สำหรับ ‘โอสถสภา’ องค์กรที่อยู่คู่กับคนไทยมานานกว่า 130 ปี คำว่า ‘เต๊กเฮงหยู’ หรือ ‘ความเจริญโดยการช่วยเหลือผู้อื่น’ คือแนวทางการดำเนินธุรกิจที่อยู่ในดีเอ็นเอของโอสถสภา นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธุรกิจจนมาถึงปัจจุบัน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โอสถสภาดำเนินธุรกิจควบคู่กับการช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด โดยเฉพาะการสนับสนุนช่วยเหลือคนพิการและผู้ด้อยโอกาสในสังคมด้วยแนวคิด ‘ให้เบ็ดดีกว่าให้ปลา’ คือเน้นการส่งเสริมอาชีพ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ
ย้อนกลับไปในปี 2554 โอสถสภาริเริ่มโครงการ ‘โอสถสภา เพื่อชีวิตที่ดี..ยิ่งกว่า’ เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสในสังคมในโอกาสครบรอบ 120 ปี และดำเนินการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากนั้นในปี 2560 ได้พัฒนาสู่โครงการ ‘พลังเพื่อก้าวต่อไป’ หรือ ‘Life must go on’ สนับสนุนการสร้างอาชีพให้คนพิการด้วยการเสริมสร้างพลังกาย ฟื้นฟูร่างกายและพัฒนาศักยภาพ เสริมสร้างพลังใจ โดยการปรับสภาพบ้านให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ด้วยตนเอง ไม่เป็นภาระของคนในครอบครัว ทำให้มีความมั่นใจอีกครั้ง
ตลอดจนเสริมสร้างพลังชีวิต ส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสม หรือจัดหาอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้ผู้ที่มีทักษะแต่ขาดทุนทรัพย์ เช่น อาชีพปลูกถั่วงอก เพาะเห็ด สานกระเป๋า ขายอาหาร ตัดผม ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า งานไม้ เพื่อเป็นพลังให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ
ถัดมาในปี 2562 ได้ต่อยอดสนับสนุนช่วยเหลือคนพิการเพิ่มเติมมากกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะการเป็นพลังให้กับผู้ใช้แรงงานที่เคยเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่ประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยจนพิการ ให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพเพื่อดูแลตนเองและครอบครัวได้อีกครั้ง
สิ่งที่น่าสนใจคือ ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินโครงการฯ โอสถสภาได้สั่งสมองค์ความรู้ ซึ่งนำไปสู่การสร้างเครือข่ายความร่วมมือร่วมกับองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมการจัดหางาน หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
รวมถึงได้ต่อยอดพัฒนาเสริมสร้างโมเดลใหม่ๆ ซึ่งสร้างความแข็งแกร่งให้แก่คนพิการ ทั้งการรวมกลุ่ม พึ่งพากันและกัน การแลกเปลี่ยนความรู้และช่องทางการจำหน่ายสินค้า ให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการทำการตลาด ส่งเสริมการขาย
ขณะเดียวกันยังช่วยสร้างแบรนด์ให้แก่สินค้าของคนพิการในโครงการฯ ได้แก่ สินค้าเกษตรปลอดภัยใช้ชื่อแบรนด์ ‘กินดี’ ส่วนงานจักสานใช้ชื่อแบรนด์ว่า ‘แฮนดี้’ และเฟอร์นิเจอร์งานไม้ใช้ชื่อแบรนด์ ‘อยู่ดี’
นอกจากนี้คนพิการในโครงการยังเปลี่ยนจากผู้รับเป็นผู้ให้ แบ่งปันโอกาสที่ตนเคยได้รับให้แก่คนอื่นๆ รวมถึงได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้โดยคนพิการเพื่อคนพิการ เพื่อถ่ายทอดความรู้และทักษะให้แก่สมาชิกใหม่และผู้ที่สนใจ
โดยในปี 2564 โอสถสภาบรรลุตามเป้าหมายให้ความช่วยเหลือแก่คนพิการรวม 130 คน เพื่อเป็นการร่วมฉลองในโอกาสที่ดำเนินธุรกิจครบรอบ 130 ปี นอกจากนี้ยังได้สร้างเพจ กินดี อยู่ดี แฮนดี้ (https://www.facebook.com/Kindee.Yoodee.Handy/) เพื่อขยายช่องทางการทำตลาดออนไลน์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้ทำให้ ‘โอสถสภา’ ภูมิใจที่ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนไทย ควบคู่ไปกับการเป็นพลังเคียงข้างคนไทยมาตลอด 130 ปี โอสถสภาจะยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ดังกล่าวเพื่อเป็นพลังเสริมสร้างชีวิตและเติบโตเคียงข้างสังคมไทยสืบต่อไป