นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ประกาศตัดความเป็นเมืองพี่เมืองน้องกับนครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างเป็นทางการ เพื่อประท้วงเมืองซานฟรานซิสโกจากกรณีที่ตั้งรูปปั้น ‘หญิงบำเรอ’ หรือ ‘Comfort Women’ เพื่อรำลึกถึงสตรีที่ถูกบังคับให้ร่วมประเวณีกับทหารญี่ปุ่นในช่วงปี 1931-1945
ฮิโรฟุมิ โยชิมุระ นายกเทศมนตรีนครโอซาก้าเปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือถึงเมืองซานฟรานซิสโกเพื่อแจ้งยุติการเจริญสัมพันธไมตรีที่ยาวนาน 61 ปีระหว่างสองเมือง หลังไม่พอใจที่ซานฟรานซิสโกอนุญาตให้ตั้งรูปปั้น Comfort Women ซึ่งสร้างขึ้นโดยชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายจีน เกาหลี และฟิลิปปินส์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดย 3 ประเทศดังกล่าวถูกทหารญี่ปุ่นรุกรานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เจฟฟ์ เครตัน โฆษกประจำตัวของนายกเทศมนตรีซานฟรานซิสโกระบุว่า การตัดสินใจของโยชิมุระเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่เขาบอกว่า ถึงแม้โอซาก้าจะยุติความสัมพันธ์ในระดับพิธีการ แต่สองเมืองยังคงติดต่อกันผ่านทางความสัมพันธ์ระดับประชาชนต่อประชาชน
ด้าน ลิเลียน ซิง ประธานร่วมกลุ่ม Comfort Women Justice Coalition แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า “การตัดความสัมพันธ์จากกรณีรูปปั้นเป็นเรื่องไร้เหตุผล มันแสดงถึงการที่นายกเทศมนตรีโอซาก้าและนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ กลัวที่จะยอมรับความจริงและพยายามจะปฏิเสธประวัติศาสตร์”
ทั้งนี้นักประวัติศาสตร์ระบุว่า มีผู้หญิงหลายแสนคนทั่วเอเชียที่ตกเป็นเหยื่อถูกบังคับล่อลวงไปยังซ่องโสเภณีของทหารญี่ปุ่น ถึงแม้ญี่ปุ่นจะออกมากล่าวขอโทษเมื่อปี 1993 แต่ประเด็นนี้ยังคงสร้างความระหองระแหงระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย โดยเฉพาะเกาหลีใต้ที่ยังโกรธแค้นญี่ปุ่นที่เข้ามายึดครองประเทศในช่วงปี 1910-1945
ปัจจุบันรัฐบาลญี่ปุ่นปฏิเสธว่า Comfort Women ถูกบังคับให้เป็นทาสทางเพศในญี่ปุ่น โดยให้เหตุผลว่าขาดเอกสารหลักฐานมาสนับสนุน ขณะเดียวกันก็ระบุว่ารูปปั้น Comfort Women ในซานฟรานซิสโกและประเทศอื่นๆ ถูกสร้างขึ้นเพื่อกล่าวโทษญี่ปุ่นอย่างไม่ถูกต้อง
โอซาก้าและซานฟรานซิสโกได้สถาปนาความสัมพันธ์แบบเมืองพี่เมืองน้องตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 1957 เพราะสองเมืองมีความคล้ายคลึงกันในด้านภูมิศาสตร์และขนาด โดยที่ผ่านมาสองเมืองมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างเจ้าหน้าที่และนักเรียนนักศึกษาอย่างต่อเนื่อง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
