข้อตกลงที่จะสรุปในเดือนมิถุนายน บริษัทเทคโนโลยีของญี่ปุ่นจะขายโรงงานในโปแลนด์และโรงงานในเบลเยียม รวมไปถึงฝ่ายขาย ข้อตกลงนี้รวมถึง Eneloop ซึ่งเป็นแบรนด์ของแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟและอุปกรณ์เสริม ซึ่งใช้เทคโนโลยีนิกเกิลเมทัลไฮไดรด์
โดยดีลนี้ยังไม่มีการเปิดเผยมูลค่า แต่คาดว่าจะมีมูลค่ารวมหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยหลังจากการซื้อ Aurelius จะยังคงขายแบตเตอรี่ภายใต้แบรนด์ญี่ปุ่นต่อไปอีกระยะหนึ่ง
Panasonic เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับใช้ในครัวเรือนรายใหญ่ โดยมีแบตเตอรี่อัลคาไลน์และสังกะสีคาร์บอนที่ผลิตในโรงงานสองแห่งที่จำหน่ายทั่วยุโรป โดยการดำเนินงานของ Panasonic สร้างยอดขาย 230 ล้านยูโร หรือ 8.5 พันล้านบาท ในช่วงปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2020
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมทั่วยุโรปได้ลดโอกาสในการเติบโตของแบตเตอรี่ที่ไม่สามารถชาร์จใหม่ได้ ตัวอย่างเช่น IKEA ซึ่งเป็นเครือข่ายเฟอร์นิเจอร์ของสวีเดนมีแผนที่จะลดการขายแบตเตอรี่ดังกล่าว
ทว่าแบตเตอรี่ยังคงมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์กับบรรดาตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในหลายภูมิภาค Panasonic จะยังคงรักษาศูนย์กลางการผลิตในเอเชีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานแบตเตอรี่สำหรับผู้บริโภค
นอกเหนือจากการขายโรงงานแล้ว สำหรับธุรกิจในยุโรปนั้น Panasonic กำลังพิจารณาที่จะสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ EV ในยุโรป ด้วยมีโอกาสจากโรงงานประกอบรถยนต์ในเยอรมนีแห่งใหม่ของ Tesla ซึ่งจะทำให้ความต้องการแบตเตอรี่มีเพิ่มมากขึ้น
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
