วันนี้ (3 ตุลาคม) ที่กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับผู้นำระหว่างประเทศ ในห้วงการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 (3rd Asia Cooperation Dialogue Summit: ACD) และเข้าหารือทวิภาคีกับ เชค มุฮัมมัด บิน อับดุรเราะฮ์มาน บิน ญาสซิม อาล ษานี (His Excellency Sheikh Mohammed bin Abdulrahman bin Jassim Al-Thani) นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัฐกาตาร์
นายกรัฐมนตรีกาตาร์กล่าวแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีสุภาพสตรีที่อายุน้อยที่สุดซึ่งเดินทางมาเยือนกาตาร์ เชื่อมั่นในความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี ซึ่งกาตาร์พร้อมขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาศักยภาพร่วมกัน และพร้อมที่จะร่วมมือด้านหุ้นส่วนทางเทคโนโลยี การศึกษา เพื่อพัฒนาทั้งสองประเทศให้ดียิ่งขึ้น
ฝ่ายกาตาร์เห็นความสำคัญของการพัฒนา AI Application โดยมองว่าจะมีบทบาทเป็นตัวเปลี่ยนเกม (Game Changer) ในอนาคตอันใกล้ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวถึงจุดเด่นของไทย ซึ่งมีความพร้อมในการเป็น Food Stocks ให้กับกาตาร์ โดยฝ่ายกาตาร์ตอบรับด้วยความยินดี
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณฝ่ายกาตาร์ ที่มีส่วนในการไกล่เกลี่ยในการปล่อยตัวประกันไทย และขอให้กาตาร์ช่วยเจรจาเพื่อการปล่อยตัวเพิ่มเติม
จากนั้น เวลา 11.30 น. นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ เชค ตะมีม บินฮะมัด อาล ษานี (His Highness Sheikh Tamim bin Hamad Al-Thani) เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์
โดยเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทย และกล่าวว่า ไทยและกาตาร์มีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมระหว่างกัน ชาวกาตาร์เดินทางไปเยือนไทยจำนวนมาก เนื่องจากไทยมีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism)
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยพร้อมที่จะริเริ่มความร่วมมือใหม่ๆ กับกาตาร์ เช่น ด้าน Soft Power ความร่วมมือด้านบุคลากร เพื่อยกระดับทักษะและเรียนรู้ทักษะใหม่ (Upskill และ Reskill) ให้บุคลากรไทยเพื่อรองรับความสามารถในการแข่งขันต่างๆ
พร้อมกันนี้ เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์กล่าวถึง AI Application และทรงเห็นว่าประเทศขนาดกลางควรจะมีความร่วมมือด้าน AI เพื่อเสริมศักยภาพร่วมกัน โดยในโอกาสนี้ กาตาร์พร้อมร่วมมือกับรัฐบาลไทยในทุกๆ ความร่วมมือ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยพร้อมสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสานต่อความร่วมมือต่อไป
