หลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้ (14 สิงหาคม) ส่งผลให้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 หลุดจากตำแหน่ง และในช่วงแรกมีการคาดเดากันว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีโอกาสที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี
การคาดการณ์ดังกล่าวนำไปสู่แรงเก็งกำไรที่เข้ามายังหุ้น บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น หรือ STEC และหุ้น บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ หรือ STPI ซึ่งเชื่อมโยงกับอนุทิน ทำให้ราคาหุ้นทั้งสองบริษัทปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ 11.1% และ 5.5% ตามลำดับ
ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อของ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อชิงตำแหน่งนายกฯ คนที่ 31 ของไทย
กระแสที่พลิกจากอนุทินมาเป็นแพทองธาร ทำให้ราคาหุ้นของ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ SC ปรับตัวขึ้นกว่า 5% ในวันนี้ สวนทางกับราคาหุ้นของ STEC และ STPI ที่ดิ่งลง 10% และ 6% ตามลำดับ
นอกจาก SC แล้ว หุ้นอีกหนึ่งตัวที่ถูกเก็งกำไรขึ้นมาคือ บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า หรือ PR9 ซึ่งแพทองธารถือหุ้นอยู่ 5 ล้านหุ้น หรือ 0.64%
ภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่ากระแสเก็งกำไรในหุ้นอย่าง SC และ STEC ในระยะสั้นจะเหวี่ยงไปตามโมเมนตัมของการคาดการณ์ผู้ที่จะมารับตำแหน่งนายกฯ คนใหม่
“โดยทั่วไปแล้วนักลงทุนจะคาดการณ์ล่วงหน้าถึงหุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นนโยบายที่เอื้อกับธุรกิจนั้นๆ แต่การคาดการณ์เหล่านี้อาจเกิดหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ หากดูจากช่วงการดำรงตำแหน่งของเศรษฐา แม้จะมีความคืบหน้าเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ยังไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งส่งผลบวกโดยตรงกับหุ้นอย่างแสนสิริ”