×

หุ้น OTO ดิ่งติดฟลอร์ 3 วันรวด มูลค่าหายเกือบ 80% จากจุดพีค จับตาอนาคตหลังได้เงินจากวอร์แรนต์เกือบ 700 ล้านบาท และจะเพิ่มทุนอีก 800 ล้านบาท

14.06.2023
  • LOADING...

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของ บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ (OTO) ร่วงลงติดกรอบล่างของราคาระหว่างวัน (Floor) ที่ระดับ 5.55 บาท หรือลดลง 29.75% จากวันก่อนหน้า โดยราคาหุ้นที่ร่วงลงมานี้เป็นการดิ่งลงมาติดฟลอร์เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ทำให้ราคาหุ้นของ OTO ลดลงไป 65% ภายใน 3 วันทำการ และหากพิจารณาจากจุดสูงสุดของราคาหุ้นที่เคยขึ้นไปแตะ 24.40 บาท เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา จะเห็นว่ามูลค่าของ OTO หายไปแล้วเกือบ 80% จากกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท มาเหลือประมาณ 3 พันล้านบาท ภายในเวลาเพียงแค่ 10 วัน

 

เดิมที OTO เคยเป็นบริษัทในเครือของ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) ก่อนที่ SAMART จะขายหุ้น OTO ที่ถืออยู่ราว 69% ให้กับนักลงทุน 3 ราย ได้แก่ บุญเอื้อ จิตรถนอม, สุทธิพจน์ อริยสุทธิวงศ์ และ ณัฐพงศ์ ศีตวรรัตน์ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 464.88 ล้านบาท เมื่อปลายปี 2563 

 

ในระหว่างนั้นราคาหุ้น OTO ก็เริ่มขยับขึ้นและมีแรงเก็งกำไรเข้ามา ทำให้ราคาหุ้นจากที่เคยอยู่ราว 1.60 บาท ขยับขึ้นไปถึง 19.40 บาท เมื่อเดือนมกราคม 2565 เพิ่มขึ้นถึง 1,100% ในเวลาประมาณ 15 เดือน 

 

หลังจากนั้น ราคาหุ้นได้แกว่งตัวอยู่ในกรอบประมาณ 12-20 บาท มาจนถึงต้นปีนี้ ก่อนจะพุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 24.40 บาท เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

 

ก่อนที่ราคาหุ้นของ OTO จะถล่มลงมาอย่างรุนแรง บริษัทมีธุรกิจหลักคือให้บริการบริหารจัดการงานลูกค้าสัมพันธ์ รวมทั้งบริการให้เช่าอุปกรณ์ Contact Center ก่อนที่จะพยายามแตกไลน์ธุรกิจใหม่ๆ ได้แก่ ธุรกิจนำเข้า ผลิต ประกอบ และจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งธุรกิจให้บริการด้านแพลตฟอร์มเกี่ยวกับเกมและการแข่งขันกีฬาอิเล็กทรอนิกส์

 

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของบริษัทยังไม่ได้เติบโตไปในทิศทางเดียวกับราคาหุ้นเท่าใดนัก แม้ปี 2562 จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 33 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นก็ขาดทุนสุทธิ 48.8 ล้านบาทในปี 2563 ก่อนจะพลิกมาเป็นกำไรสุทธิ 55.7 ล้านบาทในปี 2564 แต่ก็กลับมาเป็นขาดทุนสุทธิ 116.2 ล้านบาทในปี 2565 ส่วนไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 32.5 ล้านบาท 

 

ในช่วงที่ราคาหุ้น OTO ถูกไล่ซื้อจนราคาพุ่งขึ้นสูงมาก ทำให้ค่า P/E เคยสูงกว่า 2,000 เท่า แต่ปัจจุบันไม่สามารถคำนวณค่า P/E ได้ เนื่องจากผลประกอบการ 12 เดือนที่ผ่านมายังคงเป็นผลขาดทุนสุทธิ 

 

ถึงแม้ว่าผลประกอบการของ OTO จะยังไม่ได้สร้างกำไรอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทยังมีการระดมทุนเข้าบริษัทเพิ่มเติมอยู่ด้วย ล่าสุดคือกรณีของ OTO-W1 ที่เปิดให้นักลงทุนใช้สิทธิแปลงสภาพระหว่างวันที่ 24-30 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีการใช้สิทธิ 233,236,514 หน่วย ที่ราคา 3 บาท ในอัตราส่วน 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้น คิดเป็นมูลค่าเงินระดมทุน 699.7 ล้านบาท 

 

แหล่งข่าวนักวิเคราะห์มองว่า ที่ผ่านมาหุ้น OTO เป็นการเล่นตามเรื่องราวความคาดหวังเป็นหลัก แต่หากพิจารณาจากอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ เช่น P/E หรือกำไรที่ยังติดลบในช่วง 12 เดือนล่าสุด

 

อีกหนึ่งประเด็นที่สังเกตคือ ราคาหุ้นที่ดิ่งลงอย่างหนัก เกิดขึ้นหลังจากกระบวนการใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์จบลง จะเห็นว่าในช่วงระหว่างการใช้สิทธินักลงทุนที่ใช้สิทธิจะยังได้กำไรเพราะต้นทุนจากการแปลงอยู่ที่ราว 10 บาท คำนวณจากราคาวอร์แรนต์ที่ประมาณ 7 บาท บวกกับราคาใช้สิทธิ 3 บาท ขณะที่ราคาหุ้นในเวลานั้นยังอยู่สูงกว่า 20 บาท แต่ในปัจจุบันนักลงทุนที่ใช้สิทธิต้องขาดทุนกันถ้วนหน้า 

 

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 50 ล้านบาท เป็น 889.99 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ 50 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 4 ราย ได้แก่

   

  1. Capital Asia Investments จำนวน 20 ล้านหุ้น 
  2. ยศวีย์ วัฒนธีระกิจจา จำนวน  20 ล้านหุ้น 
  3. นพพร วิฑูรชาติ จำนวน 5 ล้านหุ้น 
  4. รฐา วีรพงษ์ จำนวน 5 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 16 บาท รวมเป็นเงิน 800 ล้านบาท

 

กำหนดวันจองซื้อหุ้นและชำระราคาหุ้นวันที่ 27-28 มิถุนายน 2566 โดยจะนำไปรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยในอนาคต ซึ่งรวมถึงธุรกิจพลังงานทดแทน และ/หรือธุรกิจเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต และ/หรือธุรกิจที่มีศักยภาพซึ่งมีผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี ในช่วงปี 2566-2568

 

ขณะเดียวกัน OTO ยังได้อนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 2 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้กำหนดรายละเอียดในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยและช่วงเวลาการขายที่แน่ชัด 

 

สิ่งที่น่าติดตามหลังจากนี้ คือหลังจากการถล่มลงของราคาหุ้นเกือบ 80% เกิดขึ้นแล้ว นักลงทุนทั้ง 4 รายจะยังยินดีใส่เงินลงทุนเข้ามาในบริษัทที่ราคา 16 บาทเช่นเดิมหรือไม่ และท้ายที่สุดแล้วธุรกิจต่างๆ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงเจ้าของใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน จะออกดอกออกผลได้เมื่อใด

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X