วันนี้ (16 กรกฎาคม) ที่อาคารรัฐสภา ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการประชุมวิปฝ่ายค้านวันนี้ว่า มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม 2567 ที่จะเข้าสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (17 กรกฎาคม) ซึ่งร่างดังกล่าวเสนอเข้ามาเพื่อจะนำไปใช้ในโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ล้วนๆ
ปกรณ์วุฒิเปิดเผยว่า ผู้อภิปรายในสัดส่วนของพรรคก้าวไกลมีรายชื่อแล้วประมาณ 10-11 คน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์แจ้งมา 3 คน แต่คาดว่าจะมีเพิ่ม และพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ ก็ร่วมอภิปรายด้วยเช่นกัน โดยเนื้อหาการอภิปรายจะเกี่ยวข้องกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่น่าจะมีหลายแง่มุม ทั้งข้อกฎหมาย การจัดสรรงบประมาณ ความคุ้มค่าของงบประมาณ และข้อกังวลต่างๆ เกี่ยวกับโครงการนี้
“เราได้สอบถามนายกรัฐมนตรีไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า งบกลางของปี 2567 มีการเบิกใช้ไปค่อนข้างน้อย เราได้ตั้งข้อสันนิษฐานไปว่า รัฐบาลพยายามกั๊ก หรือบริหารจัดการ ไม่ยอมใช้งบกลางในเรื่องอื่นๆ เพื่อให้มีงบประมาณมาทำโครงการนี้ให้ได้ ถ้าเราเสียโอกาสในการแก้ปัญหาในโครงการอื่นๆ แล้ว วัดดวงกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้นโยบายเงินโอน แบบนี้สร้างตัวคูณทางการคลังน้อยมาก และคาดว่าล่าสุดรัฐบาลก็ทราบแล้ว ที่ออกมายอมรับว่าตัวคูณทางการคลังจะถึง 0.5 ด้วยซ้ำ ซึ่งผมก็ไม่มั่นใจว่าจะคุ้มค่ากับการที่ยอมเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทำโครงการนี้หรือไม่” ปกรณ์วุฒิกล่าว
ประธานวิปฝ่ายค้านยังมองว่า หากย้อนกลับไปช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยเคยบอกว่านโยบายนี้จะไม่กู้ แต่จะจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ลดงบประมาณที่ไม่ได้ใช้ แต่ที่มาของงบประมาณก็ถูกเปลี่ยนแปลงจนไม่เหลือเค้าเดิม เหลือเพียงการแจกเงิน 10,000 บาท แบบไม่ถ้วนหน้าด้วยซ้ำ
ปกรณ์วุฒิยังยืนด้วยว่า ฝ่ายค้านไม่เคยบอกว่าจะไปยื่นศาลปกครองเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้บอกไปแล้วว่ายังไม่เกิดความผิดขึ้น ยังไม่เกิดการบังคับใช้กฎหมาย และยังไม่มีความเสียหายทางกฎหมายเกิดขึ้น จึงต้องรอดูต่อ เราเพียงพูดถึงช่องทางที่เป็นไปได้ เริ่มต้นด้วยวิธีการทางสภาน่าจะดีที่สุด
ส่วนกรณีกระทู้ถามสดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีวาทกรรม ‘แรงค้านไร้อนาคต’ ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น เพราะนายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่า ไม่ได้หมายถึงอะไร และอาจไม่ได้หมายถึงฝ่ายค้านก็ได้
“เห็นนายกรัฐมนตรีชอบฮึ่มๆ ใส่หน่วยงานอื่น อย่างเช่นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บ่อยๆ อาจเป็น ธปท. ก็ได้ ผมขอไม่รับคำเสียดสีนี้ไว้ และไม่ทราบว่านายกฯ เสียดสีใคร” ปกรณ์วุฒิกล่าว
